เมืองผีดุ
[left]-1-
เรืองแดดทองส่องต้องกองขี้หมา
งามระยับจับตาเวลาบ่าย
ยังอุ่นอุ่นกรุ่นไอร่ำกลิ่นกำจาย
หวี่ว่อนร่อนส่าย ,กระจายแมลงวัน
.
.
เสียงร้องรำลิเกมาแต่ไกล
ปรากฏร่างเจ้าชายมไหศวรรย์
งามเหลือทรงเสื้อขาดดูอัศจรรย์
โสร่งหอมถึงสวรรค์ยามผันกาย
.
.
หวดพุ่มไม้มาเปาะแปะแล้วแคะขี้มูก
ตีนเหยียบถูกขี้หมาพลันก็ขวัญหาย
หัวใจหวิวปลิวหล่นเปื้อนปนทราย
แล้วค้อมกายไหว้ขี้หมาอยู่งันงก
.
.
ลดองค์ลงนั่งยองไหว้กองขี้หมา
ตัวสั่นรัวกลัวหนักหนา, หน้าเหงื่อตก
นี่แหละคือพระแม่เจ้าเฝ้านรก
โปรดจงยกโทษอภัยให้ข้านี้
.
.
คุณจอมหม่อมขี้หมา..เจ้าประคุณ
ได้ยินว่าท่านเลี้ยงขุนเจือจุนผี
เหล่าสมุนทั้งหลายได้กินดี
ใครบังอาจแตะขี้-อาจมีเคือง !
.
.
บ่นงำงึมพึมพำแล้วอำลา
เจ้าแม่ข้าอย่าถือสาอย่าหาเรื่อง
ไหว้พลางมองกองขี้หมานัยน์ตาเรือง
ส่ายพักตร์แล้วยักเยื้องชำเลืองไป
.
.
และแล้วเจ้าชายก็ไคลคลา
ยกพระหัตถ์กวัดลาอยู่ไหวไหว
ตะเหร่งเตร่งตุมเข้าพุ่มไม้
ปวดท้องไส้ชิบหายจะตายแล้ว
.
.
ปรูดปราดพราดพรวด-ปวดท้องอึ
แล้วหัวเราะหึหึมาแผ่วแผ่ว
พระหน่อเนื้อเชื้อสายกระจายแนว
กำลังจะชักแถวออกมาเรียง
.
.
โน่นก็ขี้, นี่ก็ขี้, ช่างดียิ่ง
เท่าเทียมกันทุกสิ่งและทุกเสียง
สัจธรรมย้ำผ่านก้นมาหล่นเคียง
ขี้ทั้งผองมองเพียงอนิจจัง
-2-
ช่างสุขก้นพ้นภัยสบายโล่ง
แล้วยักย้ายชายโสร่งลงมานั่ง
ข้าน้อยนี้หนีสู่ป่ามาจากวัง
เหตุเกิดเพราะนังบ่างมันช่างยุ
.
.
จึงพลัดพรากจากนคราแสนอาดูร
โดนชิงชังทั้งตระกูลเพราะเรื่องกุ
มันเติมสุมรุมไฟให้ประทุ
แล้วเสี้ยมสั่งคั่งคุอย่างดุดัน
.
.
ยืมมือคนหูเบาเข้าโหมเพลิง
ปั่นข่าวอย่างบันเทิงเริงกระสัน
ใส่ไฟให้แตกยับในฉับพลัน
ด้วยจิตอันริษยา-อาฆาตนัก
.
.
นคราของข้านี้-เมืองผีดุ
คลั่งระอุด้วยความชังยังตระหนัก
ไม่มีใครฟังใคร, สิ้นไร้รัก
กล่นเกลื่อนล้วนซากปรักที่หักพัง
.
.
ซากเหม็นเน่าแห่งความไม่เข้าใจ
ครอบงำเมืองเอาไว้ทั้งหน้าหลัง
ทั้งพาราต่างส่อเสียดด้วยเกลียดชัง
ข้าน้อยจึงเซซังมาดั่งนี้
-3-
ตะลุ่มตุ่มเตร๊ง
ยินเสียงปี่บรรเลงร่ายจากไหนนี่
ขลุกขลักกักกุกลุกทันที
นิ้วกระดิกระริกรี่แล้วยาตรา
.
.
ข้าคือองค์ชายสายสะดือ
อย่าบังอาจมาประมือหรือถือด่า
ดูความบ้าหลบใน,ดูนัยน์ตา-
อันกรากเชี่ยวของเอ็งข้า, บ้าพอกัน !
.
.
(ดูความบ้าหลบใน,ดูนัยน์ตา
โลกเส็งเคร็งทั้งเอ็งข้า, บ้าพอกัน !)
ขอแรงพี่หมี่เห็ด ช่วยตรวจการบ้านนุ้งสมทรงด้วยนะเคอะ 555[/left]