ในความต่าง
ตอนนั้น...ที่ผีเสื้อยังเด็กๆ จำได้อย่างแม่นยำ เวลาปิดเทอม
ผีเสื้อจะถูกส่งให้ไปอยู่กับคุณย่ามั่ง คุณยายมั่ง ตามแต่โอกาส
และ ความสะดวกของพ่อแม่ ซึ่งเป็นความโชคดีที่ทำให้ผีเสื้อ
เติบโตขึ้นมากับวิถีชีวิต และความเชื่อแบบไทยแท้ๆ
ทั้งคุณย่า และคุณยาย ต่างพาผีเสื้อไปทำบุญ นำอาหาร
ไปถวายพระที่วัด ทุกวันพระ เป็นประจำ
............
ที่ภาคอิสาน...บ้านของคุณยาย...ก่อนถึงวันพระ คุณยาย
จะเตรียมซื้อของสดมาเพื่อทำอาหารในเช้าวันรุ่งขึ้น
อาหารที่คุณยายนิยมทำเป็นอาหารอิสาน อย่างเช่น
แกงหวาย แกงอ่อม ผัดผักต่างๆ ปลาช่อนนึ่งกับผัก
ที่เก็บได้ในสวนจิ้มแจ่ว ของหวานจะเป็น ข้าวต้มผัด
กล้วยบวชชี(ผลิตผลจากในสวนเหมือนกัน)
อุปกรณ์ที่ใช้จะเป็น ขันเงินใบเขื่อง พร้อมถาดเงิน
กระติ๊บข้าวเหนียว ปิ่นโตใส่อาหาร
เช้าวันพระ...หลังจากอาหารจัดพร้อมแล้ว คุณยาย
จะเกรณฑ์ผีเสื้อให้ไป อาบน้ำ แต่งตัวซะสวยเชียว
คุณยายใส่ผ้าซิ่นไหมแพรวา เสื้อผ้าลูกไม้สีขาว
พร้อมกับห่มสไบไหมสีขาว (ซึ่งจะใช้เป็นผ้ากราบเวลาฟังเทศน์)
เมื่อถึงวัด เรา(ยายหลาน) จะช่วยกันจัด ข้าวเหนียว
และข้าวต้มผัดใส่ขัน ดอกไม้ธูปเทียน วางในถาด
เสร็จแล้วจะช่วยกันตักบาตร (ด้วยข้าวเหนียวและข้าวต้มผัด)
ส่วนอาหารในปิ่นโตก็รอถวายตอนพระฉัน
...............
มาดูบ้านของคุณย่ามั่ง...คุณย่าของผีเสื้ออยู่ในชนบท
ภาคกลาง เวลาจะไปถวายอาหารพระที่วัดก็จะวุ่นวาย
ทำอาหารเหมือนกัน ความต่างอยู่ที่อาหารและอุปกรณ์ที่ใช้
อาหารของคุณย่าจะเป็น น้ำพริกกระปิ ปลาทอด
แกล้มด้วยผักสด แกงส้ม หรือ แกงเผ็ด หรือแกงเขียวหวาน
ของหวานที่ผีเสื้อชอบมาก(กินก่อนพระเสมอ) คือ
ข้าวฟ่างเปียก ราดด้วยน้ำกระทิขาวข้น หรือสาคูถั่วดำ
หรือ ถั่วกวน เผือกกวน อัดด้วยพิมพ์ รูปดอกไม้
อุปกรณ์เครื่องใช้ของคุณย่าจะเป็น ถาดทองเหลืองใบใหญ่
พร้อมชามโคมใบเล็กๆ เป็นกระเบื้องเนื้อบางเฉียบ มีฝาปิด
น่ารักมาก(อันนี้ผีเสื้อชอบมากๆๆๆ)
คุณย่าจะจัดข้าวปลาอาหารใส่ชามปิดฝา แล้วเรียงลงใน
ถาดทองเหลือง ทำ 2 สำรับ แล้วนำสำรับใส่กระเชอ
ให้คนหาบไปวัด ส่วนคุณย่ากับคุณหลานก็จะแต่งตัวสวย
เดินตามคนหาบกระเชอไป แต่คุณย่าไม่มีผ้าสไบ
ที่เป็นผ้ากราบเหมือนคุณยาย
เมื่อถึงวัดคุณย่าก็จะเปิดฝาชามเก็บไว้ แล้วถวายอาหาร
พระทั้งสำรับเลย
มันเป็นความแตกต่างที่ผีเสื้อพบเห็น แต่ในความต่าง
ยังมีความเหมือนคือทั้งคุณย่า และ คุณยาย มีใบหน้าอิ่มเอบ
มีรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา คุณย่าและคุณยายงาม
เหลือเกิน เป็นความงามที่เปล่งออกมาจากภายใน ที่เกิดมาจาก
ความปิติยินดี ที่ได้มาทำบุญ นั่นเอง .....