วังบัวบาน
ขอโทษคร๊าบ......วังบัวบานนี้ไม่เกี่ยวกะ "นักการเมือง"หรือ"นังการเมือง"หน้าไหนทั้งสิ้น แต่เป็นบทเพลง และเป็นบทกวี
........................................................
ร้อนลมหน้าแล้ง ใบไม้แห้งร่วงลอย หล่นทยอยเกลื่อนตา
ไหลตามกระแสน้ำพา ลอยมาทั้งกลีบดอกไม้
จากหุบผาไหลมาสู่ในวังน้ำ สุสานเทวีผู้มีความช้ำ-เหลือใคร
ดอกไม้ใบไม้ไหลมา คล้ายพวงหรีดร้อยมาลา ไหลมาบูชาบัวบาน
.........................................................
ปีพศ ๒๕๓๓ ผมเคยไปอาศัยและทำงานอยู่ที่จังหวัดลำปาง เป็นระยะเวลาเกือบปี แต่ไม่เคยขึ้นไปดูน้ำตกห้วยแก้ว หรือวังบัวบานที่จังหวัดเชียงใหม่เลย จึงทำให้นึกรูปร่างหน้าตาของวังนี้ไม่ออก แต่...ได้ฟังเพลงท่อนที่หนึ่งแล้วสามารถสร้างจินตนาการและเห็นภาพได้ในใจ
และ.......ผมพอใจกับภาพนี้....
...............................................
น้ำวังนี่หนอเป็นที่ก่อเหตุการณ์ ที่บัวบานฝังกาย
ยึดเอาเป็นหอเรือนตาย รองกายไว้ด้วยแผ่นน้ำ
จากหุบเขาแนวไพรสู่ในเวียงฟ้า ฝากไว้เพียงชื่อเลื่องลือเนิ่นช้า
ฝังจำ ฝากคำสัตย์นำนึกตรอง หลงทางสุดหวังคืนครอง หลงตัวจำต้องลาระทม
...............................................
และก็ไม่ทราบว่าบัวบานเกิดความเสียอกเสียใจอะไร จึงต้องเอาแผ่นน้ำเป็นเครื่องรองกาย แต่ต้องเป็นเรื่องที่ผิดหวังอย่างแสนสาหัส
ในใจผมมี"บัวบาน"ผู้หญิงที่แสนใสซื่อ อ่อนหวาน และรักษาคำสัตย์ด้วยชีวิต
.........................................................
เอาวังน้ำไหลเย็น นี่หรือมาเป็นเมรุทอง เอาน้ำตกก้องเป็นกลองประโคม
เอาเสียงจักจั่นลั่นร้องระงม เป็นเสียงประโคมร้องต่างแตรสังข์
เพดานนั้นเอาเมฆฟ้า ภูผานั้นต่างม่านบัง
ประทีปแสงจันทร์ใสสว่าง อยู่เดียวท่ามกลางดงดอย
..........................................................
ท่อนสุดท้ายนี้เหนือคำบรรยาย เป็นความวังเวง หดหู่ และกินใจ ผู้หญิงตัวคนเดียวกล้าเสียสละได้ถึงเพียงนี้ ผมรู้สึกสงสาร"บัวบาน" แม้ตายแล้วยังต้องอยู่อย่างเดียวดาย ผมรักความดีของเธอ
....โลกนี้ไม่เคยสิ้นคนทุกข์
[จาก เพลง วังบัวบาน ขับร้องโดย-คุณมัณฑนา โมรากุล เนื้อร้องโดย-คุณสนิท ส.(สิริวิสูตร) ทำนองโดย-คุณอรุณ หงสวีณะ]