คำประกาศเนรคุณ...เนื่องในวันครูแห่งชาติ

by ป่าเมืองลุง @16 ม.ค.53 6.47 ( IP : 222...145 ) | Tags : กระดานข่าว

เธเธณเธญเธเธดเธเธฒเธขเธ�เธฒเธ

คว่ำพานไปเลย

จะไหว้มันทำไมกันหนักหนา

มันน่ายกพานบูชาน่านับถือ

จิตวิญญานมีอยู่จริงตามคำลือ

หรือเพียงคือสิ่งลวงหลอกบอกสังคม


ทุกสิบหกมกราต้องมาไหว้

มีดอกไม้ธูปเทียนวางเหมาะสม

มีถ้อยคำบทกลอนกล่าวชื่นชม

เหมือนปกปิดความโสมมและสามานย์


สอนหน้าที่สอนพิเศษสอนแตกต่าง

รูปแบบวางไว้สองมาตรฐาน

อย่ามาอ้างคำว่าอุดมการณ์

ในสันดานคือคุรุพาณิชย์


ไม่ได้หมายจะมาด่าใส่ร้าย

ไม่ได้คิดทำลายจ้องจับผิด

เพียงอยากให้คุณถามตัวสักนิด

คุณเป็นครูด้วยชีวิตหรือเป็นคู


คูที่ขวางชาติไทยพัฒนา

แต่ยกตนสูงค่าเสียเลิศหรู

คูที่เมื่อก้มลงไปมองดู

ก็รู้อยู่ว่าเน่าเหม็นน่าละอาย


ทุกสิบหกมกราต้องมาไหว้

ถ้าไม่ใช่จะมีหรือความหมาย

ไม่ใช่ครูแต่คือคูอันตราย

เหมือนคว่ำพานหล่นหายลงในคู

                            Oป่าเมืองลุงO


"ด้วยความศรัทธาจิตวิญญานครู"

Comment #1
Posted @16 ม.ค.53 6.52 ip : 222...145

รบกวนคุณมนตรี และทุกๆท่านช่วยวิจารณ์การเขียนกลอนของผมให้ทีนะครับ เรื่องเนื้อหาของกลอน เห็นด้วยหรือเห็นต่างอย่างไร แสดงความเห็นได้เต็มที่เลยครับ :):)

Comment #2
ผึ้งเปลี่ยนสี (Not Member)
Posted @16 ม.ค.53 13.38 ip : 112...40

ผมเห็นด้วนในมุมมองที่นำเสนอครับ

Comment #3
Posted @16 ม.ค.53 20.38 ip : 113...176

สวัสดีครับคุณป่าเมืองลุง (ถ้าบ้านเราก็ต้องพูดว่า ค่าเหอครับ)

เป็นกลอนร้อนแรง เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ แต่อ่านแล้วรู้ได้ว่าไม่ใช่ด่าคนเป็นครูอย่างไม่มีเหตุผล หรือด่าด้วยความเกลียดชัง  ถ้อยคำร้อนแรงที่สำแดงออกมา มีนัยถึงความรักและเป็นห่วงต่อคนเป็นครู

เรื่องครูหรือกระทั่งเรื่องระบบการศึกษาบ้านเรา มีคนด่ามาเยอะ และดูท่าแล้วจะยังมีให้ด่ากันต่อไปและอีกนาน (ฮา)

ผมไม่ทราบว่าในกระบวนการผลิตวิชาชีพครู  มีการถ่ายทอดและดึงเอาจิตวิญญาณครูที่มีอยู่ในตัวนักศึกษาออกมาบ้างไหม  แต่ยุคหนึ่งเมื่อ 20 ปีก่อนโดยประมาณ เด็กที่เอนท์เข้ามหาวิทยาลัยไหนไม่ได้ ก็จะแห่กันไป ว.ค.  เพราะ ว.ค.(วิทยาลัยครู) รับหมดไม่ว่าจะสมัครกันกี่คน  จึงมีคนที่จบ ว.ค. โดยไม่มีจิตวิญญาณครูเยอะแยะไปหมด  และเมื่อผ่านมา 20 ปี  นักศึกษา ว.ค. รุ่นนั้นก็เป็นคีย์แมนสำคัญในระบบการเรียนการสอนของปัจจุบัน 


นี่พูดกว้างๆ  เพื่อชี้ให้เห็นความพิการของระบบการศึกษาหน่วยหนึ่ง  ผมจึงไม่แปลกใจที่เห็นข่าวเลวร้ายที่ครูกระทำต่อเด็ก  ลงว่าคนเป็นครูไม่รู้ว่าจิตวาญญาณครูเป็นอย่างไร  ก็ยากนักที่จะให้เป็นแม่พิมพ์ที่ดีได้ 


ส่วนเรื่องของบทกวีนั้น ต้องขอเรียนตรงๆว่ายังเป็นสำนวนที่ดาษดื่นอยู่ อีกทั้งประเด็นยังไม่แหลมคมกว่าที่เคยมีคนเขียนมาเยอะแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทที่ว่า- "ไม่ได้หมายจะมาด่าใส่ร้าย

ไม่ได้คิดทำลายจ้องจับผิด

เพียงอยากให้คุณถามตัวสักนิด

คุณเป็นครูด้วยชีวิตหรือเป็นคู"

การออกตัวว่าไม่ได้มาด่า ทำให้งานสูญเสียอรรถรสลงไป แต่ตรวนี้เป็นเพียงรสนิยมส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ  ผมรู้สึกว่าไม่ต้องออกตัวเลย  เพราะทำให้ความแรงของงานดูอ่อนยวบอย่างไม่จำเป็น

แต่ก็เห็นร่องรอยว่าคุณเขียนกลอน"เป็น"  เป็นโดยไม่ต้องฝืนจริต หรือนั่งหลับตาลอยตัวสู่อวกาศ แล้วอวตารลงมาเป็นกวี  ข้อแนะนำก็คือขยันเขียนให้มากๆเข้าครับ  ดึง "คำ" และ "สำนวน" ที่คุณมีอยู่ในตัวออกมาให้ได้ ให้เหมือนกับเวลาที่เราพูดคุยด้วยวาจา เพียงแต่เราพูดด้วยการพิมพ์แทนซะ


ยินดีต้อนรับเสมอครับ

Comment #4
Posted @16 ม.ค.53 23.46 ip : 222...162

ขอบคุณ คุณมนตรีมากนะครับ ที่กรุณาวิจารณ์ให้:):):) ความรู้ความสามารถของครูในการสอนให้เด็กเข้าใจการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าและสำคัญที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของจิตวิญญาน ความเสียสละให้สมกับ ความเป็นครูนะครับ ปมปัญหาปัจจุบันน่าจะอยู่ตรงที่จิตสำนึกของคนที่ทำหน้าที่ครู มากกว่าอย่างอื่น เพราะอะไรที่เราต้องยกพานไหว้ครู ทำไมเราไม่ยกพานไหว้ตำรวจ ยกพานไหว้หมอบ้าง ทั้งที่อาชีพเหล่านี้โดยหน้าที่ก็ล้วนทำประโยชน์ให้สังคม ทำสิ่งดีให้กับหลายๆ คนเหมือนกัน ก็เพราะครูไม่ใช่แค่คนสอนหนังสือไงครับ แต่เป็นอะไรตั้งมากมาย
เป็นแม่พิมพ์สำคัญที่จะหลอมให้คนทุกๆคนเติบโต ไปทำหน้าที่อีกหลายอาชีพ ในอนาคต นอกจากหน้าที่สอนหนังสือ มันต้องมีจิตวิญญาณด้วยครับ ถึงจะเรียกว่าเป็นครูได้ ไม่ว่าเราจะสร้างครูพันธุ์ใหม่ เอาคนเก่งแค่ไหนมาเป็นครูก็แล้วแต่ หากเราไม่สามารถทำให้ คนเป็นครูสำนึกถึงคุณค่าของคำว่าครู ที่คนมากมายยกพานไหว้บูชาได้
ก็คงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ครูไม่ใช่อาชีพเพื่อหารายได้ แต่คือจิตวิญญานครับ ผมเข้าใจนะครับว่าทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ในยุคสมัยปัจจุัับันจิตวิญญานครูมันขาด หายไปมากจริงๆครับ จนผมอยากสะท้อนมันออกมา ถ้าเป็นในสมัยรุ่นแม่ของผมเป็นนักเรียน
ในช่วงที่การเรียนพิเศษคือการที่ครูพยายามจะช่วยเหลือเด็กที่ไม่เข้าใจให้ตามทันคนอื่นๆ ไม่ใช่การทำธุรกิจทางการศึกษาอย่างหนักเหมือนสมัยนี้ คงไม่มีใครคิดเขียนอะไรแบบนี้ออกมา คนบางกลุ่มใช้เกียรติืของคำว่าครู แสวงหาผลประโยชน์และปกป้องการกระทำผิดของตัวเอง ใช้คำว่า "เนรคุณ" ใส่ให้กับคนที่กล้าพูดความจริงสิ่งที่เป็นอยู่ จึงไม่ค่อยมีใครอยากจะถูกสังคม มองแบบนี้ให้ตัวเองหม่นหมองไปเปล่าๆครับ

ผมจะพยายามฝึกหัดการเขียนกลอนต่อไปนะครับ ไม่รู้ว่าจะรบกวนคุณมนตรีมากหรือเปล่า ถ้าเกิดหลังจากนี้ผมจะเอากลอนมาลง แล้วขอให้วิจารณ์ให้อีก ถ้ามีโอกาสได้เจอคุณมนตรี อยากจะขอลายเซ็นด้วยครับ ผมอ่านโลกในดวงตาข้าพเจ้าแล้ว รู้สึกชอบกลอนที่ชื่ือว่า "เรือกลางทะเล"มากเลยครับ สะท้อนความรู้สึก ความผูกพันของลูกชายที่มีต่อพ่อ ได้อย่างน่าประทับใจ ผมอยากเขียนได้แบบนั้นบ้าง ขอบคุณมากนะครับ :d  :d  :d  :d

Comment #5
Posted @17 ม.ค.53 5.21 ip : 124...197

บทต้น ถึง บทกลาง ...ตื่นเต้นดีค่ะ


สำนวน น้ำเสียง คุ้นๆ จังค่ะ

เหมือนว่า... จะเจอแบบผ่านๆ กันที่ไหนสักที่

Comment #6
Posted @17 ม.ค.53 18.49 ip : 117...56

www.oknation.net/blog/peanpean ที่นี้หรือเปล่าครับ คุณ supergirl :):):):):)

Comment #7
Posted @17 ม.ค.53 21.39 ip : 118...16

ยินดีครับหากจะนำกลอนมาลงที่นี่ ผมเปิดบอร์ดนี้ให้กว้างเพื่อสิ่งนี้เป็นหลัก นับเนื่องมาก็หลายปีแล้วเหมือนกัน  มีน้องๆผ่านมาเยี่ยมเยียนและฝากงานให้ช่วยอ่านอยู่สม่ำเสมอ ก็วิจารณ์ไปตามที่แต่ละคนต้องการ ใครที่พอจะเห็นว่าฝีมือดีหน่อย ผมก็จะอัดแรงหน่อย(ฮา)  อย่าง น้ำพี้ คนหนึ่งล่ะ  คนนี้เขียนกลอนได้น่าอ่านอยู่ หากขยันเขียนต่อไปก็คงไม่ยากที่จะจารึกชื่อลงในวงวรรณ  หรือเป็นเรื่องสั้นๆอย่างของจ่าโจ(จ.ส.อ.โจ) นี่ก็น่าอ่าน มุมมองสบายๆในลีลาเอื่อยๆ แต่ก็มักจะแฝงนัยคมๆเอาไว้

เข้าเรื่องครูกันต่อ- ยังไงๆครูก็คืออาชีพหนึ่ง  ที่เหมือนกับทุกอาฃีพนั่นคือต้องการรายได้ที่ดี เหมาะควรแก่สภาพเศรษฐกิจและการลงทุน (ในกรณีของครู การลงทุนก็คือการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ การคิดค้นขวนขวายหาเครื่องมือสื่อการสอน การทำการบ้านในวิชาที่ต้องสอน)  ครูเป็นคำที่มาจากคำว่าคุรุ ที่แปลว่าหนัก ครุของชาวอีสานที่ใช้ใส่น้ำจึงสื่อความหมายของคำว่าหนัก  งานครูเป็นงานที่หนัก เพราะความแตกต่างจากอาชีพอื่นก็คือ ไม่ได้สอนเพียงแค่เงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสอนทั้งวิชาความรู้ และการสร้างกระบวนทัศน์ต่างๆในเชิงก้าวหน้าแก่ศิษย์ และที่สำคัญคือต้องสอนให้ศิษย์รู้อะไรดีอะไรเลว เพื่อการเติบโตเป็นคนดี อยู่ร่วมในสังคมได้อย่างปกติ

รายได้ที่น้อยไม่สมกับงานของครู ก็คือเงื่อนไขหนึ่ง ที่ทำให้ครูบางคนหาเศษหาเลยเอากับเด็ก ระบบการศึกษาที่ถูกโยนมาจากกระทรวงก็ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ครูต้องเร่งรีบทำผลงานเพื่อให้ปรากฏในแผนงานและรายงานประจำปี  ดังนั้นการพัฒนาในเชิงวัตถุหรือคะแนนสอบของเด็ก จึงเป็นการนำเสนอผลงานความสำเร็จที่ง่ายและเห็นชัดที่สุด


ผมจึงพูดเสมอว่าหากต้องการให้เด็กของเราก้าวหน้า มีความรู้บรรจุในสมองที่เป็นมนุษย์ละก็  จำต้องรื้อกระทรวงศึกษาธิการทิ้งไปเสียก่อน  รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ซะ

เรื่องนี้ยาวครับ

Comment #8
Posted @17 ม.ค.53 22.43 ip : 117...56

ขอบคุณมากครับคุณมนตรี สำหรับมุมมองเรื่องครู อ่านแล้วผมได้มองอะไรกว้างมากขึ้นครับ :):):) :d  :d  :d

Comment #9
นายทิวา (Not Member)
Posted @18 ม.ค.53 14.29 ip : 58...121

สวัสดีครับ แหะ แหะ

มาอ่านครับ

ชื่อเรื่องได้ใจจริง ๆ ครับ

แหะ แหะ สวัสดีครับ

Comment #10
Posted @18 ม.ค.53 22.43 ip : 202...155

ประเทศฟินแลนด์ ได้ชื่อว่าจัดระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก
เขามีการคัดเลือกครูจากคนระดับหัวกะทิ ที่เพียบพร้อมทั้งทางด้านวิชาการและจริยธรรม
นักเรียนของเขาใช้เวลาเรียนน้อยกว่าเรา แต่ได้คุณภาพมากกว่า
เพราะหัวใจของการพัฒนาการศึกษาคือคุณภาพของผู้ที่จะมาเป็น "ครู"

ประกาศความไม่ดีของ"คู"  แล้ว อยากให้ช่วยประกาศความดี ของ"ครู"บ้างครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับท่านที่ยังคงมีจิตวิญญาณแห่งความเป็น "ครู"  :d

Comment #11
ผ่านมาพบ (Not Member)
Posted @19 ม.ค.53 0.16 ip : 202...23

บริบททางสังคมของแต่ละประเทศมันต่างกันนะครับคุณ ปภพ ฉนั้นคุณสามารถชี้ให้เห็นความแตกต่างของวัฒนธรรมได้  แต่คุณจะไปตัดสินว่าของใครดีกว่า ของใครไม่ดีกว่านั้น มันไม่ได้ โปรดใช้ความคิดบ้าง  ไม่ใช่ดูหมิ่นแต่แผ่นดินตนตามขนบ

Comment #12
Posted @19 ม.ค.53 9.09 ip : 125...214

กำลังเขียนชิ้นใหม่มาให้ "อัด" ค่ะ คุณหมี่

Comment #13
Posted @20 ม.ค.53 21.37 ip : 202...155

ขอแก้ไขข้อความข้างบนเป็นดังนี้ครับ
--------------------------------------------

ประเทศฟินแลนด์ ได้ชื่อว่าจัดระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
เขามีการคัดเลือกครูจากคนระดับหัวกะทิ ที่เพียบพร้อมทั้งทางด้านวิชาการและจริยธรรม
นักเรียนของเขาใช้เวลาเรียนน้อย แต่ได้คุณภาพมาก
เพราะเขารู้ว่าหัวใจของการพัฒนาการศึกษาคือคุณภาพของผู้ที่จะมาเป็น "ครู"

ประกาศความไม่ดีของ"คู"  แล้ว อยากให้ช่วยประกาศความดี ของ"ครู"บ้างครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับท่านที่ยังคงมีจิตวิญญาณแห่งความเป็น "ครู"
-----------------------------------------------------

เรียน คุณ"ผ่านมาพบ"

ขอขอบคุณสำหรับความสนใจที่ให้กับสิ่งที่ผมเขียนไปไม่ว่าท่านจะด่าหรือชม ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับผมที่จะได้มีกระจกสำหรับสะท้อนภาพของตัวเอง ถึงแม้ภาพจะบิดเบี้ยวไปบ้างก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ผมนำเสนอนั้น เป็นการนำเสนอข้อมูลซึ่งมีที่มาที่ไป  มิได้นึกคิดขึ้นมาเอง (ก็อย่างที่รู้สมัยนี้ข้อมูลสามารถหาได้ง่ายทั้งจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต ผ่านการคัดกรอง สอบเทียบอีกเล็กน้อย ก็สามารถนำมาใช้งานได้) ถ้าท่านตั้งใจอ่านแล้วจับประเด็นให้ได้ ท่านจะทราบว่าผมนำเสนอสามบันทัดแรกเพื่อจะเป็นที่มาของบันทัดที่สี่ซึ่งเป็นหัวใจของเรื่องและสอดคล้องกับเนื้อหาของกระทู้ ส่วนเรื่องที่ว่าใครจะเป็นที่สุดในโลกอย่างไรนั้นเป็นประเด็นรองซึ่งผมไม่ให้ความสำคัญมากนัก หากท่านข้องใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเอาเอง  และผมก็มิได้มีเจตนาจะตัดสินว่าใครเก่งกว่าใคร เหมือนที่ท่านได้พิพากษาผมไปแล้ว และเพื่อความสบายใจ ผมก็ได้แก้ไขข้อผิดพลาดตามที่ท่านได้ท้วงติงแล้ว

ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ ถ้าท่านมีลูก และลูกของท่านกำลังเรียนหนังสือในระดับประถมหรือมัธยมอยู่ ท่านจะพบว่าข้อความเหล่านี้มีมูล ควรค่าแก่การวิเคราะห์เป็นอย่างยิ่ง และผมก็มิได้มีเจตนา "ดูหมิ่นแต่แผ่นดินตนตามขนบ" ตามที่ท่านกล่าวหาแต่อย่างใด          หากเราจะพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันโลก สิ่งแรกที่ต้องทำคือเรียนรู้และยอมรับความจริง เพื่อที่จะหาหนทางแก้ไขข้อผิดพลาด ซึ่งน่าจะดีกว่าการปิดหูปิดตาตัวเอง และกล่าวโทษโจษความไม่ดีของบุคคลอื่นเพียงอย่างเดียว มิใช่หรือ

อย่างไรก็ดี ผมจะยินดียิ่งหากท่านจะได้แวะมาเยี่ยมเวบบอร์ดนี้อีกในคราวต่อไป และรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกทั้งหลาย ซึ่งในความเห็นส่วนตัวของผม บอร์ดนี้ประกอบไปด้วยเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ และมวลสมาชิกก็สื่อสารกันด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี ถูกก็ชม ผิดก็ชี้แจงและให้อภัยกัน ไม่ก้าวร้าว หยาบคาย  อีกทั้งสมาชิกของบอร์ดนี้ก็ล้วนแต่เป็นปัญญาชนซึ่งมีความคิด และอุดมการณ์ของตัวเอง และเคารพในความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบกับท่านอีกครั้งพร้อมด้วยนามอันสูงส่ง

********** เก็บตก *************

บริบททางสังคม - คำที่ฟังหรู ดูดีมีชาติตระกูล แต่เป็นที่เข้าใจได้ยากสำหรับคนปัญญาน้อยอย่างผม ขอแนะนำให้อ่าน รวมบทกวีซีไรท์ "โลกในดวงตาข้าพเจ้า" ของคุณมนตรี ศรียงค์ เรื่อง มนต์รัก เอ็ม เอส เอ็น ในเรื่องนั้นมีคำศัพท์ใหม่ๆที่เข้าใจง่ายกว่า

Comment #14
Posted @20 ม.ค.53 22.16 ip : 117...189

http://www.oknation.net/blog/peanpean/2010/01/20/entry-1 ขอฝากลิงค์บทความเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณครู ของผมหน่อยนะครับ :):):) :d  :d  :d

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 27 user(s)

User count is 2416556 person(s) and 10077552 hit(s) since 2 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).