โนรา-โนบรา
อยากจะเขียนเรื่องโนรา-โนบรา อาจจะช้าสมัยไปนิดแต่คงจะไม่เป็นไร
โนรา - เป็นมหรสพอย่างหนึ่งของชาวใต้ ซึ่งในสมัยรุ่นปู่ย่าตายาย หรือรุ่นพ่อแม่ผม คงเป็นที่ชื่นชอบกันมากพอๆกับหนังตะลุง สังเกตได้จากจำนวนศิลปินสูงอายุมีจำนวนมาก และเริ่มคลายความนิยมลงเมื่อเกิดการไหลบ่าของวัฒนธรรมจากตะวันตก ความจริงจะเรียกสิ่งที่ไหลหลั่งเข้ามานี้ว่าวัฒนธรรม เสียทั้งหมดก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะสิ่งละอัน บางอย่างที่เรารับของเขามามันเป็นของที่ไม่เห็นว่าจะ"วัฒนะ"ตรงไหน พูดง่ายๆคือเป็นของเลว แต่จะไม่ขอยกตัวอย่างเพราะทราบๆกันดีอยู่แล้ว มาพูดเรื่องโนราต่อดีกว่า ในสมัยโบราณนั้นโนราเป็นการแสดงของผู้ชายล้วนๆ และคงจะมีการรำเพียงอย่างเดียวเรียกว่า รำแม่บทโนรา ต่อมาในสมัยหลังอีก อาจจะประมาณห้าสิบหรือหกสิบปีก่อน นายโนราเติม(คนชื่อเติมที่แสดงโนรา) จึงริเริ่มมีการร้องเป็นกลอนโนรา และก็นิยมร้องกันเรื่อยมา จนถึงยุคปัจจุบัน โนรามีการละเล่น ทั้งร้อง รำ แสดงเรื่อง และการทำบท ซึ่งผมชอบดูมาก เพราะเป็นการโชว์ศิลปะและปฏิภาณของนายโนราในการร้องและรำออกท่าทางไปพร้อมๆกัน เมื่อสมัยเด็กนั้นผมชอบดูโนรามาก ถ้ารู้ว่าที่ไหนมีการเล่น ก็จะต้องไปดูให้ได้ ยายต้องคอยห้ามไม่อยากให้ไปเพราะโนราจะเล่นตอนกลางคืน แต่ผมก็จะขอไปกับป้า เพราะป้าก็ชอบดูเหมือนกัน ตกลงป้าจึงต้องกอดแคระหลาน (หลานขี่หลังป้า) ไปด้วยกันสองคน เดินกันไปตามทางแสงสลัวๆในคืนเดือนเพ็ญ หรือจุดคบไฟด้วยทางมะพร้าวในคืนเดือนมืด บางครั้งก็เดินลุยน้ำทะเลไปตามชายฝั่ง ยิ่งเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงกลองเสียงตะโพนแล้วยิ่งตื่นเต้นเร้าใจ
โนบรา-อันนี้ไม่เกี่ยวกับศิลปะการแสดงแต่เป็นลักษณะการแต่งกายของวัยรุ่นสาวๆสมัยใหม่ และเป็นมหรสพชั้นดีของสิงห์หนุ่มและสิงห์เฒ่าทั้งหลาย เรียกว่าเห็นที่ไหนเป็นต้องจ้องดูกันจนเหลียวหลังบางครั้งขับรถแทบจะชนท้ายคันหน้าเพราะความตกตะลึงพรึงเพริด บอกตรงๆว่าผมก็ชอบดูเหมือนกัน ก็เขาแต่งมาให้ดูถ้าไม่ฉลองศรัทธาเขาบ้างก็จะเป็นการเสียน้ำใจ เดี๋ยวน้อยใจไม่มีใครสน อาจจะกลับบ้านไปซดยาฆ่าแมลงสาบ บาปก็จะตกแก่เราผู้ไม่ให้ความร่วมมือ.....ซี๊ด....ฮา
มีเพลงของคุณบิว-กัลยาณี ชื่อเพลง โนรา-โนบรา ซึ่งทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เปรียบเปรย สองสิ่งนี้ไว้ ทั้งๆที่เป็นคนละเรื่องเดียวกันแต่ก็ร้องได้น่าฟัง โดยเฉพาะท่อนสุดท้ายที่เธอร้องว่า "เสียแรงที่ไว้ใจ" นั้นทิ้งหางเสียงได้อย่างน่าฟัง
แล้วพี่มาลืม พี่มาลืมโนรา พอเจอะสาวโนบรา สาวโนราเลยจ๋อย อยู่ดงสายเดี่ยว เกาะเกี่ยว เอวลอย ทิ้งให้คนคอยนั่งใจลอยน้ำตาคลอ
ใยพี่ไม่จำ พี่ไม่จำสัญญา บอกไม่นานหลบมา ถึงเวลาสู่ขอ อยู่ในเมืองใหญ่หาเงินมาให้พอ หนุ่มเมืองสะตอไยหนอลืมสัญญา
หนุ่มใต้เขาว่าใจแข็งหัวใจเคยแกร่ง เหมือนดังหินผา วันนี้ใจกร่อน เมื่อเจอะสาวโนบรา ทิ้งสาวโนราให้น้ำตาตกใน
น้องเจ็บหัวใจ เจ็บหัวใจอย่างแรง เมื่อพี่มาเปลี่ยนแปลง เสียแรงที่ไว้ใจ ยิ่งคิดยิ่งเศร้านั่งกอดเข่าเดียวดาย สาวโนราปักษ์ใต้ต้องพ่ายสาวโนบรา
ความจริงตัวละครในเนื้อเพลงไม่ได้เป็นนางโนรา หรือนางสาวโนรา แต่คำว่าโนราในที่นี้ หมายถึงหญิงสาวชาวใต้ซึ่งกำลังจะถูกคนรักหนุ่มบ้านเดียวกันทอดทิ้ง ด้วยไปหลงเสน่ห์สาวเมืองกรุงผู้พิศมัยการแต่งกายแบบโนบรา มันก็น่าอยู่หรอกที่จะเปลี่ยนใจ เป็นผมก็อาจจะอดใจไม่อยู่เหมือนกัน เสียดายนิดหนึ่งที่เพลงไม่ได้เล่าต่อว่าหลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้นกับสาวโนรา บางทีเธออาจจะเปลี่ยนทัศนคติในการแต่งกาย มาเลียนแบบสาวชาวกรุงบ้างก็เป็นได้
คำที่น่าสนใจอีกคำหนึ่งในเพลงนี้คือ "หนุ่มเมืองสะตอ" ซึ่งคู่กับ "สาวโนรา" ในยุคสมัยหนึ่ง ท่านสอสอที่มาจากทางภาคใต้บางท่านหรืออาจจะหลายท่าน ถูกเรียกขานโดยใช้คำว่า "ไอ้สะตอ" เป็นที่ฮือฮา จนนายหนังตะลุงท่านหนึ่งนำมาใช้เป็นมุขให้ตัวตลกแสดงเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้พอสมควร เมื่อพิจารณาแล้วคำนี้อาจมีความหมายในเชิงดูหมิ่นดูแคลนเช่นเดียวกับการเรียกคนที่มาจากทางภาคอีสานว่า เสี่ยว แต่ปัจจุบันนี้ ใครถูกเรียกว่า ไอ้สะตอ ก็คงไม่กระไรนัก ด้วยว่า ลูกสะตอ ในปัจจุบัน เป็นของดี และมีราคาแพงจนบางครั้งแทบจะกลืนไม่ลงเพราะความเสียดายเงิน
พูดถึงความใจง่ายของหนุ่มเมืองสะตอ แล้วก็มาพูดถึงความชอบของสาวบ้านนอกชาวปากใต้ในอดีตกันบ้าง
คุณรุ่งตะวัน ขวัญกระบี่ อดีตนักร้องผู้โด่งดังชาวใต้ เคยร้องเพลงนี้ไว้ บรรยายถึงสิ่งหนึ่งซึ่งกำลังคืบคลานเข้าไปแทรกในวิถีชีวิตชนบทของชาวปากใต้เมื่อหลายสิบปีก่อน อันเป็นผลจากการที่รัฐบาลโหมพัฒนาบ้านเมือง สร้างถนนหนทาง กันเป็นการใหญ่ ตามแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เนื้อเพลงว่าอย่างนี้ครับ......
วังวังไว้หีดนะเหวอ รถแทรคเตอร์มันมาบ้านเรา มันมาขุดดินข้างเขา สาวบ้านเราชอบรถไถดิน
วังวังไว้หีดโหมหญิง คนจริงทำมาหากิน หนุ่มบ้านเราหล่อเหลาไปสิ้น โฉมยุพิน ไม่เอา ไม่เอา
ไปไถแค่ไหนกันเหวอ เห็นเธอทำหน้าเศร้า เศร้า ไปไถสวนยางข้างเขา หรือนงเยาว์เอาไปไถในครัว
วังวังไว้หีดนะบ่าว สาวสาวบ้านเราจะตามผัว
ผมเองก็นั่งปวดหัว แฟนของตัวกลัวจะตามเขาไป
หนุ่มสะตอชอบสาวโนบรา แต่สาวโนราชอบคนขับแทรคเตอร์
???????
บันทึกแนบท้าย
ความหมายของคำภาษาปากใต้ในที่นี้
หลบ - กลับ เช่น หลบบ้าน หมายถึงกลับบ้าน
วังวัง - ระวัง
หีด - เล็กน้อย, วังวังไว้หีด หมายถึงให้ระวังไว้สักเล็กน้อย ระวังไว้บ้าง
เหวอ - คำสร้อย ใช้วางไว้หลังประโยคเป็นการเน้น
รถไถดิน - รถแทรคเตอร์
คำภาษาปากใต้อีกคำที่ไม่ค่อยมีคนใช้แล้วแต่ที่เมืองลาวใช้คำเดียวกันคือ "รถดุด" ความหมายเดียวกัน (เป็นเรื่องน่าแปลกและน่าค้นคว้าที่คำหลายๆคำในภาษาลาวและภาษาปากใต้ใช้เหมือนกัน แต่ในภาษาไทยกลางไม่มีใช้)
โหม (อ่านควบกล้ำ) - หมู่ คำว่าโหมหญิง หมายถึง ผู้หญิง
บ่าว - หนุ่ม ใช้เรียกชายหนุ่มแทนชื่อ
ตามผัว - หนีตามกันไป, คันธรรพวิวาห หรือวิวาห์เหาะ