มึงมันใจหมาไอ้หน้าสัตว์!

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @7 ต.ค.51 16.49 ( IP : 118...154 ) | Tags : กระดานข่าว

เหตุการณ์ เช้าวันที่ 7 ตุลา นี้ ผมเห็นภาพข่าวทางทีวีถึงกับอึ้ง คนขาขาดที่กำลังนอนมองขาตัวเองที่หายไป ผมไม่ทราบจริงๆว่าเขารู้สึกอย่างไร ผมไม่กล้าทายความรู้สึกของเขาเลย


มันทำให้ที่ผมเชื่อมาโดยตลอดเด่นชัดขึ้น นั่นคือเราต้องเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยด่วน  และยกเลิกสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยพลัน  เพื่อแยกย่อยให้ไปขึ้นกับองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยเป็นที่รู้กันว่าองค์กรตำรวจเป็นองค์กรที่สังคมรังเกียจเกลียดชังอย่าง ที่สุด  ด้วยมันมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงจนวุ่นวาย และภายในองค์กรตำรวจเองก็ยังเล่นการเมือง อีกทั้งเรื่องผลประโยชน์มหาศาลที่ตำรวจทำมาหากินกันอย่างอวบอิ่มมายาวนาน


การสลายการชุมนุมอย่างสันติภายใต้สิทธิเสรีภาพตามกรอบรัฐธรรมนูญของเช้านี้  ใครอย่ามาพูดให้ผมฟังเชียวว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ที่ทั่วโลกกระทำกันอย่างเด็ดขาด  รองผบ.บช.น.พูดมาได้อย่างไรว่าผู้บาดเจ็บขาขาดเกิดจากการลื่นล้ม!  คนพูดก็ระวังล้มใส่ตีนประชาชนไว้เถิด


ขึ้นแปดค่ำเดือนสิบเอ็ด

วันที่เจ็ดเดือนตุลา-ปีขาล

เป็นวันพระวันบุญวันสุนทาน

วันอังคารปีชวด-ตำรวจเอย

มึงมันใจหมาไอ้หน้าสัตว์

.............................

............................


ผมเขียนได้เท่านี้จริงๆ

Comment #1
Posted @7 ต.ค.51 21.09 ip : 210...100

มีการปะทะกันเป็นช่วง ๆ ทั้งวัน ในขณะที่ผมกำลังพิมพ์ 21:06 น.

มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทั้งสองฝ่าย พันธมิตรฯหลายคนขาขาด นิ้วขาด ตำรวจบางคนถูกยิง ถูกแทงด้วยของแหลมทะลุตับ

...

ผมไม่สนเรื่องเหตุผลของใครทั้งนั้น ผมถือว่ามันเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ของคนไทยทั้งชาติ

...

ผมยังคงติดตามสถาณการณ์ของค่ำคืนนี้ อย่างเสียใจ .. ต่อไป

Comment #2
Posted @8 ต.ค.51 13.48 ip : 202...155

มันบอกว่า ใช้แต่แก๊สน้ำตา  และแก๊สน้ำตาไม่เป็นอันตราย  จะปฏิเสธว่า คนขาขาด มือขาด หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต ไม่ใช่ฝีมือของตำรวจ  ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ


ไม่ใช่ฝีมือตำรวจจริงๆครับ.....  แต่เป็นฝีมือของ.สัตว์นรกในคราบตำรวจ  ถ้าเป็นพ่อแม่ ลูกเมีย ญาติพี่น้องของมันมั่งคงไม่พูดอย่างนี้

ไอ้นาย กอ  มันก็ไม่ไปดูดำดูดี  มีคนเจ็บคนตายตั้งเป็นร้อยๆคน  ยังมีหน้ามานั่งคิดโปรแกรมนำเที่ยว

อนิจจา  เมืองไทยหาคนดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว......


ป.ล. ตอนนี้ตำรวจไทยนอกจาก รีด รีด  ไถ ไถ กินอาจมทีนักการเมืองชั่วมันหว่านให้ เหมือนหนอนในกองคูถ  แล้วยัง  ฆ่าประชาชน ได้อีก หมดยางอายแล้ว...

รูปปั้นที่หน้ากรมนั้นผมเห็นว่าถึงเวลาต้องยกลงไปเก็บได้แล้ว  มันไม่สื่อภาพลักษณ์ของตำรวจสมัยใหม่แล้วครับ... แล้วไม่ต้องมาร้องบอก  สุขเถิดปวงประชา  ปวงข้าฯ  ฟังแล้วมันจะอ้วก

Comment #3
รอด (Not Member)
Posted @8 ต.ค.51 13.54 ip : 124...124

มึงมันใจสัตว์ไอ้หน้าเหี้ย!!!

Comment #4
ลานเทวา (Not Member)
Posted @9 ต.ค.51 9.49 ip : 125...189

มึงมันใจหมา ไอ้น่ารัก

:p  :p  :p  :p

Comment #5
มิตรที่ไม่เคยรู้จักก (Not Member)
Posted @10 ต.ค.51 13.38 ip : 203...32

สวัสดีคุณหมี่เป็ด

ผมชอบบทกวีของคุณ
เมื่อบทกวีสัมผัสตา เข้าสู่ความคิด
มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์สมองของเรา บทกวีของคุณกลายเป็นมิตรและศัตรูกับความคิดของผม บางทีบทกวีของคุณทำให้ความคิดของผมเห็นชอบด้วย แต่บางทีบทกวีของคุณทะเลาะโต้แย้งกับสิ่งที่แออัดยัดอยู่ในหัวสมอง แต่ผมก็ชอบบทกวีของคุณ เป็นส่วนใหญ่

อ่านมาจากที่ใดสักที่หนึ่งว่าคุณหมี่เป็ดกล่าวถึงบทกวี ว่าเหมือนกับหญิงสาวที่ห่อหุ้มด้วยแพรพรรณ ความคิดที่ถูกหุ้มห่อไว้ด้วยฉันทลักษณ์
ในท้ายสุด เมื่อลอกสิ่งห่อหุ้มออก แก่นความคิดของมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และนั่นเองคือสิ่งที่ผมชอบในบทกวีของคุณ

ในยามที่ "what do you see may not be what really be" ภาพดิจิตอลที่เราเห็นผ่านสื่อที่ปรากฎให้เห็น
เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งของสัจจะและบทละคร ที่สร้างขึ้นด้วยมุมกล้อง ด้วยสคริปต์ ด้วยนักแสดง บทกวีของคุณหมี่เป็ด และคนอื่นๆ กำลังเป็นส่วนหนึ่งของการบันทึกประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ของ "Reality shows which may be unreal" ประวัติศาสตร์ที่น่าเคลือบแคลง ด้วยข่าวสารที่บิดเบือน ประวัติศาสตร์ที่ใช้รอยเลือดและน้ำตาเป็นหยดหมึกเพื่อบันทึกว่า สังคมไทยช่างโฉดเขลาเสียนี่กระไร

แต่ว่า ขออย่าให้สิ่งที่คุณเห็น มาหลอกลวงคุณได้ ยังจำภาพถ่ายจากการแสดงแขวนคอเมื่อปี 2519 ได้ไหมครับ ภาพถ่ายนั้น ได้ถูกสาดเข้าไปเป็นเชื้อเพลิงให้แรงเกลียดชังให้คนไทยฆ่ากันเองอย่างโหดเหี้ยม (ภายหลังมีผู้ยืนยันว่าเป็นภาพถ่ายนั้นภาพจริงไม่ถูกตัดแต่ง
แต่นั่นไม่สำคัญหรอกเพราะว่า “a half truth used as a whole truth was more dangerous than a lie.” ไม่ว่าภาพนั้น จะจริงหรือเท็จก็ตาม ชะตากรรมของนักศึกษาถูกกำหนดไว้ในสคริปต์อยู่แล้ว)

อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณสำหรับบทกวีที่ดีๆครับ

มิตรที่ไม่เคยรู้จักกัน

6+4 ตุลาคม 2551

Comment #6
Posted @10 ต.ค.51 17.42 ip : 118...135

คุณมิตรที่ไม่เคยรู้จักกันครับ-

ขอบคุณอย่างยิ่ง และยินดีเป็นอย่างสูงที่มาเยี่ยมเยียน และหวังว่าเราคงจะได้เป็นมิตรที่รู้จักกันในวันหนึ่งนะครับ


ที่คุณตอบมานั้นผมเข้าใจว่าคุณกำลังติอะไำรบางอย่างในวิธีคิดของผม แล้วสื่อผ่านบทกวี โดยเฉพาะเรื่องการเมืองช่วงนี้ ผมใช้คำว่าติ ซึ่งเป็นคำในความหมายที่ดีงามนะครับ อย่าเข้าใจผิด เป็นคำที่มิตรเท่านั้นจะกล้าติและตักเตือน ตรงนี้ขอขอบคุณด้วยใจจริงอีกครั้งครับ

ภาพการแสดงแขวนคอของนักศึกษาในปี 2519 อันเนื่องมาจากช่างไฟฟ้าสองคนโดนฆ่าแขวนคอที่นครปฐม ผมได้เห็น และยังจำได้ครับ ตอนนั้นสังคมสับสนอลหม่าน "ความจริง"ได้ถูกตั้งคำถามค้นหาอย่างเคลือบแคลงสงสัย และกระแสเกลียดชังต่อกันก็รุนแรงไม่น้อยกว่าปัจจุบันนี้เท่าไหร่เลย

การตกแต่งภาพมันสามารถพิสูจน์ได้ในปัจจุบัน โดยกระบวนการวิทยาศาสตร์  ภาพคนขาขาด หรือภาพตำรวจเล็งปืนใส่ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการที่น่าเชื่อถือนี้

อีกอย่างผมเห็นภาพคนขาขาดนั้นทางช่อง 3 ในตอนเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ไม่ใช่ทางเอเอสทีวีเพราะที่บ้านผมไม่ได้รับสัญญาณคลื่นนี้ เห็นภาพทางข่าวช่อง 3 แล้วจึงตระเวนดูภาพทางสื่อต่างๆในอินเตอร์เนต ซึ่งแน่นอนที่ต้องดูทั้งบอร์ดฟ้าเดียวกัน,ประชาไท,และผู้จัดการ อาจดูไม่ทั่วถึงที่มีอยู่ และอาจดูได้ไม่ครบกระทู้ที่เกี่ยวข้อง ด้วยเวลาที่ใช้ในเนตของผมนั้นมีไม่มากนัก  แต่วีดีโอที่มีคนถ่ายคลิปเอาไว้ ผมเองก็ไม่ทราบจริงๆว่ามันตัดต่อได้หรือไม่ จากเวบผู้จัดการ ที่ตร.นายหนึ่งเล็งปืนเข้าใส่ เห็นหน้าชัดเจนในชุดตำรวจ และต่อมาท่านอะไรผมก็จำชื่อไม่ได้่ ได้มาบอกว่าคนผู้นั้นไม่ใช่ตำรวจ  .....


การเมืองปัจจุบันมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งกว่า 14 ตุลา บรรยากาศมันคล้ายกัน เหตุแห่งปัจจัยก็คล้ายกัน และซ่อนงำเอาไว้เหมือนกัน  ต่างกันที่ปัจจุบัน มีการบอกกล่าวในเรื่องที่ครั้งโน้นไม่สามารถเผยแพร่ได้ ซ้าย-ขวา,บทบาทของสถาบัน,ความเชื่อในบางสิ่ง เราวนเวียนอยู่กับบรรยากาศ 14 ตุลา มาหลายปี จนซ้ำรอย 6 ตุลา อีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ตัวละครข้ามวิกสลับกันจนมิตรเก่าแตกคอกันไปหลายคน

โลกาภิวัฒน์เป็นกระแสที่หลามไหลรวดเร็ว สิ่งเก่าจะโดนกระแสนี้ตีต้านจนยั้งไม่อยู่ สักวันเราอาจจะมีรัฐบาลที่มาจากบรรษัทข้ามชาติ หรืออาจจะเป็นต่างชาติเองเข้ามาจัดรัฐบาลให้เรา  ผมจึงเชื่อว่าเราต้องชั่งตวงก่อนตัดสินใจ และการตัดสินใจของใครคนใดคนหนึ่ง มันไม่จำเป็นต้องเพราะต้องการปกป้องสิ่งเก่าเท่านั้น หรืออาจต้องการ แต่อาจจะมีเหตุปัจจัยอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาเข้าร่วมการต่อสู้ ในรูปแบบของศัพท์เก่าๆที่ว่า แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง

สำหรับผม ทักษิณและทุนในกลุ่มเป็นแค่ตัวตลกตัวหนึ่ง ที่จับพลัดจับผลูเข้าสู่วังวนความขัดแย้งก่อนใครอื่น และถลำลึกจนไม่สามารถตีตัวออกได้

ข้อจำกัดทางประวัติศาสตร์ยังเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้


บทกวีที่เขียนค้างไว้ของผม ผมยอมรับว่าเขียนเพราะแรงเดือดในใจ มีอีก 2 วรรคที่เขียนในใจคือ "อยากเอาตีนลูบหน้าตำรวจไทย เกรงจังไรติดตีนจนปี้ป่น" แต่ไม่ได้เขียนมันลงไป ด้วยเมื่อผ่านช่วงเดือดของอารมณ์ ผมก็จะนั่งวิเคราะห์งานของตนว่าสมควรไหม เขียนค้างไว้ถึงท่อน "มึงมันใจหมาไอ้หน้าสัตว์" แต่บทกวีจริงๆที่รอเขียนให้จบมันจะไม่มีประโยคนั้น ที่เอามาลงเพียงอยากให้คนในบอร์ดได้รับรู้ ว่าผมกำลังโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอน-ที่ผมจะเหมาตำรวจหรือรัฐบาลผิดเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้เด็ดขาด

ดีใจครับที่คุณได้มาเยี่ยมเยียนและพูดคุย ทัศนะอาจต่างกันนะครับ แต่เราน่าจะเป็นมิตรกันได้

มาอีกนะครับ

ด้วยมิตรภาพ

Comment #7
มิตรที่ไม่รู้จักกัน (Not Member)
Posted @10 ต.ค.51 18.19 ip : 203...32

คุณหมี่เป็ด


ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เสวนากัน เนื่องจาก ผมไม่ค่อยถนัดเขียนยาวๆ จึงขอแบ่งเป็นความคิดข้อๆ ที่อาจไม่ต่อเนื่องกันซึ่งก็ขออภัยมาในที่นี้


1.ทักษิณ หรือ ทุนสามานย์ เป็นอีกเรื่องหนึง ขอเว้นไว้ก่อน ถ้ามีโอกาสจะมาแลกเปลี่ยนกัน เรื่อง "การผลิตและทรัพยากร" ซึ่งน่าจะมีประเด็นให้คุยกันอย่างกว้างขวาง


2.ประเด็นเรื่อง ภาพที่คุณเห็น ผมไม่ได้บอกว่าภาพนั้น "ไม่จริง" สิ่งที่ผมบอกก็คือ ถึงภาพนั้นจะ "จริง" มันก็เป็นความจริงเพียงส่วนเสี้ยว


กล่าวคือ ขาอาจขาดเพราะว่าแรงระเบิด แต่ระเบิดมาจากที่ไหนกันล่ะ  เป็นไปได้หรือไม่ที่ นักรบศรีวิชัย หรือนักรบเสื้อเหลือง จะพกระเบิดติดตัวไปด้วย  ปัญหานี้ ต้องมีการพิสูจน์ทราบ  แน่นอนว่าที่ผมโพสต์เช่นนี้ ย่อมแสดงว่าผมไม่ได้อยู่ข้าง พธม และอาจมีอคติต่อพวกเขา  แต่ว่า ถ้าคุณหมี่เป็ดเข้าไปอ่านใน ผจก และลองอ่านในด้านตรงข้ามที่ ประชาไท หรือ ฟ้าฯ  จะมีการแสดงความเห็นอย่างดุเดือดว่า พธม อาศัยสื่ออย่าง ผจก ในการสร้างหลักฐานเท็จหลายครั้ง  แน่นอนว่า คนขาขาดนั้นไม่เท็จ แต่ข้อหาที่ว่า ตำรวจยิงผู้ชุมนุมอย่างสันติจนขาขาด นั้น ต้องมีการพิสูจน์ทราบก่อน    ประเด็นนี้ ก็เหมือนกับที่หมอพรทิพย์ พยายามจะบอกว่า สามารถพิสูจน์ได้ว่า ขาขาดนั้นเพราะแรงระเบิด แต่แล้วงัยล่ะครับ แรงระเบิดเกิดจากสาเหตุใด หมอพรทิพย์ ก็คงบอกไม่ได้


ที่ผมโยงกับเหตุการณ์ 6 ตุลา ก็ด้วยก็เพราะว่า โดยข้อมูลที่ผมได้รับมา ภาพที่เป็นเหตุให้คนโกรธแค้น นั้น อาจเป็นภาพจริง แต่ด้วยว่าจินตภาพของผู้คนที่มีแนวโน้มจะเชื่อว่า นักศึกษาต้องการล้มสถาบัน เมื่อเห็นภาพจะเชื่อทันทีว่า นักศึกษาแต่งหน้าให้คล้าย ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่จินตภาพและความเชื่ออย่างรุนแรงดังกล่าว ได้ถูกจัดตั้งในจิตใจของผู้คน ผ่านกระบวนการต่างๆนานา จนถึงจุดที่ผู้คนสามารถจะเชื่ออะไรก็ตามที่เห็นว่าเป็นไปตามที่ตัวเองคิด


การจะตัดสินว่า ฝ่ายใดผิด จะอาศัยความจริงเพียงส่วนเสี้ยวไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่ผมอ้าง และความจริงเพียงครึ่งหนึ่ง ที่นำเสนอว่าเป็นความจริงทั้งหมด นั้นอันตรายกว่า การโกหกเสียอีก เพราะว่า การผสมความจริงลงไปในความเท็จ มันทำให้ความเท็จน่าเชื่อถือกว่า ความเท็จเพียงอย่างเดียว


3. ข้อสุดท้าย สำหรับการโพสต์ครั้งนี้ คือว่า การกล่าวว่า "การสลายการชุมนุมอย่างสันติภายใต้สิทธิเสรีภาพตามกรอบรัฐธรรมนูญของเช้านี้" ของคุณหมี่เป็ดนี่ ผมขอแย้งว่า ไม่ถูกต้องทั้งหมด  ผู้คนจำนวนมาก และส่วนใหญ่มาเพื่อชุมนุมโดยสันติจริง แต่หลักฐานว่า พธม โดยแกนนำ มีการจัดตั้งการ์ด (ส่วนหนึ่ง) ที่มีอาวุธ มีให้เราเห็น (โดยสำนักข่าวที่เชื่อได้ว่าเป็นกลาง และมีภาพปรากฎเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน)  และคำว่า "สันติ" สำหรับ พธม แล้ว ผมไม่เชื่อ (ขอโทษที่ผมไม่มีเวลาโพสต์ url อ้างอ้างภาพ หรือขยายความส่วนนี้ได้ เพราะไม่มีเวลาจริงๆ )

สุดท้ายขอกล่าวคำว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับคุณหมี่เป็ด อย่างมิตรสหาย

ด้วยมิตรภาพเช่นกันครับ

6+4 ตุลาคม 2551

Comment #8
Posted @10 ต.ค.51 20.53 ip : 118...27

ครับ มาต่อกัน-

1-. ผมเชื่อว่าเรื่อง"การผลิตและทรัพยากร"คือเหตุแห่งการเมือง และทักษิณพร้อมพวกทุนทั้งหลายพลัดหลงเข้ามา จะมีความทะเยอะทะยานอะไรหรือไม่ ก็ค่อยว่ากัน เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าจะพูดคุย แต่เนื่องจากบอร์ดผมเป็นบอร์ดเปิด ใครจะเข้ามาก็ได้ สมัครสมาชิกหรือไม่ก็ได้ อีกทั้งเจ้าของพื้นที่และเวบมาสเตอร์คือเพื่อนผม(ลูกหมี) อย่างไรเสียถ้าจะคุยก็ขอคุยกันเบาๆนะครับ

2-. อาจเป็นไปได้ที่ฝ่าย พธม. มีวัตถุระเบิดครอบครอง และใช้มันโดยผิดพลาด ซึ่งเราจะฟังจากปากของเพื่อนๆผู้ตายหรือบาดเจ็บก็คงไม่มีน้ำหนัก กรณีนี้การจะพิสูจน์ได้ว่าระเบิดของใคร มันน่าจะมีวิธีการทางวิทยาศาตร์เข้ามาช่วย  ตัวอย่างเช่น- ที่ชายแดนใต้เมื่อเกิดการปล้นปืนในค่ายกองพันพัฒนา นราธิวาส  และต่อมามีการสู้รบยิงกัน มีการค้นพบอาวุธที่โดนปล้น หลักฐานบนตัวปืนก็สามารถบ่งชี้ได้ว่ามาจากที่ไหนหน่วยไหน กระสุนที่ยิงออกจากกระบอก กระบวนการทางวิทยา่ศาสตร์ยังพิสูจน์ได้ว่ายิงมาจากปืนอะไร รุ่นไหน ในการผลิตอาวุธที่ออกมานั้น ผมจึงเข้าใจเอาว่า มันผลิตโดยป้องกันการใช้อย่างผิดวิธีและผิดประโยชน์  สามารถที่จะหาวัตถุที่คู่กับวัตถุนั้นได้ กรณีระเบิดควัน,แก๊สน้ำตา,ก็น่าจะสามารถพิสูจน์ได้เช่นกันว่ามาจากฝ่ายไหน หน่วยไหน(ในกรณีเป็นฝีมือตำรวจ) และรัศมี-ประสิทธิภาพการทำลายล้างของวัตถุเหล่านั้นอยู่ในระดับใด  เหตุใดจึงทำให้ขาขาด? การที่มีคนขาขาดจึงทำให้คนทั่วไปสงสัยว่ามันจะเป็นลูกเกลี้ยง เพราะการทำลายล้างของลูกเกลี้ยงจะทำลายล้างในระนาบพื้น ไม่พุ่งสูง 45 องศาเหมือนน้อยหน่า ลูกเกลี้ยงเจตนาจะตัดขาข้าศึก น้อยหน่าเจตนาจะฆ่าให้ตาย กระเดื่องและเศษวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุนั้น ก็น่าจะสามารถสืบหาที่มาของมันได้ว่ามาจากตำรวจหรือไม่ เช่นเดียวกับปืนที่ถูกปล้นจากค่าย

เราคงสืบว่าระเบิดอาวุธมาจากพธม.หรือไม่ คงยากในกา่รสืบ ยากกว่าการสืบเอาจากตำรวจ เพราะเป็นหน่วยที่มีสังกัดชัดเจน และอาวุธทุกอย่างมีทะเบียนครบหมด ถ้าไม่ตรงกับที่ตำรวจใช้ ก็อนุมานเบื้องต้นได้ว่ามาจากพธม.  แม้ความสงสัยว่าจะมีใครที่ไหนหนีบระเบิดหรือใส่ถุงพลาสติก(ซึ่งน่าจะมีคนเห็น หรือเป็นถุงทึบ?) แต่การพิสูจน์เช่นนั้นก็น่าจะตอบคำถามสังคมได้เบื้องต้น

ขอยกตัวอย่างบางอย่าง จากบล็อกโอเคเนชั่นตามลิงค์นี้นะครับ--

http://www.oknation.net/blog/tyty1789/2008/10/10/entry-1

(จะขึ้นลิงค์ไหมหว่า?)

www.oknation.net/blog/tyty1789/2008/10/10/entry-1

(ลองอีกอันนะครับ)

ถ้าหลักฐานการขว้างแก๊สน้ำตาปรากฏชัดเช่นในลิงค์ เราก็คงไม่ต้องสืบพิสูจน์แต่อย่างใด


ในความสับสนอลหม่าน  การจะวิเคราะห์ใครผิดใครถูกเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส แต่เมื่อมีการตายการบาดเจ็บรุนแรง ถึงจะหนักหนาสาหัสเพียงไรก็ต้องทำ หลักฐานและพยานเท่านั้นครับ ที่จะทำให้ความถูกเป็นถูก ความผิดเป็นผิด  ในกระบวนการตรวจสอบนี้จึงเป็นหน้าที่ของศาล  เพราะถ้าไม่ใช่ศาล เราก็ไม่รู้จะให้ใครตัดสินพิพากษา และถ้าเราไม่เชื่อถือศาล สังคมจะอยู่กันอย่างไร? หากมีการโต้แย้งว่าศาลเลือกข้าง โดนแทรกแซง กระบวนการสังคมก็จะตรวจสอบศาลไปในตัวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ยังอยู่ที่พยาน-หลักฐานที่ประชาชนจะตรวจสอบศาลเช่นกัน

ดังนั้น ความจริงที่จริงแท้จะปรากฏก็ต่อเมื่อพยาน-หลักฐานของแต่ละฝ่ายมาสู้กันเท่านั้น


3-. คำว่าสงบและสันติ ของพธม. นั้น ต้องดูว่ามีอาวุธอะไรบ้าง และได้ใช้มันเกินกว่าเหตุหรือไม่ ใช้ป้องกันตัวหรือไม่ มีไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาครับ ในการทำคดีของตำรวจเองก็ดูที่เจตนาเป็นหลัก กฏหมายทุกมาตราดูที่เจตนาเป็นหลัก ผมไม่ทราบว่า พธม. มีอาวุธหรือไม่ เพราะไม่เคยเข้าร่วมชุมนุม  มีบ้างที่หาดใหญ่แต่ก็เป็นเพียงการขึ้นเวทีชั่วครั้งชั่วคราว เพื่ออ่านบทกวีในแต่ละกรณีที่ผมเลือกแล้วว่าจะขึ้นและเห็นด้วย จึงพูดไม่ได้ว่า พธม. มีอาวุธในครอบครองหรือไม่ แต่ภาพทางหน้า 1 นสพ. ทุกฉบับฉายชัดรูปหนุ่มเสื้อแดงถือดาบชี้หน้า พธม. ต่อหน้าตำรวจที่ตรึงกำลัง  ความสงสัยของผมพุ่งไปที่ตำรวจ ทำไมจึงไม่จับกุมดำเนินคดีข้อหามีอาวุธในครอบครอง? และพยายามฆ่า?

เมื่อเราพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งจ้องจะทำร้ายอยู่ เราคงไม่นิ่งให้เขาเข้ามากระทืบเล่นเอาตามใจเป็นแน่ หรือมิใช่?

เราควรพูดถึง นปก. ด้วยในกรณีนี้


คำถามอีกคำถามถึงตำรวจก็คือ ทำไมจึงใช้ ตชด. ในการสลายผู้ชุมนุม?


ตชด.ถูกฝึกมาเพื่อฆ่าคน ฝึกกันมาเพื่อใช้ในสงครามเช่นเดียวกับทหาร ตชด.ได้เคยศึกษาจิตวิทยามาหรือไม่?  เคยฝึกการควบคุมฝูงชนมาหรือไม่? ฝึกการอดกลั้นมามากน้อยเพียงใด? ทำไมไม่ใช้หน่วยควบคุมม็อบที่ สตช.มีอยู่?

การตายของน้องโบว์ ทางแพทย์ได้สรุปไว้ว่า--

"
      ลักษณะบาดแผลไม่เรียบ แสดงว่า เกิดจากความแข็ง มีรอยไหม้ เนื่องจากวัตถุมีความร้อน ตับและม้ามแตกจากวัตถุที่มีแรงอัด ซึ่งเข้ากับลักษณะของระเบิดมากที่สุด และเกิดการระเบิดในระยะใกล้ตัว ไม่ติดกับลำตัว เนื่องจากซี่โครงร้าวเป็นแนวยาว หากระเบิดในระยะติดตัวซี่โครงจะต้องแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากกว่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เสียชีวิตจะพกวัตถุระเบิดไว้ประชิดติดตัว น่าจะเป็นการที่วัตถุมากระทบโดนตัว และกระเด็นตกใกล้ตัวก่อนจะเกิดการระเบิดมากกว่า ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ กล่าว"

และ-

"  กรณีศพของน้องโบว์ เสียชีวิตจากการระเบิดของแก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำแน่ เพราะเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปชันสูตรศพยังแสบตามากจนต้องออกมาล้างหลายรอบ และที่ตัวศพไม่พบสะเก็ดระเบิดที่เป็นโลหะ แต่หากเป็นระเบิดจากแก๊สน้ำตาที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกเมื่อเกิดการระเบิด จะไม่พบสะเก็ดผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ กล่าว"

www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000120781

จากเวบผู้จัดการครับ ที่เลือกเอาจากเวบนี้ ก็ด้วยอยากฟังข้อถกเถียงที่มีน้ำหนักกว่าเวบผู้จัดการครับ

ขอบคุณครับที่มาคุยกัน บอร์ดผมค่อนข้างเงียบๆสักหน่อย แต่ก็น่าจะเหมาะแก่การพูดคุย  ท้วงติงได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ หากเห็นว่าทัศนะของผมกำลังบิดเบือนไขว้เขว  ขอบคุณครับ

Comment #9
มิตรที่ไม่รู้จักกัน (Not Member)
Posted @11 ต.ค.51 11.43 ip : 58...221

สวัสดีอีกครั้งครับ คุณหมี่เป็ด


ก่อนอื่น ขอบอกว่าผมประนามผู้ที่ใช้ความรุนแรงทั้งสองฝ่ายและขอเสียใจต่อผู้ที่สูญเสียและเหยื่อทุกคนในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย  และก่อนจะมาต่อกันในประเด็นที่ค้างคาอยู่ 


ตั้งใจว่าจะตอบประเด็นที่คุณหมี่เป็ดมาต่อ แต่พอผมพิมพ์ไปได้สักพัก ก็รู้ตัว ยังไม่สามารถจบประเด็นที่ตั้งใจจะสื่อได้ เพราะว่ามันเกี่ยวกับหลักฐานจากทั้งสองฝ่าย อาทิ เช่น วิดีโอคลิปที่คุณหมี่เป็ด อุตสาห์โพสต์มาให้ดู ทำให้ผมต้องพยายามตีความอยู่ว่า คลิปนั้นหมายถึงอารัย  (ที่จริง มีคนอ้าง หลักฐานในคลิปนั้น เพื่อประโยชน์ของทั้งฝ่ายนั่นแหละ ผมจะให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปนั้นอีกทีครับ)


ดังนั้น ขอโพสต์ลิงค์ที่อยากให้คุณหมี่เป็ดดูไว้ก่อน สักสองลิงค์ แล้วสักพักผมจะมาโพสต์เพิ่มเติม (ยินดีมากที่ได้พูดคุยกับคุณหมี่เป็ด และคงได้รบกวน แลกเปลี่ยนความเห็นกันเป็นระยะๆ เลยคิดว่าไม่ควรจะเสียเวลาพิมพ์ยาวๆ และ บังเอิญว่า ช่วงนี้ มีงานหนังสือที่ศูนย์ประชุม ว่าจะแวะไปดูด้วย ขออภัยถ้าทำให้คุณหมี่เป็ดเสียเวลาตอบหลายครั้ง)


ดูเวบสักสองลิงค์นะครับ ที่เกี่ยวกับ "อาวุธ" เชื่อไม่เชื่อก็จดไว้ก่อน ทั้งสองฝ่าย ก็ยกหลักฐานมาเอาชนะกันอุตลุด


www.komchadluek.net


www.pantip.com


คมชัดลึกอยู่เครือเนชั่น ที่ต้านทักกี้อย่างชัดเจน แต่ก็แสดงความเป็นมืออาชีพของสืออยู่ให้พอเชื่อถือได้ ส่วน พันทิพย์ ก็มีฝ่ายโปรทักกี้เยอะ มักจะเป็นข้อมูลที่หักล้างกะ ผจก โดยตรง


แล้วจะแวะมาเติมความเห็นของผมอีกทีครับ ให้คุณหมี่เป็ดดูไว้ก่อน จะได้รู้แนวว่าผมจะแลกเปลี่ยนแบบไหน


ด้วยความนันถือ

6+5 ตุลาคม 2551


.....

Comment #10
มิตรที่ไม่รู้จักกัน (Not Member)
Posted @11 ต.ค.51 12.02 ip : 58...221

ขอโทษครับ กลับมาดูปรากฎว่าลิงก์ไม่ขึ้น เลยขอโพสต์ซ้ำอีกครั้ง

รบกวนใช้วิธีก๊อป url ไปวางในช่อง url ของ IE เพื่อเข้าดูไปก่อนครับ ผมยังไม่รู้วิธีทำลิงก์ในเวบนี้ ถ้างัยก็กรุณาแนะนำด้วย

มีอีกลิงค์ที่เกี่ยวกับ ความเห็นต่างเรื่อง มือที่กำระเบิด หรือ พวงกุญแจ ตามข่าว "แพทย์แจงภาพชายมือขาด กำพวงกุญแจหนังแทนระเบิด" ที่พยายามขยายภาพให้เห็นว่า มันเป็นกุญแจ หรือ ระเบิด  ขอให้ดูแล้วจะเชื่อสายตาหรือไม่ก็ตามแต่ครับ  ประเด็นของผมคือ อย่าเพิ่งสรุปเร็วไปนัก ข้อมูลทั้งหลาย ต่างก็ต้องมีการตรวจสอบกันทั้งสองฝ่าย ให้เปนที่สิ้นสุด


http://www.prachatai.com/webboard/wbtopic.php?id=728217

Comment #11
Posted @11 ต.ค.51 18.38 ip : 118...128

ลิงค์ขึ้นดีแล้วครับ ได้ไปดูที่คมชัดลึก กับ พันทิพ ด้วยแล้ว

ในกรณีที่พันทิพลงรูปนั้น  ตามรูป- เข้าใจได้ว่าเป็นหนึ่งในการ์ดอาสาของ พธม. ด้วยการจับเอาว่าวิ่งปะปนอยู่กับพธม.ในวันที่ 7 นั้น ต่อมาชายคนนั้นได้ยกปืนเล็งไปที่ใดที่หนึ่ง

ไม่ว่าจะเล็งไปที่ตำรวจหรือพธม.นะครับ ชายคนนั้นเลวอย่างยิ่ง

เขาใส่แว่นที่ผมมักเห็นเวลาคนซ้อมยิงปืนหรือปั่นจักรยาน เข้าใจว่าน่าจะป้องกันแก๊สน้ำตาได้ด้วย  นั่นหมายความว่าไม่ว่าเขาจะเป็นใคร พธม. หรือตำรวจแฝงตัวหรือมือที่สาม ย่อมรู้แน่ว่าจะเจอกับการสลายการชุมนุม มีการเตรียมตัวรับเหตุการณ์มาพร้อม ถามตำรวจก็คงตอบว่าไม่ใช่ตำรวจ ถามพธม. ก็คงตอบว่าไม่ใช่พธม. และอาจโยนไปให้มือที่สาม

ส่วนรูปจากประชาไท ความน่าสงสัยก็มีน้ำหนักพอสมควรอยู่


และเข้าประเด็นเรื่องนี้ที่ผมว่า นั่นคือทุกอย่างที่อยู่หลักฐานและพยานเท่านั้น โดยใช้กระบวนการพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ส่วนประเด็นที่คุณว่าผมด่วนสรุปนั้น  ประเด็นนี้คุณกำลังโยงเอาจากบทกวีข้างบนของผมมา ขอแก้ต่างประเด็นนี้นะครับ เพราะจับได้ว่าเป็นประเด็นที่คุณกำลังคุยกับผมอยู่


เป็นวูบของความรู้สึกแรกที่เห็นภาพ(มันอาจฟังไม่ขึ้น)  ในภาวะนั้น ผมก็ยอมรับว่าไม่ได้คิดรอบด้าน เพียงรู้สึกแล้วก็เขียนขึ้นมา โดยเชื่อว่าเกิดจากการสลายการชุมนุมโดยตำรวจ ทำไมจึงเชื่อ? เพราะเหตุปะทะกันนั้น ตามภาพข่าวทางฟรีทีวี ผมเห็นแต่ฝ่ายตำรวจยิงและปาเข้าใส่ฝูงชน (หากมีภาพเผยแพร่ทางทีวีที่เป็นรูปเดียวกับมติชน หรือภาพอื่นๆที่แสดงให้เห็น ผมก็ต้องกล่าว"แก้ตัว"อีกว่าผมไม่ได้ดู)

ภาพต่างๆทุกภาพที่ิออกมา ก็มาเห็นทางเนตเมื่อล่วงเข้าอีกวัน "การด่วนสรุป"ของผมเป็นไปตามเนื้อตาที่เห็นในห้วงเวลานั้น  และสื่อสารมวลชนกำลังถูกตั้งคำถามผ่านบทกวีที่ยังเขียนไม่จบของผม


ในสงครามการเมืองเวลานี้ ค่ายสื่อแบ่งฝ่ายชัดเจน และพยายามหาหลักฐานเหตุึผลพยานที่มีน้ำหนักมาหักล้างกันและกัน คนอ่านก็เลือกเสพในค่ายที่ตรงกับตนคิด ไม่ได้จะบอกว่าสื่อไซโคผม เพราะที่ร้านผมรับข่าวสด ซึ่งชัดเจนว่าอยู่ตรงข้ามพธม. กรณีลิงค์ของคุณนำเสนอมาิ เพื่อบอกว่าผมด่วนสรุปเหตุการณ์เร็วเกินไปนั้น อำนาจสื่อของแต่ละฟากย่อมทำให้ผู้เสพคิดตามได้ไม่ยากเย็น เพียงแต่ผม"รีบ"เขียน(แม้ยังไม่จบและยังไม่ได้ต่อ)เกินไป

ประเด็นการเขียนโดยรู้สึกผ่านภาพข่าว เป็นเรื่องง่ายยิ่ง แค่สั่นสะเทือนความรู้สึก เราก็สามารถเขียนมันออกมาได้(จะดีหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง) ซึ่งเราก็คงรู้กันอยู่

สรุปประเด็นของคุณก็คือ กำลังตั้งคำถามหรือชี้ว่าผมด่วนสรุปเหตุการณ์แล้วเขียน โดยไม่สืบหาข้อเท็จจริงเสียก่อน เมือ่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ผมควรที่จะอยู่เฉยๆแม้รู้สึกอย่างไร เพื่อรอการสืบหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจนเสียก่อนหรือ แล้วจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะพิสูจน์ได้? เช่นภาพชายสวมแว่นที่คุณลิงค์มาให้โดยไม่ต้องอุตส่าห์นั้น ใครจะตอบได้ว่าเป็นการ์ดพธม.จริง? หรือคุณเชื่อแล้ว? แล้วภาพตำรวจเล็งปืนใส่ผู้ชุมนุมนั้น ใครจะอธิบายอย่างไร? หรือเชื่อแล้วตามที่ตำรวจว่าเล็งใส่ล้อรถที่วิ่งชน ซึ่งมันสามารถพิสูจน์ได้ด้วยเวลาและพื้นที่


คุณด่วนสรุปว่าผมด่วนสรุป โดยที่บทกวีชิ้นนั้นยังเขียนไม่จบและยังไม่ได้เขียนต่อ จริงอยู่ที่บทกวีที่มีเท่านั้นมันบ่งว่าผมกำลังกล่าวหาตำรวจ ด่าทอตำรวจ ไม่มีโต้แย้ง หรอกครับ เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึก แต่ผมไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม การจะพิสูจน์ด้วยตนเองจึงไม่เคยคิด และการวิพากษ์วิจารณ์น่าจะเป็นคนละเรื่องกับการพิพากษา

ประเด็น"ความจริงแท้"นี้ ต้องใช้เวลาในการไตร่ตรองขบคิด ใช้เวลาในการหาหลักฐานพยาน เป็นภาระหนึ่งของนักเขียน แต่เมื่อมันเป็นงานที่เกิดมาจากความรู้สึกฉับพลัน การจะมาค้นหาความจริงแท้ก็น่าจะเป็นเรื่องลำบาก  เพราะการจะสรุปตัวตนนักเขียนคนหนึ่งโดยผ่านชิ้นงาน ต้องสรุปตัวตนเขาด้วยการอ่านให้จบให้หมด จากงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเท่าันั้น


ทีแรกคิดว่าคุณจะเข้ามาคุยเรื่องการเมืองเสียอีก แต่ไม่เป็นไรครับ วิพากษ์ตัวผมได้ อีกทั้งคุณก็มีเหตุผลน้ำหนักในการวิพากษ์ผมอยู่ เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ

Comment #12
Posted @11 ต.ค.51 18.42 ip : 118...128

อีกนิดก่อนไปกินข้าวครับ ผมไม่ได้เห็นด้วยกับพธม.ทุกเรื่องนะครับ  อันนี้ต้องบอกกล่าวในทุกแห่งที่ผมไปคุย  เพียงแต่เลือกบางประเด็นที่เห็นด้วยเท่านั้น


ขออนุญาตเสริมอีกนิด  หลังกินข้าวเสร็จก็เข้าเนต แล้วไปเจอลิงค์นี้-

www.oknation.net/blog/jaofoto/2008/10/10/entry-1


เป็นคำบอกกล่าวของช่างภาพสนามในวันนั้น มีหลายสำนัก แต่เนตผมเปิดดูได้แค่คนแรก และดูไม่ถึงครึ่ง  แต่ที่นำมาลิงค์ก็เผื่อเนตคุณจะเร็วและแรงกว่าผม


รู้สึกจะมีช่างภาพจากมติชนด้วยนะครับ  แต่ไม่แน่ใจว่ารายวันหรือสัปดาห์

ลองชมดูนะครับ ที่เหลือเขาว่าอย่างไรบ้างผมเองก็จะพยายามอดทนกับความอืดของเนต  ไฮสปีดแท้ๆ  เฮ้อ

Comment #13
มิตรที่ไม่รู้จักกัน (Not Member)
Posted @12 ต.ค.51 16.16 ip : 58...225

คุณหมี่เป็ดครับ


ขอบคุณครับที่คุณหมี่เป็ดมาตอบประเด็นจนเคลียร์  ผมคงไม่ต้องต่อความอีกแล้ว ไว้มีประเด็นใหม่ค่อยคุยกันอีกที


ทั้งนี้ ความเห็นของผมต่อกรณีการสลายการชุมนุมขอสรุปดังนี้


1.ผู้เสียชีวิตจะต้องได้รับความยุติธรรม โดยรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ภายหลังจากที่มีการพิสูจน์ทราบอย่างชัดเจนว่า เกิดขึ้นอย่างไร และถ้าหากเกิดจากฝ่ายพธมเอง แกนนำของ พธม ก็ต้องรับผิดชอบด้วย  มีข้อสังเกตว่า ในกรณีของ รถเชโรกีที่ระเบิด นั้น มีการกล่าวหาว่า พธม ขนระเบิดมาและเกิดระเบิดขึ้นก่อนนั้น พันธมิตร กล่าวถึงน้อยมาก และไม่ได้ยกย่องผู้ตายว่าเป็นวีรชนดังเช่นน้องโบว์


2.การบาดเจ็บและเสียชีวิต อาจเกิดจากการใช้ระเบิดแก๊สน้ำตา มีข้อกล่าวหาว่า มีระเบิดแก๊สน้ำตาที่ตำรวจใช้ มีหลายแบบ และที่ซื้อจากจีน อาจมีอำนาจระเบิดที่รุนแรง เป็นเหตุของความสูญเสีย จะต้องมีการพิสูจน์ทราบ  หลักฐานที่ว่า พธม พกระเบิดปิงปอง หรือวัตถุระเบิดอื่นใด ต้องถูกนำมาตั้งเป็นข้อสงสัย เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ  ในขณะนี้ ในอินเทอร์เน็ต ก็มีรูปภาพมากมายที่ถ่ายโดยนักข่าวและมือสมัครเล่น  แพร่อยู่มาก ความเห็นต่างๆ ควรได้ถูกนำมาประมวลรวมกัน  เปิดโอกาสให้ทางตำรวจและพธม ได้พิสูจน์ความจริง เพื่อหาจุดที่ยอมรับกันได้ในทางวิทยาศาสตร์


3.การชุมนุมของพธมที่มีอยู่ต่อไป จะต้องเป็นการชุมนุมอย่างสันติและปราศจากอาวุธ อย่างแท้จริง  หากมีการสลายการชุมนุมอีกในอนาคต ตำรวจต้องออกมาแถลงก่อน ถึงขั้นตอนการสลายการชุมนุมให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบ เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป  ตำรวจจึงจะทำการสลายการชุมนุมได้อย่างที่อารยะประเทศทำกัน  ประเด็นเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมนี้ ต้องมีการพิสูจน์ทราบเช่นเดียวกันว่า เหตุการณ์ที่หน้ารัฐสภาที่เกิดการสูญเสีย ตำรวจได้แจ้งผู้ชุมนุมให้รู้ตัวก่อนหรือไม่ (ปัญหาความเป็นกลางของสื่อ ก็เป็นปัญหาร้ายแรง สื่อในบ้านเรา เลือกข้างกันหมดแล้ว แม้แต่แพทย์ที่ออกมาเป็นพยาน ก็จะไม่มีใครเชื่อ เพราะว่าไปแสดงตัวว่าเลือกข้าง ดังนั้นกรรมการในบ้านเรา ก็จะเหลือน้อยลงทุกที  -- มีรายงานจากผู้สื่อข่าว ต่างประเทศ เกี่ยวกับการปะทะที่  http://www.prachatai.com/05web/th/home/14049 อ้างว่าได้ยินตำรวจประกาศผ่านรถเครื่องขยายเสียง ให้ผุ้ชุมนุมทราบก่อนยิงแก๊สน้ำตา จะเชื่อไม่เชื่อก็ว่ากันไปตามความคิดเห็นของแต่ละคน)


สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคุณหมี่เป็ดที่กรุณามาแลกเปลี่ยนความเห็น อย่างฉันมิตร และคงมีโอกาสได้มาแวะพูดคุยในที่แห่งนี้กับคุณอีกบ่อยๆ


ด้วยมิตรภาพครับ


6+6 ตุลาคม 2551

Comment #14
Posted @12 ต.ค.51 16.46 ip : 118...237

ยินดีอย่างยิ่งครับ และอยากให้คุณมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่นี่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทัศนะที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันครับ

นับเป็นเกียรติของบอร์ดแห่งนี้นะครับ


การเมืองช่วงนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความเกลียดชังของสองฝ่าย ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นแล้ว

Comment #15
นอนท้าวคางฟัง (Not Member)
Posted @13 ต.ค.51 21.04 ip : 222...212

ตุลา 19 ภาพคนที่โดนแขวนคอ  เป็นการแสดงที่ต้องการสือความหมายครับ  เรื่องตัวละคอนตอนนี้มีสีสันพอควร ครับ เขาเป็นนักศึกษาเรียนธรรมศาสตร์ ไม่เคยรุ้เรื่อง ไม่เคยสนใจ การเมือง ชอบเล่นละเม็งละคอน ชอบเล่นงิ้ว แหงที่สุด เขาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน (เหมือนคุณหมีแหละครับ) เขาตัวเล็กสุด เขาบอกเหตุผลว่าเพื่อง่ายในการแขวน  จบการแสดงชีวิตจับพลัด ผลัดผลู ต้องโดนตาม ฆ่า (ก็จากใครเสียอีกหละ) ต้องหนีเข้าไป ผ่านอินโดจีน ท้ายสุดต้องไปศึกษาในจีน จนเข้มข้นทั้งเรื่องการเมืองและวัฒนธรรมไทย-จีน จนได้เรื่องเกี่ยวกับ จีน จีน นี่แหละมาหากินถึงปัจจุบัน เขามาเปิดเผยทีหลัง เขาชื่อวิโรจน์ ที่เราเรียกอาจารย์วิโรจน์นั่แหละ นามสกุลอะไรธรรม ฯ จำไม่ได้ ตอนนี้เล่นหนังช่อง 3 เรื่องเกี่ยวกับงิ้วคนที่เป็นน้าชาย (สาว)นางเอกไง ส่วนเนื้อหาที่ผมเล่าแกมาออกรายการคุณไตรภพ หลายปีแล้ว จริงเท็จอยู่ที่แก ผมไม่รู้ ไม่ได้ยืนดูใต้ต้นมะขาม
ส่วนประเด็นที่คุณถกเถียงกันเป็นวรรคเป็นเวร (การรับฟังความเห็นของฝ่ายที่เราไม่ถูกเส้น เขาว่าเป็นความงดงามของประชาธิปไตยนะ ) เรื่องระเบิด เรื่อง เจ็บ เรื่องฝ่ายไหนทำ ฝ่ายไหนน่าจะรับผิด ผมกรองเอาจากสิ่งเหล่านั้นได้เรื่องว่า  วันที่ 7 ตุลา 2551  มีคนขาขาดเพราะประท้วงรัฐบาล สิ่งนี้มีแน่นอน ไม่ควรให้เกิดอีกเด็ดขาดไม่ว่าเหตุผลใดใด
ผลติดตามข่าวไม่มากครับ ดูทีวีนิดหน่อย อ่านข่าวนิดเดียวหนังสือพิมพ์ร้านน้ำชา การเมืองไม่ลึก พอรู้แค่นี้แหละ แต่ผมว่าคนในบ้านเมืองเรานี้ที่พอปนปน ได้ได้ กับผมเยอะนา  เยอะกว่าคุณ 2 คนเยอะเลย 9ใน 1 เชียวแหละ  ขอพูดคุยด้วยคนนะครับ

Comment #16
Posted @14 ต.ค.51 17.30 ip : 118...14

เอ  ผมตอบไปแล้วทำไมไม่ขึ้นหว่า?


เอาเป็นว่าสรุปละกันนะครับ

เรื่องละครแขวนคอปี 19 นั้น เป็นอ.วิโรจน์ครับ ตามที่ได้รู้มานะครับ ด้วยเหตุผลว่าตัวเล็กนี่แหละ ง่ายต่อการแขวนแบบหลอกๆ

ยินดีครับคุณนอนท้าวคางฟัง ยินดีพูดคุยแลกเปลี่ยน และยินดีต้อนรับเสมอครับ

Comment #17
รุ้งกินน้ำ (Not Member)
Posted @15 ต.ค.51 23.41 ip : 118...166

ขอบคุณค่ะแวะเข้ามาอ่าน สับสนสิ้นดีน๊ะการเมือง
สักวันหนึ่งคงเกิดสิ่งดี ๆในบ้านเมืองเราน๊ะ

Comment #18
รชา (Not Member)
Posted @6 พ.ย.51 10.19 ip : 124...69

พี่หมี่ครับ

ข้อเท็จจริงเรื่องใครเป็นผู้ใช้ความรุนแรงระหว่างตำรวจกับพันธมิตร

ผมขอมองข้ามไปก่อน หรือถ้าให้พูดอีกอย่าง เอาเป็นว่าผมรับข้อเท็จจริงที่ว่า

ตำรวจทำร้ายประชาชนก่อนก็ได้ แต่ผมว่าเรามองข้ามสิ่งที่สำคัญกว่านั้นไปคือ

แกนนำพันธมิตร มีเจตนาที่จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง

เพื่อความชอบธรรมของตัวเองในการขับไล่รัฐบาล

ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่แค่ตำรวจและการ์ดพันธมิตรเท่านั้น

ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ต้องรวมถึงแกนนำพันธมิตรที่ชั่วช้าสามานย์ด้วย
พี่หมี่ครับ ในบรรยากาศเลือกข้างของเหล่าศิลปิน กวี นักดนตรีเพื่อชีวิต

เยี่ยงทุกวันนี้ การตายของน้องโบว์ควรหรือที่จะถูกมองในแง่โศกนาฏกรรมโรแมนติก

เพียงเท่านั้น โดยไม่ได้ตั้งคำถามเชิงการเมืองอย่างจริงจังถึงปัจจัยรอบด้านทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

มันง่ายครับที่ศิลปินจะระเบิดความแค้นออกมาประนามคนที่กระทำ

และสรรเสริญผู้ถูกกระทำ แต่ถ้าเงื่อนงำที่ซับซ้อน รวมทั้งผู้อยู่เบื้องหลังที่

ชั่วช้าไม่ถูกชำแหละหน้ากากออกมา กวีและนักเขียนก็คงเป็นชนชั้นที่

หลอกตัวเองไปกับอารมณ์สะเทือนใจเฉพาะหน้าไปวันๆ โดยดูดายกับ

บริบทที่ประกอบขึ้นเป็นความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เช่นนั้นแล้ว

เท่ากับว่าศิลปินเพื่อชีวิตทั้งหมดก็กำลังตกเป็นเหยื่อของยุคสมัยที่รอวันถูกจารึก

ว่าเป็นหนึ่งในขบวนการขวาจัดที่ร่วมก่อความรุนแรงจนนำไปสู่การตายของน้องโบว์

ผมว่าคนที่ต้องรับผิดชอบต่อความตายของน้องโบว์ หรือ ณรงค์ศักดิ์ กอบไธสงค์

ไม่ใช่แค่ตำรวจ รัฐบาล หรือแกนนำพันธมิตรเท่านั้น

แต่เป็นบรรดาศิลปินที่มัวแต่เลือกข้าง จนมองข้ามความรุนแรง

ที่กำลังทำลายศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนจำนวนมากในสังคม

ใช่ไหมครับ

ชัยชนะที่แลกมาด้วยการตายของคนธรรมดา

ที่เราเอามากล่าวอ้างทุกครั้งที่มีการต่อสู้ทางการเมืองนั้น

ผมว่ามันน่าคับแค้นครับพี่หมี่ ที่ชัยชนะแต่ละครั้งล้วนไม่ใช่

ชัยชนะครั้งสุดท้าย ของประชาชนทั้งหมด แต่เป็นชัยชนะที่อยู่ในเงื่อนไข

ของช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ถึงเวลา เงื่อนไขก็เปลี่ยนไปตัวละครก็กลับข้าง

คนที่ตายก็กลายเป็นเบี้ย เช่นนี้แล้ว พี่หมี่ว่าเราสมควรประนามความรุนแรง

โดยพุ่งไปที่เป้าหมายใดดีครับ ทักษิน รัฐบาลสมชาย ตำรวจ นักวิชาการ สื่อ

พันธมิตร แกนนำพันธมิตร นปช นปก จตุพร วีระ ปชป. xxx

หรือเราควรประนามตัวเองก่อนดีครับ พี่หมี่ช่วยตอบผมที

Comment #19
Posted @6 พ.ย.51 21.29 ip : 118...173

ขออนุญาตอธิบายคำว่า"โรแมนติก"ให้หลายๆคนที่อาจจะยังไม่ทราบสักนิดนะครับ

โดยสังเขปคร่าวๆก็คือ เป็นงานที่สะท้อนความรู้สึกออกมาจากการโดนกระทบ เน้นความรู้สึกเป็นพิเศษเพื่อให้คนอ่าน"โดน" และมักจะมีเนื้อเรื่องไปในทางความรักเพียงอย่างเดียว  ใช้คำว่า"มักจะ"นะครับ  และบางครั้งความโรแมนติกก็อาจปนอยู่กับงานสกุลอื่นได้ อย่างนิยายเรื่องข้างหลังภาพนี่ ก็จัดว่าใช้ความโรแมนติกเข้ามาช่วยเสริมอยู่  นี่คร่าวๆพอสังเขปกับคำว่าโรแมนติกที่เราๆเข้าใจกันทั่วไปนะครับ


แต่ที่มาและความหมายที่แท้ของมันนั้น ผมได้อธิบายไปในแล้วในกระทู้ "การสร้างสรรค์วรรณกรรมในภาวะวิกฤติสังคม:บทวิเคราะห์กรณีศึกษาการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ,บ้านทรายทองและปีศาจ" ซึ่งก็อยู่ในกระทู้ใกล้ๆกับอันนี้แหละครับ


ที่คุณรชาตอบมาในทู้ข้างบน  ผมค่อนข้างคุ้นๆกับกระทู้หนึ่งในไทยไรเตอร์ หัวข้อประมาณว่าหรือนักเขียนไทย..สายลมแสงแดด  อะไรประมาณนี้  ขออภัยที่จำหัวข้อไม่ได้ชัด  และในการโพสต์ของที่นั่น  มียกประโยคหนึ่งที่ว่า "นักเขียนบ้านเราตายไปอย่างเงียบๆ"  ประโยคนั้นจะมีใครพูดมาก่อนบ้างไหม ผมขออภัยที่ไม่ทราบจริงๆ  แต่จำได้แม่นว่านั่นเป็นประโยคหนึ่ง ที่ผมได้ให้สัมภาษณ์หลังรับรางวัลซีไรต์  แต่ลงฉบับไหนอย่างไรนั้น ขออภัยอีกครั้งทีีจำไม่ได้อีก

ไม่ได้ว่าคุณรชาคือบุคคลผู้โพสต์ในไทยไรเตอร์หรอกครับ  เพียงแต่แปลกใจที่ผมเองสนใจกระทู้นั้นในไทยไรเตอร์  แล้วมาเห็นคุณรชาตอบกระทู้นี้อย่างสอดคล้องกัน  จึงขอโอกาสชี้แจงและอธิบายรวบไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ  เผื่อคุณคนที่ไทยไรเตอร์อาจจะเข้ามาที่นี่บ้าง  ไม่เข้ามาก็ไม่เป็นไรครับ 


คุณรชาทั้งถามและทั้งอภิปรายต่อการตัดสินใจของศิลปิน,กวี,นักเขียนส่วนหนึ่งในปัจจุบัน เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่มีคนเจ็บคนตาย  ผมขอตอบเฉพาะในส่วนของผมนะครับ

ผมเองก็ไม่อยากเลือกข้างหรอก และถ้าจะถามถึงส่วนลึกที่สุดของความคิด  ผมยอมรับว่าหลายๆอย่างผมเห็นด้วยกับบางส่วนของรัฐบาล  โฟกัสเข้ามาอีกให้ชัดก็คือบางส่วนของพรรคพปช.  แต่ก็เป็นบางส่วนเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ผมเห็นด้วย

แต่เมื่อสถานการณ์มันแหลมคมมาถึงจุดที่ต้องเลือกข้าง เพราะถ้าไม่เลือกเราก็ต้องถูกถีบไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่งอยู่ดีนั้น(ผมเลือกข้างตั้งแต่ก่อนกลุ่มริบบิ้นสีขาวออกมา น่าเสียดายที่กลุ่มนั้นออกมาผิดที่ผิดเวลามาสายไปหน่อย  และก่อนการออกมาของดร.สุเมธ,ดิศธร  กลุ่มสานเสวนา) ผมจึงเลือกข้างก่ิอนที่จะถูกถีบ อย่างน้อยผมก็ได้ตรวจสอบภาวะจิตตน และชั่งตวงเหตุผลเท่าที่ตนจะมีอยู่  กระนั้นก็ตาม  การเลือกข้างของผมก็ไม่ได้หมายความว่าเห็๋นดีเห็นงามไปกับ พธม. ทุกเรื่อง  หลายเรื่องหลายครั้งที่ผมเองก็อึดอัดกระวนกระวาย และมึนตึ้บไปกับวิธีการดำเนินการของพธม. การเลือกข้างของผมจึงเป็นลักษณะกันตัวออกมาอยู่วงนอก  สิ่งไหนที่รัฐบาลทำแล้วผมเห็นว่าสมควร ผมก็ชื่นชม สิ่งไหนพธม.ทำแล้วไม่สมควร ผมก็มีวิวาทะ  เพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ผมเลือกข้างพธม.  นั่นคือบางส่วนของพปช. จะรีบโค่นต้นไม้ต้นนั้นทำไม? 


ผมเข้าใจดีที่คุณรชาพูดถึงความคับแค้นใจของเรา ประวัติศาสตร์การเมืองของเรานั้น ประชาชนเป็นเพียงเบี้ยมาทุกสมัย  เป็นเพียงทหารเลวนักรบไพร่ที่ตายเป็นบันไดให้ใครต่อใครอื่นเข้ามาเปิบกิน ตรงนี้ผมคิดว่ามันเกิดมาจากความเชื่ออันหนักแน่น จนกลายเป็นศรัทธาของประชาชน  ผมไม่พูดนะครับว่าความเชื่ออันหนักแน่นนั้นหมายถึงอะไร คิดว่าคุณรชาก็คงรู้อยู่

เรื่องงานเขียนที่คุณรชาอภิปรายมานั้น ในส่วนของคนอื่นผมไม่ทราบเหตุผลแน่ชัด  ว่าเขาเขียนเขาทำงานเพลงกันมาเพื่อและเพราะอะไรกับกรณีการตายของน้องโบว์  แต่ในส่วนของผม เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลา 51 ผมสะเทือนสะท้อนสะทกใจ  มันไม่ควรเกิดขึ้น ต่อให้แกนนำพธม.มีเจตนาจะให้เิกิดความรุนแรงเพียงใดก็ตาม  แต่รัฐบาลและตำรวจจะต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ให้ได้  เพราะมันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลให้นโยบายต่อการชุมนุม  เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องให้เรื่องจบลงด้วยดี คำว่าม็อบ(mob)หมายถึงฝูงชนบ้าคลั่งที่ควบคุมไม่ได้ การชุมนุมของพธม.ยังไม่ถึงจุดนั้น ยังไม่เกิดจลาจล เป็นเพียงการปิดทางเข้าออกรัฐสภา ไม่มีการทุบรถไม่มีการเผาอาคาร ไม่มีการวิ่งไล่ตีคนเดินถนน ปิดทางเข้าออกรัฐสภา พธม.เองก็มีจุดประสงค์ที่ประกาศเอาไว้แต่ต้น ว่าไม่ต้องการให้รัฐบาลแถลงนโยบาย ในสำนึกความเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน รัฐบาลควรที่จะสั่งให้ตำรวจเปิดทางให้ได้ไหม? และตำรวจควรที่จะต้องรุุนแรงจนมีคนเจ็บคนตายไหม? ถ้าจะต้องมีการประณาม  ผมก็ยังเชื่อว่าผู้ที่ควรโดนประณามที่สุดคือรัฐบาลและตำรวจอยู่ดี อยู่ดีแม้ว่าแกนนำพธม.จะมีเจตนาหรือไม่ก็ตามในการพยายามสร้างความรุนแรง เพราะถ้าเราเชื่อว่าแกนนำมีเจตนาเช่นนั้นจริง เราก็ต้องแยกกรณีประณามแกนนำพธม.ออกไปต่างหากจากการสลายการชุมนุมในวันที่ 7 ตุลา 51  เพราะรัฐาลมีหน้าที่ดูแลมอบหมายนโยบายในการสลาย เพราะตำรวจมีหน้าที่สลายการชุมนุมอย่างละม่อม เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ห่วงใยทุกชีวิตของประชาชนในปกครอง เพราะตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบและกฏหมาย โดยเฉพาะตำรวจควบคุมฝูงชนนั้น ผ่านการเรียนรู้จิตวิทยาการชุมนุมมาแล้วทั้งสิ้น เหตุผลใดจึงมีคำสั่งให้ ตชด. ซึ่งเป็นตำรวจที่ฝึกมาแบบทหาร และเรียนรู้การใช้อาวุธเข้ามาสลายการนชุมนุม? ตชด.จะเข้ามาเองไม่ได้แน่  ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากรัฐบาล คำถามคือเจตนาอะไรจึงใช้หน่วยงานนี้?

เอาละ-ในสมมติฐานว่าการสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลา 51 ไม่ใช่ตชด. คำถามก็คือทำไมตำรวจที่สลายจึงไม่ใช้การเรียนรู้จิตวิทยาการชุมนุมมาจัดการ? และมีใครบ้างหรือที่จะกอดระเบิดเอาไว้กับอก แล้ววิ่งเข้าหาแก๊สน้ำตา?

ถ้าจะต้องประณามก่นด่า  รัฐบาลและตำรวจในวันนั้นแหละที่ควรได้รับ

ศิลปินอื่นๆจะมองข้ามเหตุแห่งความรุนแรงครั้งนี้หรือไม่ และสร้างงานมาเพื่อโรแมนติกในความหมายที่เข้าใจทั่วไปหรือไม่ ผมไม่สามารถตอบแทนได้  แต่ในส่วนของผมนั้น เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลา 51 บทกวีที่ชื่อ "ขึ้นแปดค่ำเดือนสิบเอ็ด" (อยู่ในกระทู้ใกล้ๆกันนี้) ไม่ได้ประณามผู้ใดทั้งสิ้น อ่านดูสักหน่อยแล้วคงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดมาข้างบน

เรื่องXXX ที่คุณใช้สัญลักษณ์นั้น ผมก็รู้มาบ้าง แต่ก็อย่างที่คุณก็รู้นั่นแหละ  เรายังไม่มีกฏหมายเสรีภาพในการพูดเรื่องแบบนี้

แต่ "กวีและนักเขียนก็คงเป็นชนชั้นที่หลอกตัวเองไปกับอารมณ์สะเทือนใจเฉพาะหน้าไปวันๆ โดยดูดายกับบริบทที่ประกอบขึ้นเป็นความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เช่นนั้นแล้วเท่ากับว่าศิลปินเพื่อชีวิตทั้งหมดก็กำลังตกเป็นเหยื่อของยุคสมัยที่รอวันถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในขบวนการขวาจัดที่ร่วมก่อความรุนแรงจนนำไปสู่การตายของน้องโบว์"

ปัจจุบันนี้อะไรคือขวาอะไรคือซ้ายครับ?  ในเมื่อเราเห็นซ้ายมากมายเข้าร่วมกับศักดินา เห็นซ้ายมากมายเข้าร่วมกับทุน  หรือเป็นการแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง? เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ไม่นานมันก็จะเกิดความขัดแย้งรุนแรงเช่นนี้ขึ้นอีก เพราะซ้ายนั้นโดยธรรมชาติของมันแล้ว เป็นทัศนะลักษณะทางชนชั้นที่ความประนีประนอมไม่สามารถรอมชอมกันได้ และขวาจัดนั้นจัดแค่ไหน? แตกต่างไหมกับซ้ายจัด? ถ้าพธม.คือตัวแทนของขวาจัด แล้วนปช.จะเป็นตัวแทนของซ้ายจัดได้หรือไม่? ปัญหาการเร่งสถานการณ์ให้สุกงอมหรือไม่ เป็นปัญหาใหญ่ที่ทั้งโซเวียตและจีนประสบมาจนเกิดการแตกแยกรุนแรง พคท.เองก็มีการแตกแยกในเรื่องนี้ และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีการสรุึปว่าควรเร่งสถานการณ์หรือไม่ เพราะข้อจำกัดทางประวัติศาสตร์มันแตกต่างกัน ถ้าพธม.และแนวร่วมคือตัวแทนขวาจัด  แล้วรัฐบาลในซีกของทุนนั้นจะไม่ขวาหรือ? ประวัติศาสตร์ของพรรคร่วม และบางส่วนของพปช.เองก็ยืนยันข้อนี้ดี สมัคร สุนทรเวชนี่ขวาจัดหรือไม่?

ประโยคที่ยกมาของคุณรชาจึงนับว่าเป็นประโยคไม่รอบด้าน และไม่เป็นเอกภาพในความตรงข้าม เป็นประโยคที่กล่าวหานักเขียน,ศิลปินฝ่ายพธม.อย่างน่าตกใจ เพราะไม่ได้พูดถึงนักเขียน,ศิลปินฝ่ายรัฐบาล,นปช.เลย  อย่าลืมว่า นปช.คือมวลชนที่มีอาวุธและพร้อมจะทำสงครามกับคนที่คิดต่างกับตน  ภาพนปช.เสืิ้้อแดงถือดาบชี้ไปที่เสื้อเหลือง โดยที่ตำรวจยืนดูตาปริบๆ ควรจะบอกอะไรบางอย่างแก่สังคมได้เป็นรูปธรรมกว่า

ผมไม่ได้ว่าคุณรชาเลือกข้างฝ่ายรัฐบาลนะครับ แค่อธิบายให้เห็นว่าทำไมนักเขียนอย่างผมจึงเลือกที่จะอยู่ข้างพธม. และย้ำอีกครั้งว่าเลือกข้างแค่บางประเด็น ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด

และที่สำคัญนั้น คือฝ่ายบางส่วนของพปช. ไม่เคยบอกกล่าวถึงโมเดลรัฐในฝันเลยสักครั้ง มีความน่าเชื่อได้ว่าสงครามครั้งนี้คือการล้มเจ้า และไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ  เหตุที่เชื่อได้ผมพูดไว้แล้วในกระทู้"การสร้างสรรค์วรรณกรรมในภาวะวิกฤติสังคมไทยฯ" โดยเฉพาะที่ไทนไรเตอร์ที่พูดไว้มากกว่าที่นี่  ถ้าบางส่วนของพปช.บอกรัฐในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรอย่างเป็นรูปธรรม  ผมว่าน่าจะชัดเจนยิ่งกว่าการอาศัยทุนมาห่อหุ้มร่างกาย เพราะที่สุดแล้วซ้ายก็จะเป็นหฟนี้บุญคุณที่ต้องตอบแทน ไม่ก็เกิดสงครามความขัดแย้งไม่มีที่สิ้นสุด  จะนำพาประเทศชาติไปอย่างไรต่อไปนั้น  ถามประชาชนก่อนดีไหม?  ประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง จะเป็นรัฐซ้ายนั้นซ้ายแค่ไหน? จะเป็นรัฐสวัสดิการนั้น สวัสดิการอย่างไรเพื่อใคร  เงินที่มีอยู่ในประเทศเพียงพอแล้วที่จะสร้างสวัสดิการหรือไม่  ถ้าไม่  จะทำยังไง จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น คนรวยจ่ายภาษีมากกว่าคนจน ที่ดินปล่อยทิ้งว่างเปล่านำมาจัดสรร  บางส่วนของ พปช. ก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ที่กล่าวหาใครบางคนว่าทำธุรกิจไม่เสียภาษี ที่ดินว่างเปล่ามากมาย ที่ให้เช่าก็เยอะนั้น  คิดอย่างไรบ้างกับกรณีที่ทักษิณทำในลักษณะเดียวกัน  และจะทำอย่างไรเมื่อการแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างนั้นดำเนินมาจนถึงที่สุด เจ้าล้ม แล้วกับทุนล่ะจะทำยังไงกับเขา?  นี่คือปัญหาเดียวแต่เป็นปัญหาสำคัญของซ้ายใน พปช. เพราะไม่มีโมเดลอะไรออกมาวางตลาดให้ประชาชนได้ตัดสินใจเองเลย  ไม่ต่างอะไรกับการมัดมือชก เพราะไม่เคยถามประชาชนเลยว่าจะเอายังไงกับรัฐต่อไป  ฝ่ายซ้ายพปช.ควรที่จะนำเสนอในตอนนี้ เพราะสังคมกำลังสับสนวุ่นวาย ควรนำเสนอตอนนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนตัดสินใจในอนาคตของตนเองได้ เจ้าไม่ดียังไงก็บอกกล่าวกัน หนังสือไหนที่ใครเขียนไว้ก็เอามาเผยแพร่ เพราะมันไม่ต่างกันเลยกับการช่วงชิงราชบัลลังก์เพื่อปราบดาภิเษกตนเองขึ้นมาแทนที่  ด้วยประชาชนไพร่เบี้ยไม่เคยรับรู้ความในอันใดมาก่อนเลย

ถ้ากระบวนการของซ้ายในพปช. ทำเช่นนั้น  นอกจากจะแสดงความจริงใจต่อประชาชนแล้ว  ยังเป็นการเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนด้วย  ตามหลักการประชาธิปไตย  ประชาธิปไตยที่ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ล้วนแล้วแต่สรรเสริญเยินยอ  และรวบเอาเข้าตัวเองไว้ฝ่ายเดียว


ผมตอบยืดยาวเลย  รายละเอียดที่มากกว่านี้ก็ไปหาอ่านเอาจากกระทู้ที่ว่าไว้  สว่นคำถามที่ว่าเราควรประณามใครดีนั้น คำตอบของผมก็คือเราจะเลือกข้างหรือถูกถีบให้ไปอยู่ข้างไหน  เพราะผมไม่เคยเห็นทั้งสองฝ่ายยอมรับผิดเลย  ในส่วนของนักเขียนศิลปินนั้น คำตอบของเขาอยู่ที่งานของเขา  คำตอบของผมอยู่ที่งาน "ขึ้นแปดค่ำเดือนสิบเอ็ด" ในกรณี 7 ตุลา 51 


จะรีบโค่นต้นไม้ต้นนั้นทำไม?

เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่าโดยกระแสโลกาภิวัฒน์ ไม่นานต้นไม้นั้นก็จะตายไปเอง  เช่นที่กระแสอาณานิคมล่าเมืองขึ้น เคยทำให้ต้นไม้ต้นก่อนตายไป การปรับสภาพของหน่ออ่อนที่เหลือจึงเป็นไปอย่างลำบากยากเย็น  แล้วอะไรล่้ะที่ทำให้ต้นไม้นั้นเติบกล้าแข็งแกร่งขึ้นมา?  ระวังกงล้อประวตัิศาสตร์จะหมุนล้อกลับ

ทั้งที่รู้ว่าเมื่อใดก็ตามไปแตะต้องต้นไม้นั้นเข้า  ฝูงมดแดงก็จะฮือเข้ามารุมกัด สังคมจะแตกแยกรุนแรง มีการตายเกิดขึ้น เสื้อเหลืองเสื้อแดงเดินใกล้กันไม่ได้  มีประโยชน์อันใดในการไปเร่งเขย่าต้นไม้นั้นเพื่อล้ม  ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าไม่นานมันก็ล้มของมันไปเอง


หรือมีใครคิดอะไรบางอย่าง?

Comment #20
รชา (Not Member)
Posted @7 พ.ย.51 12.59 ip : 124...196

เข้ามาลงชื่อว่าอ่านแล้ว

คิดว่าเข้าใจสิ่งที่พี่หมี่เขียน แต่ยังคงไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น

ทีแรกคิดว่าจะเงียบไปเลย ไม่เขียนตอบ แต่ก็กลัวว่าจะเสียมรรยาท

จึงมาลงชื่อว่าได้รับรู้คำอธิบายของพี่หมี่แล้ว

แต่ยังไม่มีแรงเขียนแย้งกลับในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย

ขออนุญาตไปกินวิตามินบี บำรุงประสาท ให้มีเรี่ยวมีแรงมากกว่านี้จะกลับมาวิวาทะด้วย

ด้วยความเคารพ

ปล. ผมไม่ใช่คนที่โพสต์ในไทยไรเตอร์ครับ และไม่เคยอ่านกระทู้นั้นด้วย

ว่างๆจะตามไปอ่านดู ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 44 user(s)

User count is 2417027 person(s) and 10080133 hit(s) since 2 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).