[ ไมโคร ]

by จสอ.โจ @5 พ.ค.51 0.56 ( IP : 58...244 ) | Tags : กระดานข่าว

...


สนามหญ้าผืนสดเขียว สะท้อนเงาแดดยามสาย เม็ดน้ำค้างใสสวยบางส่วนยังคงเกาะพราวอยู่ตามร่องใบน้อยนิด จากหน้าต่างชั้นสองที่มองลงมา บางครั้งไมโครก็สงสัยถึงที่มาของเมล็ดน้ำที่มองเห็นว่ามันมาจากที่ใด ในเมื่อก่อนปิดเปลือกตาหลับไหลในคืนก่อน เขากลับเห็นแต่เพียงผืนหญ้าเขียวทึมใต้เงาจันทร์สีเหลืองนวล ที่ซ่อนกายครึ่งหนึ่งใต้เงาโลก และอวดโฉมเพียงรอยโค้งราวคมเคียวที่หมายจะเกี่ยวหมู่ดาว

ขอบราวเตียงที่สูงชัน บดบังสิ่งที่เขาต้องการเห็นผ่านช่องหน้าต่างบานเกล็ดบานนั้นไปเสียกว่าครึ่ง ซี่ลูกกรงที่พุ่งจากเบื้องล่างแม้จะมีจุดสิ้นสุด แต่ความฝันของเขาสามารถข้ามมันไปได้ มันพาเขาไปได้ไกลสุดขอบโลกโดยที่เขาไม่ต้องก้าวขา มันพาเขาขึ้นไปได้สูงโดยที่ไม่ต้องป่ายปีน และโลกก็จะถูกหมุนให้ปั่นติ้วราวกับลูกข่างของเด็กข้าง ๆ เตียงโดยที่เขาไม่ต้องขยับแขน ...

ใช่ ... โดยที่ไม่ต้องขยับแขน เพราะเขาไม่มีแขนให้ขยับ !


...

รัตน์หยิบชาร์ทตรวจสอบที่ถูกหนีบบนแฟ้มขึ้นมาอ่านรายละเอียด ก่อนจะออกไปปฏิบัติหน้าที่ รายการตรวจสอบในห้องเด็กอ่อนบ่งบอกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เธอตระหนักถึงภารกิจภายใต้ชุดสีขาวสะอาดที่มีต้นกำเนิดมาจากหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ยามค่ำคืนที่เจ็บปวดของสงคราม เดินถือตะเกียงดวงน้อยออกไปดูแลเหล่าทหารที่บางคนขาขาดจากการโดนระเบิด บางคนใส้แตกออกมานอกพุงจากอานุภาพปืนกลหนัก และนอนรอปีกมัจจุราชผืนดำสนิทที่แผ่ครอบคลุมความเกลียดชังใต้ม่านฟ้าฤดูหนาว ในความเดี่ยวโดดของความตาย เธอคนนั้นจะแตะตัวผู้คนอย่างอ่อนโยน และส่งยิ้มให้อย่างอารีย์

เรื่องราวที่ถูกประทับในความทรงจำแต่วัยเยาว์ ทำให้รัตน์ออกเดินทางตามสิ่งที่ฟอร์เรนซ์ ไนติงเกล เคยทำเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว เพียงแต่ในขณะนี้รัตน์มิได้ดูแลทหารหาญ หากแต่เป็นร่างกระจ้อยร่อยของเด็กอ่อนน้อยใหญ่หลายสิบชีวิตบนชั้นสองของสถานแรกรับเด็กอ่อน เธอลอบถอนใจเบา ๆ ระหว่างทางเดินแคบ ๆ จากห้องพยาบาลเวรไปยังห้องเด็กอ่อนด้วยตระหนักถึงชะตากรรมที่เหล่าลูกมนุษย์เหล่านั้นต้องเผชิญหน้าร่วมกัน เมื่อการถือกำเนิดคือการต้องคำพิพากษาในความผิดที่มิได้เป็นผู้รู้เห็นในการกระทำขอบุพพการี ถูกตีตรวนล่ามข้อเท้าไว้ด้วยความเดี่ยวโดดและอ้างว้างตั้งแต่ไม่กี่วันที่ลืมตาดูโลก มีชีวิตอย่างโหยหิวในความอบอุ่นของอ้อมกอดอย่างไม่มีวันจบสิ้น และมักจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องแหกปากกลางดึกอยู่บ่อยครั้งอย่างเปล่าเปลี่ยวใต้แสงจันทร์

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนแทบจะเป็นความเคยชินของเหล่าพยาบาลเวรทุกคนที่ต้องปฏิบัติงานยามค่ำคืน ภายในห้องเด็กอ่อนที่โล่งกว้างหากมีเด็กสักคนร้องขึ้น ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีจะมีเสียงเด็กคนอื่นร้องตามขึ้นมาเป็นลูกโซ่ ดังนั้นเมื่อมีเสียงเด็กร้องขึ้น พยาบาลเวรจะต้องเข้าถึงเตียงของเด็กคนนั้นให้เร็วที่สุดเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เขาตื่น ปัญหาส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเรื่องของการขับถ่าย และการสะดุ้งผวาตื่นจากสัญชาติญาณ ซึ่งในกลุ่มเด็กที่ถูกทอดทิ้งจะมีอาการเช่นนี้บ่อยมาก สำหรับรัตน์ซึ่งทำงานเป็นพยาบาลที่นี่มานาน เธอรู้ดีว่าเพียงการลูบไล้สัมผัสเพียงแผ่วเบาและอบอุ่น ก็ทำให้เด็กน้อยเหล่านั้นสงบลงและหลับไหลไปสู่ความฝันว่าง ๆ ต่อไปได้

ยกเว้นเพียงรายเดียวคือ ... ไมโคร


. . . . .

ใบบันทึกการส่งตัวจากโรงพยาบาล ไม่ได้ลงชื่อเด็กผู้ชายคนนั้นเนื่องจากมารดาได้หายตัวไปตั้งแต่ 3 วันหลังคลอด ในบันทึกแจ้งความผิดปรกติตั้งแต่แรกเกิดคือการที่ไม่มีแขนทั้งสองข้างเสมอหัวไหล่ และต้องเข้าตู้อบเพราะน้ำหนักแรกเกิดเพียง 1890 กรัม ความจำเป็นที่จะต้องมีนามเรียกขานเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของพยาบาลในสถานแรกรับเด็กอ่อน ใครสักคนหนึ่งในหมู่พยาบาลจึงเรียกเด็กผู้ชายคนนี้ว่า ไมโคร

ไม่ใช่เพียงแต่ความพิการทางกายเท่านั้นที่ทำให้ไมโครแตกต่างจากเด็กคนอื่น ไมโครไม่ค่อยร้อง ไม่ค่อยส่งเสียง เมื่อใดที่เขาส่งเสียงนั่นหมายถึงว่าเขาหิว และมันก็หาใช่การส่งเสียงร้องร่ำไห้หากแต่ฟังดูราวเสียงขู่คำราม พยาบาลเวรต้องเดินมาตรวจผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ใส่ให้ไมโครบ่อย ๆ เพราะถึงฉี่จะเปียกโชก อึจะแหลกเหลวเต็มก้น ไมโครก็จะนอนเล่นเฉย ๆ อยู่อย่างนั้นจนกว่าพยาบาลจะมาตรวจแล้วเปลี่ยนให้เขาเอง

ในค่ำคืนหนึ่งที่แสงจันทร์ทอทาบลงบนสนามหญ้า รัตน์เดินตรวจไปตามเตียงเช่นเคย และเธอมองเห็นไมโครนั่งส่งสายตาลอดซี่ลูกกรงเตียงมองพระจันทร์ที่นอกหน้าต่างบานเกล็ด รัตน์แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเพราะในขณะนั้นไมโครมีอายุเพียง 4 เดือนกว่า ๆ ในขณะที่เด็กทั่วไปที่มีแขนสองข้างจะลุกขึ้นนั่งได้เองก็ต่อเมื่อมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน !

รัตน์ค่อย ๆ เดินเข้าไปข้างเตียงของไมโคร เด็กน้อยยังคงจ้องมองแสงเหลืองนวลบนท้องฟ้าสีครามอมดำอย่างไม่ละสายตา รัตน์เอื้อมมือไปลูบหัวไมโครอย่างแผ่วเบา ในความเงียบที่อ้างว้าง เธอเห็นไมโครค่อย ๆ หันหน้ามามองเธอ ภายใต้แสงจันทร์สะท้อนประกายสายน้ำตาที่ไหลหยดผ่านสองแก้มของเด็กน้อย และความว้าเหว่ที่ฉายทาบทับบนแววตา

ดึกแล้วนะไมโคร นอนเถอะนะ

รัตน์พูดเบา ๆ ก่อนจะประคองร่างที่ไร้แขนให้เอนกายลงบนเตียง เธอเช็ดน้ำตาบนแก้มทั้งสองข้างของเด็กน้อยอย่างเวทนา ไมโครหลับตาลงและหายใจอย่างแผ่วเบา รัตน์ลูบหัวเด็กน้อยเบา ๆ ก่อนเดินกลับไปตรวจตามเตียงอื่น ๆ จนทั่วก่อนที่จะกลับออกไปยังห้องพยาบาลเวร และถ้าเพียงเธอหันหลังกลับมามองสักนิด

เธอจะเห็นว่าไมโครลืมตาขึ้นมามองตามจังหวะการก้าวเดินของเธอ จนเธอเดินพ้นไปจากห้อง ...


. . . . .

ไม่กี่เดือนหลังจากค่ำคืนนั้น มีพยาบาลคนหนึ่งเห็นไมโครพยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยท่วงท่าที่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ไมโครคว่ำหน้าแล้วดันตัวเองด้วยสองขาไปชิดหัวเตียงแล้วค่อย ๆ ยกส่วนก้นขึ้น กดคางลงมาแนบหน้าอกแล้วชักขายันตัวขึ้นทีละน้อย ในขณะที่ขาทั้งสองข้างพาครึ่งหนึ่งของร่างกายช่วงล่างสูงขึ้น หัวของไมโครยังยันที่หัวเตียงพลางหายใจฟืดฟาดหมายจะงัดร่างขึ้นมายืนหยัดให้จงได้ !


. . . . .

บางครั้งไมโครก็สงสัยว่าพระจันทร์ดวงสวยที่ทอประกายนวลเหลืองที่นอกหน้าต่างบานเกล็ดหายไปไหน แม้ว่าเขาจะพยายามมองหาสักเท่าใดก็ไม่พบ เขาอยากให้มีพระจันทร์ดวงสวยอยู่บนแผ่นฟ้าสีครามอมดำนั้นทุกคืน แต่พระจันทร์ก็ใจดำจากไปไม่ให้เขาได้มองเห็น เช่นเดียวกับที่บางค่ำคืนไม่มีเงาร่างของพยาบาลคนนั้นที่เคยมาปาดรอยน้ำตาใต้แสงจันทร์เสี้ยวซึ่งแขวนตัวคล้ายรอยโค้งราวคมเคียว

รอยโค้งราวคมเคียวที่หมายจะเกี่ยวหมู่ดาว


แต่คืนนี้มีพระจันทร์ เขามองแสงสว่างที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างบานเกล็ดอย่างเป็นสุข และพยาบาลคนนั้นก็เดินมาลูบหัวของเขาเบา ๆ ก่อนจะห่มผ้าให้เขาเหมือนดั่งเช่นที่เธอทำทุกครั้ง

ดึกแล้วนะไมโคร นอนเถอะนะ

ไมโครหลับตาลง และตั้งใจว่าจะลืมตามองตามหลังร่างที่สวมชุดสีขาวสะอาดเมื่อเธอเดินจากไปเหมือนทุกครั้ง แต่แสงจันทร์นวลเหลืองกลับส่งให้เขาเดินทางสู่ความฝันอย่างรวดเร็ว


ความฝันว่าง ๆ


. . . . .

. . .

. .

.

.

.


.


ราวกับถูกผลักให้ร่วงตกลงมาจากขอบฟ้า ไมโครสะดุ้งเฮือกสุดตัว และเปิดตาขึ้นมาพบกับความว่างมืด ไม่มีแสงจันทร์ ไม่มี พระจันทร์ของเขาหายไปไหน เมื่อกี้เขายังเห็นอยู่ ทำไมมันมืดอย่างนี้ พี่พยาบาลคนนั้นหายไปไหน ทำไมเขาต้องมาอยู่ที่นี่

ทำไม ... !!!


น้ำตาไหลพรากลงท่วมสองแก้ม ไมโครลุกขึ้นนั่งพลางเหลียวมองไปรอบ ๆ พี่พยาบาลไปไหน มาเช็ดน้ำตาให้ที ตามพระจันทร์กลับมาให้ด้วย

พระจันทร์ ...


พระจันทร์ไปไหน ...


พระจันทร์ของฉัน


... หายไปไหน !!!


ไมโครเอียงตัวไปพิงซี่ลูกกรงกันตกของเตียง ก่อนจะใช้สองขายันตัวให้ลุกขึ้นยืน เขาใช้หัวไหล่ทู่มนขยับพิงซี่ลูกกรงขึ้นไปเรื่อย ๆ น้ำตาไหลหยดลงมาจนเปียกหน้าอก นอกหน้าต่างบานเกล็ดบานนั้น ...

ที่พระจันทร์ของไมโครหายไป


ทำไม ... !!!


พระจันทร์ของฉัน


... หายไปไหน !!!





. . . . . . . .

เช้าวันนั้น เมื่อพยาบาลเวรคนใหม่เดินเข้ามาตรวจเวรที่ห้องเด็กอ่อน ก็พบไมโครนอนอยู่ที่พื้นห้องในสภาพที่คอหักหมุนได้รอบ มีรอยน้ำตาเปื้อนนองไปทั้งสองแก้ม แต่ยังส่งสายตาไปยังนอกหน้าต่างบานเกล็ดที่หัวเตียง

ราวกับจะมองหาอะไรบางอย่าง


...

Comment #1
Posted @11 พ.ค.51 19.51 ip : 118...6

ภาพในหัวของจ่านั้นเศร้า  และเดินเรื่องโดยพยายามฉายความเศร้านั้นออกมาให้มากที่สุด

แต่เรื่องน่าจะเดินไปอย่างช้าๆ และทำให้เห็นว่าเด็ก 4 เดือนแบเบาะนั้น นั่งเองได้อย่างไร มองดวงจันทร์ได้อย่างไร  น้ำตาที่ไหลด้วยความเหงาเศร้านั้นมาได้อย่างไร  และการพยายามจะลุกขุ้นยืนด้วยวิธีนั้นของทารก  ทำได้อย่างไร  ทั้งหมดนี้ต้องฉายความเป็นไปได้ออกมาให่เห็นคล้อยตามให้ได้

Comment #2
ปราง (Not Member)
Posted @14 พ.ค.51 6.50 ip : 124...113

:d

คือยาวง่ะ ยังอ่านไม่จบ ตาลาย

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 17 user(s)

User count is 2417148 person(s) and 10080463 hit(s) since 2 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).