ความสุขไม่ได้มีอยู่จริง
ใครสักคนเคยพูดประโยคทำนองนี้กับฉัน
" ตอนอยู่ด้วยกัน มันไม่ได้เรียกว่าความสุข เป็นเพียงวิถีธรรมดา..
แต่การกลับมาย้อนรำลึก - -
รอยยิ้มที่เปิดออกนั่นเล่า .. คือความสุขทั้งมวล "
...
ฉันโหยหาสิ่งที่เรียกว่าความสุขมาเกือบทั้งชีวิต ยอมแลกแม้บางครั้งรู้ว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ขณะนั้นแล้ว การไม่ปฎิเสธคือการกระทำที่ดีที่สุด
ความสุขมิใช่สิ่งที่แบ่งปันหรือโยกย้ายถ่ายโอนกันได้ แต่ทว่า เป็นสิ่งเดียวที่สามารถร่วมรู้สึกได้
ฉันพยายามอีกครั้ง,, โหยหาความสุข หรือเพียงภาพลวงที่สวมป้ายชื่อ ความสุข
กระทั่งมีโอกาสได้สบตากับตัวเอง จึงรู้ว่า..
หากสงบและรู้จักมองหา ก็จะพบเจอ และมีความสุขเป็นเพื่อนสนิท
ไม่ยากเลย..
เหตุนี้ - ฉันจึงเลือกปฎิเสธที่จะไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อน ในเมื่อเพื่อนเฮฮา แต่หัวใจฉันห่อเหี่ยว รอยยิ้มหม่นเศร้า คือคำตอบของการไปในแต่ละครั้ง..
ฉันเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆตามเส้นทางของตนเอง
เป็นความสุขที่ไม่มีใครเข้าใจ แต่ฉันก็เลือกที่จะทำอย่างนั้นด้วยเหตุผลของหัวใจ
..
เย้าหยอกดอกฝนบนลมหนาว
ยิ้มพราวดั่งฝันถึงวันใหม่
แย้มพริ้มอิ่มหยาด
...
ไหนคือพรุ่งนี้ที่ทวงถาม
ไหนแง่งดงามของวันใหม่
ไหนรอยละเลียดแห่งใจ
ไหนรอยย่ำไปในร่างเดิม
ก่อนจะกลับมาเป็นคนเดิม
เสียดายภาพที่ถูกสร้างขึ้นใหม่
จึง-เปลี่ยนโลกวาดฝันถึงวันใหม่..
ฉาบโลกด้วยฟ้าสีอำไพ
ฉาบใจด้วยโลกสีอำพัน
ขณะกาลหมุนทวนรวนโรมรัน
จึง-ฉันห้วงใจให้แหลกร้าว
รอนแรมเรียวรุ้งรุ่งดาว
อีกฟ้าเด่นพราวหนาวห่มใจ
ประหนึ่งโอบฟากฝั่งฝันกอดไว้
ระทึกอกระทกใจ-ให้
คนของความรักพยายามให้ฉันอรรถาธิบายถึงเหตุผลของความสัมพันธ์ " ก็ชอบแล้วอ่ะ ชอบแบบนี้ ชอบคนนี้ จะทำไม มีปัญหาเหรอ " .... เขาขอฟังเหตุผลที่ชัดเจนกว่านี้ ฉันหมดปัญญา เพราะนึกจริงๆแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม..
รัก คือ ..
นิยามมีล้านแปด เลือกมาตอบไม่ถูก ถามฉัน ก็คงบอกว่า คือ การรู้สึกในรัก
หรืออาจจะเป็น การนำเอาห้าสิบห้าสิบของแต่ละฝ่ายมารวมกัน ความชอบส่วนตัว ที่อีกฝ่ายนึงอาจไม่ชอบ ยกออกไปไว้ด้านหลัง
ขณะทำงาน-ฉันและเขาแทบลืมไปเลยว่าอีกฟากฝั่งฟ้ามีคนคิดถึง เช่นกันขณะเวลาพักผ่อนและสังสรรค์ ฉันและเขามักละเลยโทรศัพท์เสมอ
รักที่อยู่ไกล บางทีเราก็ต้องเลือกสังคมแวดล้อม เอ่อ ฉันหมายถึงคนจริงๆ
เขาเคยพูดกับฉันว่า ถ้าอยู่กับคนมากมาย แล้วโทร.มาคร่ำครวญว่าเหงา พี่ถือว่าเราสอบตกในเรื่องการใช้ชีวิตนะ ...
ให้ตายเถอะ!! ฉันไม่เคยคร่ำครวญกับคนรักถึงเพียงนั้น
เขาบอกว่า เขารู้สึกดีที่ฉันไม่ก้าวก่ายความคิด ,, โลกส่วนตัว หรือทัศนะบางประการ อืม - ฉันมองว่า ก็มันเรื่องส่วนตัวไง จึงไม่อยากเกี่ยว หรือก้าวก่ายให้มาก
เขาบอกฉันอีกว่า - ฉันไม่เคยเรียกร้อง ไม่เหนี่ยวรั้งและไม่จิปาถะกับรายละเอียดชีวิต ก็เขามันคนเดินทาง .. ฉันเข้าใจ จนกระทั่งเขาเริ่มไม่แน่ใจว่า ฉันรักเขาบ้างหรือไม่ ?
ก็เพราะรักไง จึงปล่อยให้ทำทุกอย่างตามที่หัวใจเรียกร้อง อะไรก็ตามที่ทำแล้วรู้สึกว่าใช่ ฉันก็จะไม่ห้าม ไม่ทักท้วง ,, มันเป็นชีวิตของเขา
เรารักกัน แต่ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นเงาตามกัน ฉันเดินได้ด้วยขาของฉัน เขาก็สามารถหายใจได้โดยในลึกของตน
เสมอเหมือน..
ก็นี่แหละ-ที่รัก เหตุผลว่างเปล่าที่อยากให้เธอรับรู้
รักของเราคงเหมือนดอกไม้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร กลิ่นหอม-คือคำตอบทั้งมวล