พเนจร
พเนจร
ริมน้ำยามค่ำ เริ่มย่ำหนาว
ริมทางทอดยาว - เปล่าเปลี่ยว
ข้ามาดุ่มเดินโดยดายเดียว
ออกเที่ยววเนจร ร่อยเร่ไป
ทักก้อนดินก้อนหนึ่งซึ่งไร้ค่า
ไม่งามไม่ว่า เพลาไหน
เก็บงำความเงียบเหยียบหัวใจ
บางถ้อยคำความนัยยังเงียบงำ
ทักดอกหญ้าดอกดินริมทางเดิน
คนเมิน คนเปรียบ คนเหยียบย่ำ
พยักยิ้มริมทางเป็นประจำ
รอฉ่ำน้ำค้างเมื่อย่างเช้า
นั่นใบไม้หนึ่งใบปลิดใบร่วง
เมื่อถึงช่วงอำลากิ่งก้านเก่า
ลงทบ ซบซาก ทาบทับเงา
คือตำนานขานกล่าวเขาเล่าคำ
สายลมริ้ว พริ้วหวาน ผ่านราตรี
เพียงกวีพเนจรได้ดื่มด่ำ
ในอ้อมกอด อ่อนละมุน กรุ่นรอยจำ
ว่าเหน็บหนาวคราวย่ำ คืนยาวนาน
ในเวิ้งว้าง ว่างเปล่า แห่งชีวิต
เหล่าผีเสื้อนิรมิตร โผบินผ่าน
หลงระเริงมายา ราตรีกาล
คืนเดือนฉาย ดาวฉาน บนชั้นฟ้า
ในผันผวนปรวนแปร กระแสโลก
ใครเศร้าโศกหลงทางกลางค้นหา
กลางกระสวนสายลม คมเวลา
กลางทะเลมายา ค่านิยม
เพียงเปลวไฟส่องทางสว่างค่ำ
ให้ก้าวย่ำ ผ่านคืนอันขื่นขม
ร่วมร้องเพลงโศกเศร้า ร้าวระบม
หวานและขม คมและเข้ม เต็มหัวใจ
ริมน้ำยามค่ำ ยิ่งฉ่ำหนาว
ยิ่งเดินทอดก้าว ยิ่งหวั่นไหว
ถามใจว่าพรุ่งนี้ มุ่งทิศใด
ใจตอบ ลืมไปตั้งนานแล้ว!