รสเชงเชง

by ผีเสื้อปีกบางฯ @29 ธ.ค.50 10.00 ( IP : 203...11 ) | Tags : กระดานข่าว

"รถแม่งติดชิ๊บบบหาย" ผมสบถกับตัวเอง มันเป็นเวลาเกือบบ่ายของวันจันทร์ ที่รถติดบรรลัย บนถนนสายธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานคร
ผมนั่งมองรถหลากหลายยี่ห้อ ที่จอดต่อกันยาวเหยียด
เหมือนหนอนยักษ์ตัวยาวที่นอนสงบนิ่ง  นานๆครั้งจะค่อยๆ คืบคลาน กระดึ๊บ  กระดึ๊บ เป็นระยะทางนิดนึง  แล้วนอนนิ่งอีก

ลมเย็นจากช่องแอร์ ที่พุ่งตรงมาปะทะตัวผม และเพลง "When we make a home" ดังแผ่วๆ ทำให้ความหงุดหงิด ลดลงได้บ้าง หนอนยักษ์เริ่มขยับตัวได้อีกหน  รถของผมเคลื่อน ผ่านร้านค้าที่ผมต้องมาติดต่อ แต่ผมจะจอดรถที่ไหนหละ
สอดส่ายสายตาหาที่จอดรถ ทันใดนั้นผมก็สะดุดกับร้านก๋วยเตี๋ยว "รสเชงเชง" ร้านเล็กๆ อยู่ในตึกแถวคูหาเดียว  ลูกค้าแน่นร้าน แล้วยังมียืนรออยู่หน้าร้านอีกด้วย

ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวเป็นชีวิตจิตใจ จำไม่ได้หรอกว่าเริ่มชอบ กินตั้งแต่เมื่อไหร่  จำได้แต่สาเหตุมาจากการที่ผมไม่ชอบกิน ข้าวแข็งๆ ทำไมคนเราชอบหุงข้าวแบบแข็งๆ จริงอยู่ข้าวที่หุง แข็งดูสวย แต่มันกินไม่อร่อยเอาซะเลย เหมือนสวยแต่รูป
จูบไม่หอมนั่นแหละ ก๋วยเตี๋ยวจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผม

ผมตัดสินใจหักพวงมาลัย เลี้ยวเข้าซอยเล็กๆเลยร้านรสเชงเชง มาเล็กน้อย เพื่อหาที่จอดรถ แต่ในความเป็นจริงร้านก๋วยเตี๋ยว นั่นต่างหากที่ดึงดูดผม  ซอยนี้เป็นซอยไม่ยาวนัก ตัดทะลุ ถนนอีกสายหนึ่ง  สองข้างทางเป็นบ้านขนาดใหญ่ มีบริเวณกว้าง รั้วบ้านสูงต่อกันเป็นพืด ผมขับรถมาเรื่อยๆจนเกือบทะลุถนน อีกด้าน หลังตึกแถวสูง 3 ชั้น 4 คูหา ที่ติดถนนเป็นที่จอดรถกว้าง ของคลีนิค "เกื้อการุณ" เป็นโชคดีของผมซะจริงจริง

ร้านรสเชงเชงเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำแดง อยู่ในตึกแถวคูหาเดียว
แต่ลึก ผนังสีครีมเย็นตา พื้นปูแกรนิตโต้สีขาว เป็นร้านเล็กๆที่ดู สะอาดสะอ้าน ภายในร้านมีโต๊ะไม้สักสี่เหลี่ยม สีไม้ธรรมชาติตั้งอยู่ 10โต๊ะ แต่ละโต๊ะมีม้านั่งไม้สักสี่เหลี่ยมเข้าชุดกัน วางล้อมประกบ อยู่ 4 ตัว  เปิดขายตั้งแต่เวลา  11.00 - 15.00 น.

ที่หน้าร้านด้านหนึ่ง มีเคาน์เตอร์ตั้งตู้กระจกแบ่งเป็นสองชั้น
ชั้นล่างจัดวางเส้นนานาชนิด เส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ขาว เส้นบะหมี่ ชั้นบนวางลูกชิ้นลูกพอดีคำ และเนื่อหมูฉีกฝอยพูนชามใหญ่
ข้างตู้กระจก....มีควันพุ่งโขมงจากหม้อน้ำก๋วยเตี๋ยวตลอดเวลา เนื้อหมู ตับ ม้าม หัวใจสดสะอาด วางเรียงอยู่บนน้ำแข็งป่นอัดแน่น ในกระจาดขนาดย่อมรองด้วยกาละมังเพื่อรับน้ำที่ละลายลงมา

ผมนั่งโต๊ะหน้าตู้กระจก เฝ้ามองดูชายสองคนที่กำลังวุ่นวาย
ช่วยกันทำก๋วยเตี๋ยว และให้บริการลูกค้า ทั้งร้านมีเพียงสองคน เท่านั้น คนพ่ออายุประมาณ หกสิบกว่าๆ ยืนหน้าหม้อก๋วยเตี๋ยว มือเป็นระวิง คนลูกอายุประมาณ สามสิบกว่า ช่วยพ่อปรุงก๋วยเตี๋ยว เสริฟ และบริการอื่นๆ

ลูกค้าเริ่มซาลงแล้ว...ผมกินเส้นเล็กน้ำทุกอย่าง... ช้อนแรกของน้ำซุปที่ตักเข้าปาก อึ๊มมมมม....น้ำซุปหวาน กลมกล่อม นุ่มลิ้น รสหวานติดลิ้นค่อยๆลื่นไหลลงไปในลำคอ ที่สำคัญคือกลิ่นหอม  รสเชงเชงจริงๆ  ก๋วยเตี๋ยวอร่อย โดยไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม มีรสชาดเสร็จสรรพทั้งเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม พอดี ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยสุดสุด ผมได้วนเวียนไปกิน มาแล้วทั้งนั้น ไม่่ว่าจะเป็นที่แม่กลอง  ที่เพชรบุรี หรือ ที่ตลิ่งชัน กทม. ทั้งหมดนั้นเทียบไม่ได้กับก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงของร้าน รสเชงเชง

อาเฮียคนลูกยกก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำชามที่สอง เพิ่มพิเศษ หมูฉีกฝอย พร้อมให้ความกระจ่างกับผม
"ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงมันยากตรงน้ำซุป ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เป็นสูตรของตระกูล ตกทอดกันมาหลายรุ่นแล้ว ผมใช้กระดูก สั่งพิเศษ ล้างให้สะอาด ใส่ลงในหม้อต้มพร้อมเครื่องเทศ ต้มเคี่ยวไปช้าช้าจนได้น้ำซุปเข้มข้น เนื้อที่ติดกระดูกจะดูด เครื่องเทศเข้าไปจนหอม สีคล้ำ ผมก็จะเลาะออกมาฉีกฝอย สำหรับโรยหน้าก๋วยเตี๋ยว ลูกค้าชอบกันมากครับ"

............... ........ .... พระอาทิตย์หลบเร้นเหลี่ยมตึกไปแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง
เมื่อผมเดินผ่านหน้าร้านรสเชงเชงอีกครั้ง ร้านปิดเงียบ ทั้งซอยเงียบสงัด ผมเดินทอดน่องช้าช้าไปที่รถ

ชายรูปร่างสูงใหญ่  หน้าเหี้ยม ในชุดสีขาวคล้ายบุรุษพยาบาล มือถือถือสแตนเลสวาววับ  ปิดฝามิดชิด เดินอย่างรีบร้อน สวนทางมา  ดวงตาของเขาจ้องเข้าไปในดวงตาผม
กระตุกยิ้มน้อยๆที่มุมปาก  แล้วเดินผ่านผมไป
ผมรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างประหลาด รับสาวเท้าเดิน 


................ .......... ..... ผมขับรถออกจากที่จอดรถของคลีนิค "เกื้อการุณ"
เลี้ยวออกจากซอย  ผ่านหน้าคลีนิค ที่ตกแต่งไว้ อย่างหรูหรา  น่าเข้าไปใช้บริการ


เวลาผ่านไป........ผมแวะเวียนกลับมากินก๋วยเตี๋ยว ร้านรสเชงเชง จนสนิทสนมกับสองคน พ่อ-ลูก เป็นอย่างยิ่ง
อาาาาาาา......ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงของโปรด..........

....................... ............ ........ ....

เวลา 15.00 น.
"อาเฮีย  ลื้อมาได้ไงอ่า  อั๊วกำลังจาปิดร้าน"
อาแปะ ร้านรสเชงเชงทักทายผม
"จ๋อ..จ๋อ  อั๊วจาทำชามพิเศษสุดให้ลื้อ"

วันนี้ผมกินเส้นเล็กแห้งพิเศษ...อาแปะใส่เนื้อหมูฉีกฝอย
ให้ทั้งหมดที่เหลืออยู่ พร้อมน้ำซุปสำหรับซดให้คล่องคอ อีกชามใหญ่  น้ำซุปก้นหม้อที่เข้มข้น หวานลิ้น

ผมจัดการก๋วยเตี๋ยวหมดชาม  น้ำซุปพร่องไปครึ่งชาม
ผมเริ่มคนลงไปที่ก้นชาม  ตักกระดูกขึ้นมาพิจารณา

ผม.....ผงะ....มองเห็น....หน้าเหี้ยมๆ ยิ้มอย่างมีเลศนัย ของบุรุษพยาบาล ผมมวนท้อง ท้องไส้พลุ่งพล่าน  ปั่นป่วน ผมพยายามกล้ำกลืนรสขมที่กำลังทะลักล้นขึ้นมาในลำคอลงไป ไอ้ที่ผมกินเข้าไป......มันกำลังจะพุ่งออกมา.....

......................................................... ........................................ ..................... ............ ...... .. .

มันเป็นกระดูก ที่ยังมีเนื้อเปื่อยยุ่ยติดอยู่บ้าง
คุณพระช่วย!!! .....มันดูคล้ายมือมนุษย์..... มือมนุษย์ย่อส่วน .........


................................................................................

เรื่องสั้นเรื่องแรกในชีวิตของจาวตาลค่ะ
ขอบคุณแรงถีบหนักหนัก ของ พี่กึ่งยิงกึ่งผ่าน และ พี่พระเจ้า

พี่หมี่ขา....ถ้าว่างขอความกรุณาช่วยสับด้วยค่ะ
ขอแบบแหลกๆเลย

พี่น้องทั้งหลาย ช่วยรุมสับได้เลยค๊า

ขอบคุณค๊า

Comment #1
Posted @29 ธ.ค.50 10.08 ip : 202...192

อ่านแล้ว มีพลังครับ

Comment #2
นางสมทรงรักฟัก (Not Member)
Posted @30 ธ.ค.50 21.51 ip : 76...185

ป้าอ่านแล้ว อยากกินเตี๋ยวมากจ้ะ หนูจาวตาล

ขอไม่สับ เพราะไม่ใช่นักเขียนดังเด่อะไร ไม่มีฝีมือในการสับ

แวะมาเล่าเฉยๆ นานๆ เข้ามาที

แถวบ้านป้า มีร้านเลือดหมูอร่อยเป็นบ้า เจ้านึง ชื่อร้าน อ้า เลือดหมู (ชื่อพิกล)

มีอยู่วัน ขณะจะเลี้ยวรถเข้าไป ดันเห็นรถเฮียปอเต๊กตึ้งจอดอยู่ก่อน

ป้ากันไปมองหน้าเพื่อน ประมาณว่า จะกินดีมั้ย ไอ้ร้านนี้ มันขายพวกเครื่องในหมูด้วย แล้วเฮียปอมันมากันทำไมวะ หรือว่า เอาวัตถุดิบมาส่ง

วันนั้นเลยเปลี่ยนใจกระทันหัน ไปหาที่กินที่อื่น ตามประสาคนคิดมาก

Comment #3
eric (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.50 21.09 ip : 124...23

เฮ๊ย ใครเรียกริ๊กกี้วะ ???


//ทำหน้าเลิกลั่ก

Comment #4
เดอะแหลม (Not Member)
Posted @8 ม.ค.51 11.02 ip : 203...129

ต้องบอกว่ามันเป็นพล็อตเรื่องที่ดีครับ แม้ว่าเราอาจเคยเห็นเรื่องราวทำนองนี้มาบ้าง กระนั้นก็ดีก็ต้องขออนุญาต เสนอแนะเพียงเล็กน้อย ตามประสาคนอ่าน อย่างแรกเลยนั้นเรื่องของคำผิดถือว่ามีหลายแห่งด้วยกัน อาจเป็นเพราะผู้เขียน เขียนแล้วโพสเลย (ผมคาดเดาเอง) ก็เลยทำให้มีคำผิดอยู่พอสมควร
ส่วนเรื่องของประโยคนั้นผมเห็นเป็นบางจุดเช่น
นานๆครั้งจะค่อยๆ คืบคลาน กระดึ๊บ  กระดึ๊บ เป็นระยะทางนิดนึง  แล้วนอนนิ่งอีก

ผมคิดว่า “เป็นระยะทางนิดนึง”  ไม่ควรใช้ เพราะเราบอกอยู่แล้วว่าคืบคลาน หรือ กระดึ๊บๆ ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามันไปได้ทีละนิด บางทีแล้ว ประโยคแบบนี้ก็มีส่วนสำคัญทีเดียว เพราะเมื่อเติมเข้ามาแล้วจะทำให้ เป็นประโยคฟุ่มเฟือย มีผลต่อองค์รวมของเรื่อง ทางแก้ที่ดีคือ การตรวจทานหลายๆ รอบครับ และตรวจทางอย่างเป็นกลาง คือไม่เข้าข้างเรื่องของตัวเอง  เราจะพบข้อบกพร่องเหล่านี้


เรื่องต่อไปคือความสอดคล้องของเนื้อหา ผมมองว่าเนื้อเรื่องยังไม่สำพันธ์กันในหลายๆ จุด อย่างเช่น
พระอาทิตย์หลบเร้นเหลี่ยมตึกไปแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง
เมื่อผมเดินผ่านหน้าร้านรสเชงเชงอีกครั้ง ร้านปิดเงียบ ทั้งซอยเงียบสงัด ผมเดินทอดน่องช้าช้าไปที่รถ

ซึ่งผมงงมากทีเดียว อนึ่งล่ะ ผู้เขียนบอกว่า ตัวละครได้เข้าไปกินแล้ว แต่ทำไมต้องเขียนผมเดินผ่านหน้าร้านอีกครั้ง(เดินผ่านทำไม) ร้านปิดเงียบ  ซึ่งตอนต้นได้บรรยายว่าตัวละครเพิ่งเข้าไปกินและตัวละครก็กำลังจะเดินไปที่รถ เป็นการย้ำว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

นอกเสียจากว่าเป็นการตัดบท เพื่อขึ้นต้นบทใหม่ ผมมองว่ามันไม่สำพันธ์กับบทต้นๆ อ่านกี่รอบก็รู้สึกมันสะดุด  คือบทแรกๆ เชื่อมโยงกันมาดี แต่พอมาถึงบทนี้ กลับรู้สึกว่าทำให้การอ่านชะงักไป และสงสัยใคร่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ชายรูปร่างสูงใหญ่  หน้าเหี้ยม ในชุดสีขาวคล้ายบุรุษพยาบาล”  คำว่า หน้าเหี้ยม นั้นผมคิดว่าไม่จำเป็นก็ได้ครับ เพราะดูเหมือนเป็นการเจาะจงบุคลิกเกินไป จำเป็นไหมคนโหดร้ายต้องหน้าเหี้ยม หรือตัวร้ายต้องหน้าบ่งบอกว่าเป็นตัวร้าย  (นี่ผมคิดเองในแง่มุมของผมนะครับ)


มันเป็นกระดูก ที่ยังมีเนื้อเปื่อยยุ่ยติดอยู่บ้าง
คุณพระช่วย!!! .....มันดูคล้ายมือมนุษย์..... มือมนุษย์ย่อส่วน .........

ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องจบด้วยการอธิบายให้ผู้อ่านทราบหรอกครับ คือหนึ่งมันทำให้เนื้อเรื่องคลายความตื่นเต้นลง สองไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ว่าเป็นเนื้ออะไร เพราะผู้อ่านจะรู้ตั้งแต่ตัวละครคิดถึงรอยยิ้มอันน่ารักน่าชังของบุรุษพยาบาลแล้ว... ซึ่งจบตอนนั้นสวยมากๆ แต่พอมาอธิบายต่อ ผมมองว่าทำให้เรื่องลดเสน่หาลงอีกเยอะทีเดียว  จบแบบให้ผู้อ่านได้มีส่วนร่วมในการคิดนี่น่าจะเหมาะกว่านะครับ

แต่อย่างไรเสียผมต้องบอกก่อนว่าเรื่องสั้นเรื่องแรก ของ “จาวตาล” ดีกว่าเรื่องสั้นเรื่องแรกของผมสักพันเท่าได้มั้งครับ...อย่างไรเสีย มันก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เราเดินต่อไป ค้นหาต่อไป และเรียนรู้ต่อไป
เชื่อเหลือเกินว่าจาวตาลจะไม่หยุดนิ่งสำหรับการเขียน เขียนต่อไปนะครับ เมื่อเราเขียนมากขึ้นๆ เราจะเข้าใจนัยยะบางอย่างของเรื่องสั้น ถ้าเราเขียนต่อไปอีก ตัวละครจะบังคับให้เราเขียน ไม่ใช่เราบังคับตัวละคร  และถ้าเขียนต่อไปอีกเราจะดิ่งลึกลงไปในรายละเอียดไปเรื่อยๆ  ผมเชื่อว่าการเขียนก็เป็นการสลักเสลาจิตใจแบบหนึ่ง

มาให้กำลังใจนะครับ..มิใช่บั่นทอน
ที่ผมพล่ามไปนั้นเป็นเพียงบางส่วนที่ผมมองเห็นนะครับ....

Comment #5
Posted @8 ม.ค.51 14.11 ip : 58...244

ขอบคุณจ้าเดอะแหลม

อิอิอิ ดีใจจังที่เดอะแหลมอ่านเรื่องของเรา
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ละเอียดละออ  ที่จริงแค่อยากลองเขียนดู บังเอิญมีคนมาโพสเรื่องร้านอาหารที่อยู่ข้างสมาคม.... ที่มีการทำแท้งแบบถูกกฏหมาย  พล๊อตเรื่องนี้ก็แว๊บเข้ามาในหัว ก็เลยเขียนเลย  แล้วโพส
เป็นเรื่องแรกในชีวิตนะเนี่ย  55555 (จะหัวเราะทำไม)
เขียนอย่างรวดเร็ว

มีนิดนึงที่เดอะแหลมสงสัย
จาวตาลเขียนไว้ตอนต้นว่า "รถของผมเคลื่อน ผ่านร้านค้าที่ผมต้องมาติดต่อ แต่ผมจะจอดรถที่ไหนหละ "

ก็คือผมคนนี้จะมาทำธุระที่ร้านค้าใกล้ๆร้านก๋วยเตี๋ยว  แต่เขียนแล้วมัน คงไม่สื่อ คนอ่านเลยงง 

ขอบคุณมากๆจ้า  จะปรับปรุงเรื่องต่อไปนะจ๊ะ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 9 user(s)

User count is 2418777 person(s) and 10091977 hit(s) since 5 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).