น้ำตาพ่อ
เนื่องในโอกาสใกล้จะถึงวันพ่อ อันเป็นวันที่กำหนดกันว่าควรจะระลึกนึกถึงพระคุณพ่อ และทำอะไรเพื่อพ่อให้มากๆ (ที่ถูกต้องควรจะระลึกนึกถึงทุกวัน ทุกเวลา นาทีและทดแทนคุณ) จึงขอยกเรื่องราวชีวิตที่คุณคำรณ สัมบุณณานนท์ เคยร้องเป็นเพลงไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน บรรยายถึงภาพชีวิตของพ่อคนหนึ่งซึ่งสู้กัดฟันอาบเหงื่อต่างน้ำ ส่งลูกไปศึกษาเล่าเรียนในสถานที่อันห่างไกล โดยหวังว่าลูกเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเป็นที่เชิดหน้าชูตาได้ดีมีสุข ไม่ต้องมาทนลำบากเหมือนกับที่ชีวิตพ่อได้ประสบอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งพ่อกลับพบว่าสิ่งที่ได้รับนั้นห่างไกลจากความคาดหมายมากนัก......... ..........................................................................
เพลงน้ำตาพ่อ ขับร้องโดย คำรณ สัมบุณณานนท์
นี่หรือกรุงเทพ นครเทวา ที่ข้าส่งลูกมาศึกษา เพื่อหาวิชาไว้ใส่ตัว นี่หรือเมืองหลวง ทำไมมันลวงลูกชายข้าชั่ว มันลืมกลิ่นโคลน สาบควาย สาบวัว ลืมทั้งพ่อตัวที่อุ้มมันมา พ่อหรืออุตส่าห์ยอมทรมาน สู้ตะเกียกตะกายปีนตาล เพื่อหวังน้ำหวานให้ได้มา เคี่ยวตาลไปขายเอาเงินกำไรส่งมา หวังให้ลูกเรียนท่องดูตำรา ยากจนไม่ว่าขอให้ลูกดี
(ราดนิเกลิง) พ่อปีนต้นตาลทุกวัน..........หัวใจพ่อฝันไปว่า ลูกพ่อเป็นนักศึกษา..........คงได้ปริญญาปีนี้ จดหมายเจ้ามีมาถึงพ่อ..........ว่าเงินไม่พอใช้จ่าย พ่อต้องขายวัวขายควาย..........ส่งเงินมาให้ทุกที เลิกทำนาไร่ ไถหว่าน..........มาปีนต้นตาลดีกว่า ถึงต้นตาลสูงเสียดฟ้า..........แหงนคอตั้งบ่าไม่หนี เหงื่อไหลไคลย้อยพ่อยอมทุกข์..........กายผ่ายผอม พ่อทน ขึ้นชื่อว่าพ่อทุกคน..........ลำบากเพื่อลูกยอมพลี ลูกเอ๋ยมาเป็นไปได้..........พอพบกลิ่นไอเมืองหลวง เลยหลงเข้าบ่วงสวาท..........ชีวิตผิดพลาดครานี้ พ่อคิดถึงเจ้าพ่อจึงมาหา..........โอ้อนิจจาใจหาย กลับเห็นพ่อเป็นวัวควาย..........เพียงเพราะเจ้าอายนารี คิดแล้วน้ำตาพ่อไหลตก..........เหมือนถูกเขาไล่ชกตี เพราะลูกทรพีมันคิดเนรคุณ
เด็กเอ๋ยจงอย่าจดจำเอาไป เป็นบทเรียนอันเลวไซร้ นรกจะกินจนสิ้นบุญ พ่อเปรียบดังพระ ลูกยังเลวทรามประณามเสียวุ่น ลืมคุณพ่อที่โอบอุ้มเจือจุน คิดเนรคุณเขาว่าคนเลว
........................................................................
.......ผมรักพ่อครับ.......