Last Man Standing .. [เรื่องสั้นบนเบาะจักรยาน]

by จสอ.โจ @10 ส.ค.53 11.23 ( IP : 124...174 ) | Tags : กระดานข่าว




...

เสียงข้อต่อโซ่วิ่งผ่านลูกรอกตีนผี Shimano Tourney ยังคงดังแผ่ว ๆ อย่างต่อเนื่อง แทบจะเป็นจังหวะเดียว กับอัตรการเต้นของหัวใจ สายลมที่อ่อนโยนพัดผ่านตัวผมไปอย่างแผ่วเบา แต่ผมกลับสัมผัสถึงความผิดปกติ บางอย่างที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ลางสังหรณ์ถึงแม้ว่าคนเกิดวันพุธกลางคืนดวงราหูอย่างผม ตามตำราจะกล่าวไว้ว่า มักจะเป็นบุคคลจำพวกที่มีสัมผัสพิเศษ สามารถรับรู้ถึงปรากฎการณ์บางอย่างที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาคำ อธิบายที่สมเหตุสมผลได้ แต่นั่นก็หาใช่ความรู้สึกบางอย่างที่ผมกำลังสัมผัสได้อยู่ตอนนี้ เพราะความรู้สึกนั้นมัน กำลังบอกกับผมว่า ...

เกิดความผิดปกติกับรถจักรยานของผม !

ผมค่อย ๆ ชลอความเร็วลง และชิดซ้ายเข้าหาไหล่ทาง เบื้องหน้าของผมคือกลุ่มจักรยาน 4 - 5 คันที่เป็นกลุ่ม สุดท้ายของขบวนจักรยานที่ออกเดินทางในวันนี้ ดังนั้นเบื้องหลังของผมจึงมีแต่ความว่างเปล่า ความหมายที่ แท้จริงกำลังกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของผมว่า ตอนนี้ผมได้หลุดออกจากขบวนจักรยานเดินทางไกลท่องเที่ยวของ สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย (TCHA) ที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทคโนธานี ถ.รังสิต-นครนายก ... !!!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมต้องหลุดออกจากขบวนจักรยานที่กำลังเดินทาง แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับตัวผมแต่ อย่างใดทั้งสิ้น เพราะบ่อยครั้งที่ผมปั่นจักรยานแบบบินเดี่ยวไปที่ต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ผมยังรู้ว่าที่หมาย ของผมอยู่ที่ไหน และยังอยู่ในสภาพที่สามารถดำรงความมุ่งมั่นเพื่อไปให้ถึงที่หมายนั้นให้จงได้แล้ว จะไปถึงช้า กว่าคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

เรื่องที่สำคัญสำหรับผมตอนนี้ก็คือ ... เกิดอะไรขึ้นกับรถจักรยานของผม ?

...

ผมเริ่มทำการตรวจสอบรถจักรยานจากด้านหน้าสุด ยางหน้า วงล้อ ดุมล้อ ซี่ลวด ไล่ต่อมาที่ระบบขับเคลื่อน โซ่ ข้อต่อโซ่ จานหน้า ตีนผีสำหรับเปลี่ยนเกียร์ ไล่มาจนถึงล้อหลัง ผมเอามือบีบที่ยางนอก มันนิ่มยวบลงไปตามแรง กดของนิ้วแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหมดแรงดันของลมยางโดยสิ้นเชิง แน่นอนแล้วว่าขณะนี้ผมกำลังเผชิญหน้ากับสถาณการณ์ ที่เหล่านักปั่นจักรยานทุกคนภวนาขออย่าให้เกิดขึ้นกับตน ... ยางแตก !!!

การขี่จักรยานออกเดินทางไปไกล ๆ บางครั้งมันก็เหมือนการพาตัวเองเข้าไปสู่สนามรบ มันมีโอกาสที่จะเกิดเหตุ ไม่คาดหมาย และสภาวะที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุมของเราได้เสมอ ๆ ดังนั้นนอกจากอาวุธประจำกายจะต้อง อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล้ว อุปกรณ์กู้ชีพฉุกเฉินก็ควรมีติดตัวไว้เช่นกัน ในสงครามการสู้รบที่ลูกปืนปลิวว่อนราวกับ ห่าฝน เข้าทางไหนถ้าไม่ทะลุออกมาฝั่งตรงข้ามก็ฝังตัวอยู่ข้างในวัตถุที่มันวิ่งเข้าปะทะนั่นแหละ ใครจะไปรู้ว่ามันอาจจะ มีสักเม็ดนึงในจำนวนนับหมื่น นับแสนเหล่านั้น ที่บังเอิญวิ่งเข้ามาหาเรา ดังนั้นอุปกรณ์กู้ชีพฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างน้อยถ้าปิดแผลห้ามเลือดได้ทัน ยังพอจะมีโอกาสเอาชีวิตรอดตายกลับมาหาลูกเมีย

ในสนามรบ .. คนที่เก่งที่สุด คือคนที่เอาชีวิตรอดกลับมาได้ ...

ฝั่งตรงข้ามของถนน เป็นร้านคาร์แคร์รับล้างขัดสีรถยนต์ ผมเดินจูงจักรยานข้ามถนนเข้าไปที่หน้าร้าน และขอใช้พื้นที่ ร่มใต้เงาชายคาหน้าร้านเพื่อทำการปฐมพยาบาลรถคู่ใจ เจ้าของร้านใจดีกล่าวเชื้อเชิญอย่างมากน้ำใจ และเรียกพนักงาน ในร้านให้ออกมาช่วยดูแล ผมได้แต่ขอบคุณในความเอื้ออารีนั้น ก่อนจะปลดกระเป๋าคาดเอวออกมาและเปิดเอาอุปกรณ์ กู้ภัยฉุกเฉินที่ติดตัวตลอดการเดินทางทุกครั้ง มันประกอบไปด้วย เหล็กงัดยาง กาวยางรับเบอร์ซีเมนต์ แผ่นสติ๊กเกอร์ สำหรับยางในสำเร็จรูป ไขควงชนิดเปลี่ยนหัวได้ คีมเลื่อน คีมล๊อค ไปจนถึงยางในสำรอง

ในกระเป๋าคาดเอว ... ยังมีถุงใส่ผ้าก๊อซ สำลี แอลกอฮอลล์ล้างแผล เทนโซพลาส และสายยางห้ามเลือด !!!


อย่าคิดแต่จะปฐมพยาบาลรถจักรยาน ต้องเผื่อที่จะต้องปฐมพยาบาลคนขี่จักรยานด้วย ...


ป่านนี้หัวขบวนคงเดินทางไปถึงพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทคโนธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แวบหนึ่งที่ผมคิดถึง อาลิขิต ทริปลีดเดอร์ของสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย ที่เป็นผู้นำการเดินทางในครั้งนี้ ผมสงสัยว่าอาลิขิตจะเคย นับ ๆ ดูบ้างรึเปล่าว่า ... ตั้งแต่เริ่มขี่จักรยานเป็นต้นมา ยางแตกไปแล้วกี่ครั้ง ?


...

ในความทรงจำที่ผมมีกับจักรยานตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็ก ๆ เวลาที่ออกไปขี่รถเล่นกับเพื่อน ๆ คนที่เก่งที่สุดคือคน ที่เข้าถึงที่หมายเป็นคนแรก ไม่มีใครอยากถึงเป็นคนสุดท้ายเพราะนั่นหมายถึงการถูกล้อเลียนจากเพื่อนร่วมก๊วน ดังนั้นแม้จะเป็นเพียงการขี่จักรยานไปซื้อของที่ตลาด ถ้าเกิดไปพร้อม ๆ กันคนที่กลับมาถึงละแวกบ้านเป็นคนสุดท้าย วันนั้นกินข้าวไม่อร่อยแน่ ความรู้สึกแบบนั้นติดตัวผมมานานมากแม้ว่าผมจะห่างหายจากการได้ออกไปขี่จักรยานหลาย สิบปี จนเมื่อผมได้กลับมาขี่จักรยานออกกำลังกายใหม่อีกครั้งอายุก็ปาเข้าไปเกือบจะสี่สิบ แต่คงเป็นโชคดีในขีวิตของ ผมที่ได้นำพาผมมารู้จักกับสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย และได้มารู้จักกับอาลิขิต ผู้ที่ได้แสดงให้ผมเห็นว่า

คนที่ขี่จักรยานเก่งที่สุด อาจจะเข้าถึงที่หมายได้เป็นคนแรก แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดมักจะเข้าถึงที่หมายเป็นคนสุดท้าย !


ถ้าเปรียบการเดินทางของขบวนจักรยาน กับการจัดกำลังของหน่วยลาดตระเวน คนที่เดินอยู่หน้าสุดจะรับผิดชอบต่อ เส้นทาง การระวังอุปสรรคระหว่างทาง และการตรวจการณ์ทั้งจากฝ่ายเราและจากฝ่ายข้าศึก คนถัด ๆ มาจะเป็นส่วน ช่วยสนับสนุนหากเกิดการปะทะจากด้านหน้า หัวหน้าชุดมักจะถูกวางตัวไว้ที่ส่วนกลางค่อนมาทางท้ายขบวนเพื่อความ สะดวกในการควบคุมขบวนและการสั่งการ ส่วนคนที่เดินปิดท้ายขบวนจะต้องทำหน้าที่ระวังหลัง และจัดการกลบเกลื่อน ร่องรอยที่เกิดจากการเดินทางของขบวนที่ผ่านไป เพื่อไม่ให้มีสิ่งบ่งชี้ใด ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการสะกดรอยตลบหลัง จากทางฝ่ายข้าศึก และเพราะภารกิจดังกล่าวมักจะทำให้คนที่ทำหน้าที่ปิดท้ายขบวน มักจะต้องหลุดออกจากการเดินทาง ของขบวนอยู่เสมอ คนที่จะทำหน้าที่ปิดท้ายขบวนจึงต้องมีขีดความสามารถในการเอาตัวรอดอย่างสูง ทั้งการระวัง ป้องกัน และการติดตามคุ้มครองให้หน่วยปฏิบัติภารกิจจนประสพผลสำเร็จ

ในขบวนเดินทางของจักรยานคงไม่ต่างกันนัก ยิ่งการออกเดินทางแบบที่ไม่มีรถเซอร์วิสคอยวิ่งปิดท้ายขบวนด้วยแล้ว คนที่ทำหน้าที่ปิดท้ายขบวน ต้องรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและเพื่อนสมาชิกที่ออกร่วมทริป เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิด ระหว่างการเดินทางไม่ว่าจะเกิดกับรถจักรยาน หรือเกิดกับคนขี่จักรยาน คนที่ปิดท้ายขบวนต้องเข้าไปแก้ไขปัญหานั้น ๆ ให้ลุล่วงและผ่านพ้นไปให้ได้ คนที่ปิดท้ายขบวนยังเสียเปรียบคนอื่น ๆ ในขบวนเดินทางถ้าเป็นการหยุดพักประจำชั่วโมง เพราะเรามักจะหยุดพักกันที่ปั๊มน้ำมันเพื่อความสะดวกแก่เพื่อนสมาชิกที่จะเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาแวะพักดื่มน้ำ พอท้ายขบวนมาถึงจุดพักไม่ทันไร หัวขบวนก็ออกเดินทางต่ออีกแล้ว คนที่ทำหน้าที่เป็นชุดช่วยเหลือท้ายขบวนจึงต้อง มีความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากจะต้องต่อสู้กับความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางในระยะทางที่เท่า กับคนอื่นแต่ได้พักน้อยกว่าแล้วยังต้องเข้าช่วยเหลือเพื่อน ๆ ทุกคนให้เดินทางถึงที่หมายตามที่ตั้งใจไว้ด้วย


เรื่องเหล่านี้ ... อาลิขิต ไม่ได้สอนผม แต่อาลิขิตแสดงให้ผมดูเป็นตัวอย่าง ...

...

ยางในรถจักรยานที่ได้รับการซ่อมแซมแล้ว ถูกยัดกลับเข้าไปในวงล้อ ผมประกอบล้อหลังเข้ากับชุดขับเคลื่อน ตรวจสอบ การขันแน่นและทำการเติมลมเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะหันไปถามค่าใช้สูบลมจากเจ้าของร้านคาร์แคร์ พี่ชายใจดีฉีกยิ้มกว้าง ๆ ก่อนจะบอกผมว่า

"จะให้ผมเก็บค่าอะไรล่ะครับ คุณปะยางคุณก็ปะเอง เครื่องมือคุณก็มีมาครบ ... ลมที่อัดเข้าไปในยางคุณมันก็คืออากาศ ที่ลอยอยู่รอบตัวเรานี่แหละ ของฟรีทั้งนั้น ไปเถอะครับ .. ขอให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ป่านนี้คนอื่นเขาไปถึงกันหมด แล้วมั้ง ไม่เห็นใครตามหลังคุณมาเลยนี่ ... ว่าง ๆ ก็พากันขี่มาทางนี้อีกนะครับ เหนื่อยก็แวะเข้ามาดื่มน้ำ ล้างหน้าล้างตา ที่นี่ได้เสมอ ยินดีต้อนรับครับ"

ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ ...

...

เสียงข้อต่อโซ่วิ่งผ่านลูกรอกตีนผี Shimano Tourney ยังคงดังแผ่ว ๆ อย่างต่อเนื่อง แทบจะเป็นจังหวะเดียว กับอัตรการเต้นของหัวใจ สายลมที่อ่อนโยนพัดผ่านตัวผมไปอย่างแผ่วเบา แม้ในตอนที่ผมค่อย ๆ ชลอรถจักรยาน เข้าจอดที่หน้าอาคารรูปทรงลูกบาศก์ขนาดยักษ์ของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทคโนธานี

ก่อนเลี้ยวรถเข้ามาทางประตูหน้า ผมได้พบกับเพื่อนสมาชิก 2 ท่านที่มาร่วมทริปเป็นครั้งแรก และกำลังจะพับเก็บ จักรยานพับได้คันสวยขึ้นรถแท็คซี่เพื่อเดินทางกลับก่อน เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมในการเดินทางฝ่าเปลวแดด ระยะไกลขนาดนี้ เลยไม่ได้เตรียมเสื้อแขนยาว หรือปลอกแขนมาออกทริป แต่ทั้งสองท่านก็ยังยืนยันถึงความสนุกสนาน และความประทับใจระหว่างการเดินทาง พร้อมกับคำสัญญาเล็ก ๆ ว่า ...

เราจะได้พบกันอีกแน่นอน ...

จุดหมายของการเดินทางแต่ละท่าน ไม่เหมือนกัน เรี่ยวแรงพละกำลังของแต่ละท่าน ไม่เท่ากัน ประสพการณ์การเดินทาง ของแต่ละท่าน แตกต่างกัน แต่บนเส้นทางเดียวกันที่ทอดตัวยาวเหยียดไปเบื้องหน้า ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่นำพาให้เรามา พบกันในวันนี้ ...


ผมว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดี


...

" อ้าว .. เพิ่งมาถึงเหรอจ่า ? "

อาลิขิต ถามผมตอนที่ผมกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมได้แต่ยิ้มก่อนจะหันกลับไปตอบว่า

" ยางแตกน่ะครับ ยังดีที่ไปแตกหน้าคาร์แคร์ เลยแวะพักนานไปหน่อย "

ทั้งอาลิขิต และเพื่อน ๆ สมาชิกที่อยู่แถวนั้นต่างหัวเราะ เสียงใครก็ไม่รู้พูดพอให้ได้ยินว่า จ่าโจกลัวจะน้อยหน้าคนอื่นรึไง เห็นปะแต่ยางรถชาวบ้าน วันนี้เลยปะยางรถตัวเอง ... ผมก็หัวเราะด้วยคนแหละ

" อย่างจ่าโจยางแตก หลุดขบวนก็ไม่น่าเป็นห่วงหรอก ... จ่าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อยู่แล้ว " อาลิขิตบอกกับผมพร้อมรอยยิ้ม


...

Last Man Standing ครับอาลิขิต ... คนที่ขี่จักรยานเก่งที่สุด อาจจะเข้าถึงที่หมายได้เป็นคนแรก

แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดมักจะเข้าถึงที่หมายเป็นคนสุดท้าย !

...

Comment #1
Posted @10 ส.ค.53 22.37 ip : 113...138

จ่ามาแร้วววววววววว


แต่ยังก่อน ผมยังไม่อ่านก่อน ตอนนี้ 4 ทุ่มครึ่งกว่า เหลืออีกไม่ถึง 30 นาทีผมจะไปนอน  ค่อยมาอ่านพรุ่งนี้ละกัน (ฮา)

Comment #2
Posted @10 ส.ค.53 23.46 ip : 124...27

... ก็ผมบอกพี่หมี่ไปแล้วว่า ออกไปขี่จักรยานหาข้อมูลมาเขียนเรื่องสั้น ตอนนี้ก็ตุนปมในใจไว้หลายเรื่องแล้วครับ ว่าง ๆ จะทะยอยเขียนมาเรื่อย ๆ ครับ ...

Comment #3
Posted @12 ส.ค.53 21.16 ip : 118...98

จ่าใช้ภาพของการสงครามมาเปรียบเทียบกับการขีจักรยานได้เห็นภาพและความหมาย เดินเรื่องเอื่อยๆตามแบบฉบับของจ่า มีอารมณ์ขันแฝงอยู่ไม่มากก็น้อยในแต่ละเรื่อง จ่ายังใช้กลวิธีซ้ำรูปประโยคในตอนจบเหมือนที่ชอบใช้มา  อารมณ์เรื่องเป็นเอกภาพ สำนวนภาษาลื่นไหล งานของจ่าเป็นงานออกไปทางแนวมองโลกแง่ดีในแทบทุกเรื่อง ซึ่งเป็นลักษณะปกติของคนชั้นกลางทั้วไป



ผมเคยนึกเล่นๆเอาไว้เมื่อหลายปีแล้ว หลังจากได้อ่านงานของจ่าทั้งที่นี่และที่โน่น(ไม่บอกว่าที่ไหน ฮา) ว่างานจ่าแม้จะไม่เด่นขนาดโดดออกมาเปล่งประกายจรัส แต่หากนำเรื่องมาเรียงร้อยร่วมกันเป็นหนังสือ มันก็จะเป็นหนังสือที่น่าอ่านมากเล่มหนึ่ง และเป็นหนังสือที่น่าจะขายได้ง่ายด้วย เรื่องเบาๆเดินไปอย่างสบายๆ มีแง่คิดที่มองเห็นได้ชัดเจน เล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี น่าจะตอบสนองสังคมไทยทุกวันนี้ได้อยู่

เพียงแต่หวั่นๆอยู่ว่า การเดินเรื่องลักษณะที่ซ้ำๆกันแทบจะทุกเรื่อง เช่นการขึ้นต้นด้วยรูปประโยคหนึ่ง และใช้รูปประโยคนั้นขึ้นต้นอีกครั้งในท่อนจบ  หรือการเล่าเรื่องจริงที่ไม่ดัดแปลงมาเลย จะทำให้งานของจ่ามีท่วงทำนองเฉื่อยๆ เหมือนสายลมอ่อนโยนที่พัดผ่านแผ่วมาแล้วก็แผ่วหาย

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณค่างานของจ่าจะไม่มี

หนังสือเล่มหนึ่งก็เหมือนบทเพลงเพลงหนึ่ง ที่จำเป็นต้องมีท่อนฮุคเอาไว้ เรื่องต่อไปของจ่าคงมีท่อนฮุคชนิดที่คนอ่านล้มลงดังตึง นอนงอก่องอขิงด้วยความตะลึงงัน ลองดูนะครับจ่า

Comment #4
Posted @13 ส.ค.53 22.02 ip : 114...154

:)อ่านเพลินเจริญใจ แถมได้ความรู้อีกเยอะแยะ!!

Comment #5
Posted @17 ส.ค.53 18.45 ip : 1...218

ละแวกผู้น้อยพำนักก็มีก๊วยจักรยานขะรับพี่จ่า เกาะกลุ่มเหนียวแน่น เย็น ๆ บริหารกล้ามขา ย่ำค่ำบริหารกล้ามแขน  ผ่านมาทางติ่งสยามวันใดรบกวนพี่จ่าพกจักรยานมาด้วย  รับรองยกขบวนต้อนรับทั้งก๊วน (แต่ผู้น้อยไม่ได้ไปกะพวกเขาดอกนะขะรับ จักรยานผู้น้อยเป็นเฟสสันตะกร้าหน้า ปั่นตามพวกมันไม่ทัน)

บทเข้าพระเข้านางของน้าหมี่ชวนชมซำเหมอ แล้วจะรอท่อนฮุคเสยปลายคางหงายหลังตึงขะรับ (มุมกล้องร้ายกาจมั่ก!)

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 42 user(s)

User count is 2416176 person(s) and 10076577 hit(s) since 1 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).