ลูกแมวป่วยไข้หลงทางตัวหนึ่ง...
ถ้าเพียงแค่ผมไม่รอหนึ่งวัน หรือแค่สงสัยว่ามันป่วยหนัก มันก็คงรอดตาย
เย็นวานซืนผมเปิดประตูรั้วบ้านที่ทุ่งงายเข้าไป ขณะที่ก้มหยิบขวดเบียร์ที่ใช้เป็นที่เขี่ยบุหรี่ ลูกแมวผอมโซตัวหนึ่งก็เดินเข้ามาดมที่มือเงียบๆ ผมสะดุ้งตกใจ นี่ความเลินเล่อประมาทของผมมันมีมากขนาดนี้เลยหรือ หากไม่ใช่ลูกแมวล่ะ แต่เป็นงูเห่าตัวเขื่องสักตัว ผมจะทำยังไง?
มันมาดมๆที่มือผมอยู่ครู่ แล้วก็เอาคางเอาคอมาถูกับมือผม ผมปล่อยให้มันคลออยู่นานจนเมื่อย ก็จับมันขึ้นมาพลิกดูว่าโดนหมาไล่กัดมาหรือเปล่า เห็นดวงตามันมีขี้ตาเปียกแฉะทั้งสองข้าง ผมปล่อยมันลง เดินไปล้างมือก่อนนั่งสูบบุหรี่หน้าบ้าน
ผมเป็นคนชอบแมว สัตว์สันโดษที่ทระนงที่สุดเท่าที่ผมจะพบเจอสัตว์ มันเดินตามผมทุกฝีก้าว นั่งขดหางอยู่แทบเท้าผม แหงนหน้ามองเผยอปากจะร้อง แต่ไม่มีเสียงสักแอะเดียว ผมดับบุหรี่เดินไปเอานมมาให้มันกิน มันดมนมนั้นแล้วมาคลอขาผมตามเดิม
ผมปล่อยให้มันอยู่หน้าบ้าน หาผ้าเก่าๆมารองนอนให้มัน หางมันสั่น
ตลอดเวลา
เมื่อวานผมเข้าบ้านทุ่งงาย พบมันนอนอยู่บนผ้าเก่าๆ และยังเดินตามคลอผม แต่วันนี้ดูมันไม่มีเรี่ยวแรงเท่าไร ผมบี้ปลาทูมาคลุกข้าวให้มัน มันดมแล้วมาคลอขาผมอีก คืนนั้นผมนั่งเล่นกับมันจน4ทุ่ม ขณะที่ผมเดินออกจากบ้านไปขึ้นรถเพื่อกลับร้าน มันก็เดินตามออกมาจนถึงล้อรถ ผมต้องอุ้มมันไปนอนตรงที่ถึง2ครั้ง กำชับว่าอย่าออกมาอีก ไอ้ปุ้ยกับไอ้แดงหมาข้างบ้านมันจะขย้ำเอา
ตามร่างกายไม่มีรอยแผล เสียงร้องที่มันพยายามเปล่งมีเพียงเสียงแผ่วเบาจนไม่ได้ยิน ผมน่าจะอุ้มมันไปหาหมอตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อวานมันยังเดินได้ มันเดินตามผมไปทุกฝีก้าว และนั่งขดหางรออยู่หน้าประตูกระจก ถ้าเพียงแค่ผมเอะใจสักนิด ถึงขนที่หยาบกระด้างและพองไร้ระเบียบนั้น มันคงถึงมือหมอ และน่าจะอยู่รอดไปได้
ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นลูกแมวของใคร ไม่รู้มันมาจากไหน ไม่รู้กระทั่งว่าทำไมมันจึงไว้ใจผมด้วยการเข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งที่ประตูรั้วก็วางเหล็กไว้ถี่ ช่องที่มันจะมุดเข้ามาได้ก็ต้องแขม่วท้อง ผมเรียกมันว่ากาโม่
หมอเห็นมันครั้งแรกถึงกับอุทาน บอกผมว่ามันเป็นหวัดรุนแรง ตาเป็นน้ำหนอง และปรอทวัดอุณหภูมิไม่ขยับ หมอบอกว่าถ้าเป็นคนก็มือเย็นเท้าเย็นแล้ว ผมใจหายวาบ นั่นมันลักษณะคนใกล้ตายชัดๆ หมอถามอีกว่าโอกาศรอดมี 30% ผมจะรักษามันไหม? ผมตอบทันทีว่ารักษา หมอย้ำว่าให้ผมดูแลมันใกล้ชิดที่สุด และอีกหลายคำพูดที่เมื่อนึกขึ้นมาก็เหมือนการบอกให้ผมเตรียมใจ
ผมอุ้มมันไปที่บ้านทุ่งงาย ใส่กล่องห่มผ้า นั่งดูมันตลอดเวลา ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงผมได้ยินเสียงเหมือนหมาหอน ชะโงกหน้าดูนอกรั้ว ไอ้ปุ้ยไอ้แดงก็นอนตามประสาของมันอยู่ เหลียวดูในกล่อง เห็นไอ้กาโม่มันนอนตะแคงแหงนหน้าสุดคอ ส่งเสียงร้องที่เหมือนหมาหอนออกมาสองครั้ง ช่องท้องมันหายใจแรง ดวงตาเหลือกถลน หูตั้งชัน ก่อนจะค่อยๆพับคอลงมา ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เปิดผ้าห่มดูก็เห็นช่องท้องมันยังหายใจ
มันตายไปต่อหน้า ปากอ้าค้างเล็กน้อย ดวงตาเบิกโพลง กาโม่ตายแล้ว...
ถ้าเพียงแค่ผมไม่รอหนึ่งวัน หรือแค่สงสัยว่ามันป่วยหนัก .....
ทำไมการตัดสินใจของผมครั้งนี้มันช้าและลังเลเหลือเกิน...