... หมายเหตุวาเลนไทน์ 2551 ...
...
ผ้าขนหนูผืนเก่าสีคล้ำสลับฟ้าหม่น ถูกเช็ดถูไปตามผิวกายกร้านแดด
ที่ยังเปียกชื้น ก่อนจะวกขึ้นไปบนศรีษะซึ่งมีเส้นผมสั้นเกรียนแทบจะ
ติดหนังหัว ชายหนุ่มแทบจำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาตัดผมทรง
สกินเฮด เขารู้แต่ว่าถ้ามีใครถามเรื่องที่ไม่ชอบไว้ผมบนหัว เขาจะตอบ
แบบตัดบทไปว่าเขาหาเหตุผลที่จะต้องมีเส้นผมเหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้
และคำถามที่ตามมาทุกครั้ง และตอกย้ำความเจ็บปวดในใจของเขา ตลอดมาจากฝูงคนขี้สงสัยเหล่านั้นก็คือ ..
" อกหักรึไง ... ? "
ถึงจะพยายามตอบกลับไปด้วยรูปประโยคที่ฟังดูสุภาพ แต่ยังคงความ หมายเดิมว่า ไม่เสือกเรื่องของกูสักเรื่องจะได้มั้ยครับ ความหงุดหงิด กับคำถามซ้ำซากเหล่านี้ก็ยังมักจะวนเวียนกลับมาหาเขาเสมอ ๆ จาก ผู้คนแวดล้อม จนในบางครั้งเขาอยากจะกลับไปไว้ผมรองทรงอย่างที่ สังคมรอบกายเห็นว่าเหมาะสม แต่ทุกครั้งที่นั่งหน้ากระจกเงาบานใหญ่ และภาพสะท้อนเงาที่ปรากฏบนนั้นคือคนสองคน หนึ่งคือตัวเขา สองคือ ช่างตัดผม เขาก็ยังคงพูดประโยคเดิม
" สกินเฮด "
. . . . . . . . . .
กิ่งก้านของลั่นทมต้นสูงใหญ่หน้าตึกภาควิชาโบราณคดี ยังคงทอทอด ร่มเงาแผ่วพริ้วเหมือนที่เคยเป็นมา ชายหนุ่มวางดอกกุหลาบสีแดงสด ลงเคียงข้างดอกลั่นทมที่มีกลีบขาวละมุนซึ่งหล่นร่วงบนพื้น 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเขาจะกลับมาที่นี่ ที่ซึ่งเขาได้พบสาวน้อยหน้าใสผมยาวสลวย นักศึกษาปี 1 คนนั้น ช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะยาวนานในความเป็นจริง แต่แสนสั้นในความรู้สึก ภาพความงามที่ติดแน่นในห้วงสำนึก และเด่นชัด ราวฝีแปรงชุ่มโชกสีน้ำมันที่ถูกลากไล้บนผืนผ้าใบ
เขายังจำได้ถึงรอยยิ้มน้อย ๆ และเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเธอในตอนที่เขา เอ่ยถามเธอว่า
" ช่วยเป็นแบบพรอตเทรดให้พี่หน่อยได้มั้ยครับ พี่จะส่งงานอาจารย์พรุ่งนี้ แล้ว ยังหาแบบไม่ได้เลย "
วันนี้ เขากลับมาที่นี่อีกครั้ง ที่ที่เคยมีคนสองคน คนหนึ่งเป็นหญิงสาวผมยาว ประบ่านั่งนิ่งอยู่กับแววตากลมโต อีกคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มที่มีกระดานสเก็ตช์ ภาพวางบนตัก กำลังบังคับถ่านชาโคลด์ในมือขวา และความวาบหวามใจ ที่เต้นระรัวในอกเบื้องซ้าย ให้ออกเดินทาง ..
ก้านกิ่งลั่นทมยังคงแผ่ร่มเงาเหมือนที่เคยเป็นมา สายลมยังคงพัดเฉื่อยอย่างที่
เคยเป็นไป วันนี้สิ่งที่ขาดหายกลับเป็นหญิงสาวคนนั้น
. . . . . . . . . .
เศษเส้นผมสั้นละเอียด ถูกปัดลงจากต้นคอ ก่อนที่ผ้าคลุมบ่าจะถูกดึงออก ภาพชายหนุ่มที่มีผมสั้นเกรียนติดหนังหัวยังคงสะท้อนในกระจกเงาบานใหญ่
เขาแทบจำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาตัดผมทรงสกินเฮด แต่จำได้ว่า วันนั้นมีโทรศัพท์มาถึงเขา ข้อความที่ถูกถ่ายทอดบดขยี้หัวใจของเขาจน แหลกราญ หญิงสาวประสพอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไปศึกษาภาคสนาม ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย หญิงสาวตาโต ผมยาวสลวยประบ่าที่เคยนั่ง เป็นแบบพรอตเทรดให้เขาในวันนั้นจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทิ้งความทรงจำ ที่งดงามใต้กิ่งก้านลั่นทมให้ฝังลึกลงในใจของเขาราวกับรอยสลักบนหินผา
การคงอยู่ หรือจากไปของใครคนหนึ่ง มีความหมายที่ยิ่งใหญ่มหึมาสำหรับ บางคน และเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เบาหวิวสำหรับใครบางคนเช่นกัน
แต่สำหรับเขา นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาก็ตัดผมทรงสกินเฮด และกลับมา วางดอกกุหลาบสีแดงสดเคียงข้างกลีบขาวนวลของดอกลั่นทมที่หล่นร่วง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี
บางครั้งเขาก็อยากจะไว้ผมรองทรงเหมือนกับที่สังคมรอบข้างอยากเห็นเขาเป็น
อย่างนั้น แต่ผมที่งอกบนหัวกลับไม่มีความหมายสำหรับเขาอีกต่อไป เพราะเส้นผม
ที่สวยที่สุดในใจของเขาไม่มีวันงอกเงยได้ใหม่อีกแล้ว
ก้านกิ่งลั่นทมยังคงแผ่ร่มเงาเหมือนที่เคยเป็นมา สายลมยังคงพัดเฉื่อยอย่างที่
เคยเป็นไป
และชายหนุ่มคนนั้นยังคงตัดผมทรงสกินเฮด ...
" ไม่เสือกเรื่องของกูสักเรื่องจะได้มั้ยครับ "
...