นางลืมทะเล
คุยเรื่องการเมืองแล้วมันเคียด ขอเปลี่ยนบรรยากาศสักนิด
...........................
บ้านเราน้ำเค็ม คราน้ำเต็มสุดจะอ้างว้าง โธ่น้องไม่น่าเลยนาง เค็มทุกอย่างกระทั่งหัวใจ สิงห์หนุ่มทะเล ให้ว้าเหว่ เจ้ารู้บ้างไหม แสงสีเมืองกรุงยั่วใจ พาเจ้าไกลทำให้พี่หมอง
กลิ่นคาวของปลา มันช่างน่ารังเกียจ
ผู้คนหยามเหยียด น้องหญิงไม่มอง
เราโตขึ้นมามีน้ำกับฟ้าแลล่อง
ทำไมจึงต้องลืมท้อง ทะเล
กลับหลงชาวกรุงที่เกียรติฟุ้งชื่อหอม
ให้เขาดมดอมโดยไม่หันเห
พอพี่ทราบข่าวแสนเศร้าแทบเซ
หรือหนุ่มตังเก ไม่มีจะกิน
เพราะชาวประมงผิวไม่ชงด้วยนม
หน้าตาขื่นขม ใครก็ติฉิน
เหม็นสาบไปทั่ว กลิ่นตัวไม่สิ้น
แต่ไม่มีกลิ่นที่ตรงหัวใจ
น้ำเค็มคือเกลือแต่ชาวเรือใจซื่อ
ยังคงยึดถือคำมั่นเอาไว้
รักสาวทะเลไม่รวนเรห่างไกล
แต่แล้วเล่าใครเป็นคนลืมคำ
ลืมทะเลสุดคะเนกว้างใหญ่
เหมือนผืนหัวใจของเจ้าที่ดำ
จะทิ้งความเศร้าลอยเคล้าไปกับน้ำ
พี่ขอคืนคำไม่ตามเจ้าไป
อยู่ไหนแก้วตาพัทยา บางแสน
หัวหิน แหลมแท่น เจ้าได้ยินไหม
จงลับไปเถอะอย่าได้เจอะชาติใด
พี่ขอตรอมใจอยู่เมืองชลบุรี
เมืองของคาวแต่ว่าสาวใจคด
รักทรยศจนหมดป่นปี้
สุขเถิดหนาแก้วตาคนดี
เจ้าเกลียดวารี จะรู้ดีเมื่อตรอมใจ
/ชาตรี ศรีชล .....................................
นางลืมทะเล ยังพอให้อภัยได้
แต่คนลืมตัว ลืมอดีต ลืมกำพืด นี่ให้อภัยไม่ได้ นะฮ้า (ฮะน้า)
......ว่าจะไม่วกมาแล้วเชียว อิ....อิ