มีงานให้ทำกันครับ

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน @29 ธ.ค.46 21.28 ( IP : ) | Tags : กระดานข่าว

รึจะเรียกว่าเล่นกันก็ดี  ดูเฮฮาหน่อย  ไม่ซีเรียสนัก

ผมให้รูปมารูปหนึ่ง  เป็นรูปของนักดนตรีดังคับโลก  มีอิทธิพลต่อวงการดนตรีโลกและการเมืองประเทศจาไมก้าพอสมควรล่ะ

คงไม่ต้องพูดถึงพี่บ็อบของผมให้มากนัก  เพราะพูดไปก็งูๆปบาๆอยู่ดี

เอาเป็นว่า-พวกคุณไม่รู้จักดีกว่าว่าคนคนนี้คือใคร  นะ

ดูรูป  แล้วเขียนออกมา  จะเขียนยังไง  แบบไหน  รูปแบบใด  ได้ทั้งนั้นครับ    แต่ขออย่างเดียว-ผมอยากอ่านการเขียนถึงรูปโดยที่คุณๆได้ตกผลึกทางการคิดกันมาแล้ว  จะมากน้อยเพียงใด  ไม่เป็นไร 


คำว่า "ตกผลึกทางการคิด" ผมหมายถึงกว้างๆ  อธิบายง่ายๆคือ  การดูรูปแล้วมีเรื่องเกิดขึ้นในใจ    ไม่ใช่แค่การบรรยายว่าเป็นรูปผู้ชายหน้าแก่ๆเหมือนอีริค  กำลังอัดพันรำอยู่อย่างเอาจริงเอาจัง   


นะครับ  ลองดู  เล่นกันนะครับ  จะชวนใครมาก็ได้  ไม่มีปัญหาครับ

อ้อ-ไม่มีรางวัลครับ  แหะๆ  แต่มีบางสิ่งที่ยิ่งกว่ารางวัลใด  นั่นคือ-คุณกำลังเริ่มการเป็นนักเขียนอย่างจริงจังขั้นหนึ่งครับ

ลองดูนะครับ





Let's  Go!

Comment #1
อีแมะจิ๊ (Not Member)
Posted @30 ธ.ค.46 14.51 ip :

ผมสร้างกำแพงสูงแยกตัวเองออกจากสังคม

มีคนไม่มากมายนักที่จะข้ามกำแพงเข้ามาได้

และหยิบยื่นดอกไม้ เล็ก ๆ ให้ผมเป็นกำลังใจ

เพราะเหตุนี้ ... ผมจึงต้องมีชีวิตอยู่ในกำแพง

ที่มองไม่เห็น เพื่อป้องกันความเชื่อของสังคม

ที่ปลูกฝังความให้คนตัดสินคนที่ค่าของเงิน

และรูปลักษณ์ภายนอก ...


จะมีกี่คนที่อุตริ ค้นหาสาเหตุแห่งความเป็นไป

เมื่อถูกแยกปลีกออกจากสังคม

ผู้ที่จะคบหาจึงมีเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่เข้าใจกันอย่างเหนี่ยวแน่น

อย่างไม่อยากจะคบหาใครให้ตัวระแวงอีก


ผมเป็นเพียงเสียงแผ่วเบา ที่ดังจากหลังกำแพง

ที่ผมไม่แน่ใจว่าผมเป็นคนสร้าง

หรือสังคมเพียรก่อปิดกั้นสิ่งทีพวกเขารังเกลียด

ผมนอนครุ่นคิดถึงโชคชะตาที่เล่นตลกกับผม

ทั้งที่ผมตั้งใจเป็นคนดี ด้วยรูปลักษณ์แบบผม

แต่ก็คล้ายดังมีมือที่มองไม่เห็นกักต้อนให้ผม

อยู่ในสถานะนี้ต่อไป ...


ผมสูดลมหายใจเข้า พร้อมกับควันจาง ๆ สีเทา ๆ

อย่างช้าขึ้นถึงสมองก่อนปล่อยลมออกมาอย่างแผ่วเบา

ความทุกข์บางส่วนถูกกระจายออกไปได้บ้างเล็กน้อย

จิตใจผมค่อย ๆ ดำดิ่งสู่ความมืดมิด

ลมหายใจแผ่วเป็นห้วง ... ช้า ... ช้า

Comment #2
ปุถุชน (Not Member)
Posted @30 ธ.ค.46 15.58 ip :

ผมเริ่มต้นด้วยการไถ่พรวนหน้าดินด้วยแรงงานของตนเอง ผมพลิกหน้าดินราว ๆ กับพลิกหน้าหนังสือเล่มโปรดของผม เมื่อหน้าดินได้ที่แล้วผมรดน้ำที่ตักเอามาจากก้นบึ้งลึกสุดของบ่อ ที่บรรพบุรุษของผมขุดประทังชีพมานานนับศตวรรษ ผู้คนในแถบนี้รู้จักชื่อเสียงของบ่อน้ำของเราได้ดี พวกแย้งกี้ก็เคยสู้รบตบมือกับนักรบของชนเผ่าเรา เพียงเพื่อแย่งสิ่งที่พวกมันเรียกว่าทองดำ

ผมพรมน้ำอย่างแผ่วเบาพอ ๆ กับที่นักแกะสลักหินอ่อนในวาติกันแกะรูปพระเยซูในอ้อมแค้นของพระมารดา พรมจนทั่วจนดินดำชุ่มไปด้วยความชื่น แล้วผมเอาไม้เท้าที่สืบทอดกันมาสิบศตวรรษแทงลงไปในดิน ให้เกิดเป็นรูเล็ก ๆ พอที่จะหย่อนเมล็ดพันธุ์พืชพิเศษของชนเรา ผมหยอดเมล็ดของมันอย่างประณีต ค่อยหยอดลงไปที่ละเม็ดสองเม็ด จนพื้นดินแถบนั้นคือไร่ของเรา เราปลูกทั้งฝิ่น กัญชาและยาสูบ พืชเหล่านี้เป็นพืชเศรษฐกิจทั้งนั้น ผู้คนนิยมชมชอบเสพมัน ผู้คนหลงใหลในกลิ่นของมัน ผู้คนมักลืมด้านดีของมันและกลับใช้ด้านเลวของมันมากล่าวหาพวกเรา มาระงับการทำไร่ของเรา

นี่ ก็ม้วนสุดท้ายที่มาจากไร่ของบรรบุรุษของเราในแอฟริกา หลังจากม้วนนี้แล้วไม่มีใครรู้จักมันอีกต่อไปแล้ว เพราะผู้คนโสโครกของโลกบอกว่ามันเป็นพิษเป็นภัยต่อสังคมรวม ผมไม่ได้ปฎิเสธว่ามันเลวร้ายถ้าคุณเอามันไปใช้ผิดที่ผิดทาง ในยุคก่อนเก่าบรรพบุรุษของเราใช้พืชเหล่านี้ในการประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ ไม่เคยมีบันทึกทางประวัติศาสตร์เล่มใด ที่บันทึกว่าบรรพบุรุษของเราตายเพราะพืชเหล่านี้ ที่เป็นเช่นปัจจุบัน เพราะมนุษย์อุตริปรุงแต่งกลิ่นจนมันไม่เหลือร่องรอยของธรรมชาติเดิมแท้ ก็แน่สิ เล่นเอาสารเคมีผสมแรงฤทธิ์ จะไม่ให้เสพติดได้อย่างไรเล่า

Comment #3
บ.ก.หนวด (Not Member)
Posted @30 ธ.ค.46 16.51 ip :

ปรบมือให้กับอีแมะจิ๊ครับ

สวยงาม และเปี่ยมไปด้วยนัยยะการครุ่นคิดอันหนักหน่วง  ทำได้ดีครับ

ปุถุชน-ในตอนขึ้นต้นนั้นน่าติดตาม  และทำให้ดิ่งลึกลงสู่ห้วงการครุ่นคิดได้ดีเช่นกัน  แต่เมื่อถึงกลางบท  กลับแผ่วเบาลงจนกลายเป็นเพียงการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของกัญชาอย่างน่าเสียดาย

//ผมเริ่มต้นด้วยการไถ่พรวนหน้าดินด้วยแรงงานของตนเอง ผมพลิกหน้าดินราว ๆ กับพลิกหน้าหนังสือเล่มโปรดของผม เมื่อหน้าดินได้ที่แล้วผมรดน้ำที่ตักเอามาจากก้นบึ้งลึกสุดของบ่อ ที่บรรพบุรุษของผมขุดประทังชีพมานานนับศตวรรษ ผู้คนในแถบนี้รู้จักชื่อเสียงของบ่อน้ำของเราได้ดี พวกแย้งกี้ก็เคยสู้รบตบมือกับนักรบของชนเผ่าเรา เพียงเพื่อแย่งสิ่งที่พวกมันเรียกว่าทองดำ

บทนี้ได้คะแนนไปเต็มๆจาก บ.ก.

และบริบทนี้ //ผมพรมน้ำอย่างแผ่วเบาพอ ๆ กับที่นักแกะสลักหินอ่อนในวาติกันแกะรูปพระเยซูในอ้อมแค้นของพระมารดา  ได้คะแนนเกินร้อยครับ

หากรักษาภาษาให้ได้ดั่งที่ยกมาทั้งชิ้น  ทั้งหากมีการดัดแปลงสารให้เป็นศิลป์  ชิ้นนี้จะน่าตื่นตกใจในการอลังการ

Comment #4
eric (Not Member)
Posted @30 ธ.ค.46 23.28 ip :

ไอ้เหี้ยนี่แม่ง หน้าตากวนส้นตีนจริงๆว่ะน้า !!!

Comment #5
ผีเสื้อปีกบางฯ (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.46 6.08 ip :

ง่ะพี่หมี่ เดี๋ยวนี้มีให้การบ้านด้วย...เพิ่งได้เข้ามา ขอเวลาไปทำก่อนนะ...ชะแว๊บบบบบ

Comment #6
ผีเสื้อปีกบางฯ (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.46 10.24 ip :

.....รำพึง....ถึงพฤษภา.....

.....ควันเทาเบาบางบาง ล่องลอยอย่างอ่อนอ้อยสร้อย ชายหนึ่งซึ่งใจลอย นั่งปลดปล่อยรอยคำนึง

.....มือจับมวนยาเส้น ดูดเน้นเน้นระลึกถึง วันวารยังติดตรึง เหมือนประหนึ่งเมื่อวันวาน

.....พฤษภาปีผ่านพ้น คนดิ้นรนน่าสงสาร หลีกลี้หนีซมซาน อุดมการณ์ย่อยยับไป

.....โลหิตหลั่งไหลริน เปรอะแผ่นดินนั่นเพราะใคร ใครนั้นคงเป็นใหญ่ คนกราบไหว้ทั่วพารา

.....กี่ชีวิตที่ดับดิ้น พวกทมิฬมันเข่นฆ่า เหมือนอย่างเป็นผักปลา ไร้ราคาค่าไม่มี

.....ใครก่อ...ใครระยำ เฝ้าตอกย้ำทุกนาที ใครนั้นยังอยู่ดี มีชีวีในสังคม

.....วันเดือนเลื่อนผ่านไป อกหม่นไหม้ใจขื่นขม พฤษภา...ก็แค่...พฤษภาคม จะนั่งตรม...ทำไมกัน......


แหะๆๆๆๆ...มาส่งการบ้านค่ะพี่

Comment #7
ลูกแมว (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.46 11.14 ip :

ม้างเอ้ย..เค้าถูกหวยรับปีใหม่กันตรึม ทำไมตูไม่ซื้อวะ ห๊า... ยาเส้นก็กะลังจะหมด ฮู่ยยย...

ออกไปเตะกระป๋องเล่นดีกั่ว...

Comment #8
บ.ก.หนวด (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.46 16.57 ip :

อีริค--

//ไม่ใช่แค่การบรรยายว่าเป็นรูปผู้ชายหน้าแก่ๆเหมือนอีริค กำลังอัดพันรำอยู่อย่างเอาจริงเอาจัง
ก๊ากกกกกกกกกกกก   


จาวตาล--

ที่จาวตาลเขียนนั้น  คือกามองรูป  แล้วให้เกิดเรื่องขึ้นมา  เป็นจินตนาการที่รับผลจากรูป  เช่นที่ปุถุชนได้เกิดจินตนาการ
บทจบของจาวยังไม่มีพลัง  แผ่วเบาไปเหมือนว่าไม่รู้จะจบยังไงดี

ปัญหาของจาวตาลกับปุถุชนก็คือ  ขึ้นต้นดี  มีพลัง  มีความสวยงาม  แต่แผ่วโรยลงไป  อาจเพราะไม่สามารถจับอารมณ์งานได้ตลอดทั้งชิ้น

ทั้งปุถุชนและจา่วตาลยังมีความสารามถที่จะพัฒนาตนในจุดนี้ได้  อาจด้วยการหาบทจบมาก่อน  มันเหมือนเราคิดถึงผลลัพท์ก่อนที่จะอธิบายสูตรการคำนวนเลข  เช่น-  2  แล้วก็อธิบายว่า  1+1 เท่ากับ 2

หรือวิธีใดก็ได้ที่ตนจะคิดหาค้นมันเจอ


ลูกแมว--

อัตถิภาวะนิยมสัมบูรณ์!


//อย่าถามว่าแปลว่าอะไรนะ  โกรธตายเลยล่ะ  55555

(งวดนี้หมดไป 2 พัน ได้มั้ง  เสียดายเงินเนอะลูกแมวเนอะ)

Comment #9
ผีเสื้อปีกบางฯ (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.46 23.00 ip :

ขอบคุณค่ะ บ.ก.หนวด
ยอมรับค่ะ ว่าเขียนแบบกลอนพาไป แหะๆๆๆๆ

คราวหลังต้องหาจุดจบ...เอ๊ยยยย...บทจบก่อน จะพยายามค๊า

Comment #10
A p A c h E (Not Member)
Posted @31 ธ.ค.46 23.51 ip :

[ หลังจากดูรูปนี้แล้ว พยายามนั่งลบความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับลุงคนนี้ออกไปจากสารบบสมองของตนเองเป็นเวลา 2 นาทีกว่า ].

( สูดหายใจลึกๆ อีกสองที )

ผมว่า คุณลุงคนนี้เป็นคนน่ากลัวนะ ผมว่าเค้าสามารถที่จะถล่มโลกในจิตนาการของเค้าเองได้เพียงแค่พลิกฝ่ามือเท่านั้น ลุงเค้าน่าจะเป็นคนขวางโลกนะ พร้อมๆกับน่าจะเป็นคนที่ยอมเปิดใจรับอารยธรรมแห่งความอิสระทางความคิดด้วยเช่นกัน แต่ในสิ่งที่ไม่น่าจะมีใครคาดคิด ลุงเค้าน่าจะสร้างสรรค์อะไรสักอย่างที่คนทั่วไปทำไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรม..

ใช่ล่ะมั้ย???

Comment #11
หมี่โต๊ะสาม (Not Member)
Posted @1 ม.ค.47 16.36 ip :

มุมมองดี

แต่เขียนออกมาแบบงานเขียนสิอาปาเช่

Comment #12
อัญชา (Not Member)
Posted @4 ม.ค.47 22.42 ip : 202...245

แหะ ๆ มาแจมมั่งดีกว่า ไหน ๆ  ก็มาแล้ว เดี๋ยวจะเอามาแปะนะคะ ขอเวลาไปคิดแป๊บนึง

Comment #13
อัญชา (Not Member)
Posted @4 ม.ค.47 23.19 ip : 202...245

สายลมพัดมาเอื่อย ๆ  ผมหยุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง มือควานหาบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะค่อย ๆ บรรจง จุดปลายมวนด้วยไฟแช็ค  ผมสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ปลายบุหรี่แดงวาบครั้งแล้วครั้งเล่า ควันสีเทาลอยอยู่รอบตัวผมคล้ายเป็นม่านหมอกจาง ๆ แม่ลูกคู่หนึ่งกำลังจะเดินผ่านหน้าผม สีหน้าของคนเป็นแม่ดูไม่ชอบขี้หน้าไอ้ขี้ยาอย่างผมนัก เธอกระชับเป็นสัญญาณให้ลูกมาอยู่ใกล้ ๆ
เธอจ้องหน้าผมไม่วางตา  แล้วดึงมือเด็กน้อยให้รีบเดินให้เร็วที่สุด ผมมองตามอย่างไม่ใคร่จะสนใจมากนัก ..เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก.. ผมก้อมลงมองดูสารรูปตัวเอง  ช่างไม่ต่างอะไรกับพวกเหลือขอข้างถนนจริง ๆ แต่ช่างเถอะ ในสมองของผมมีอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะที่จะต้องคิด ไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องไร้สาระแบบนี้นักหรอก

บุหรี่มวนแรกถูกเผาหมดไปแล้ว  ผมควักตัวใหม่ขึ้นสูบ เหลือบมองดูนาฬิกาโกโรโกโสที่ข้อมือข้างซ้าย แล้วผมก็ปล่อยให้เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง...

ก้นบุหรี่กว่ายี่สิบตัวที่ผมสูบกองเป็นพะเนินอยู่ในถังขยะ เหลือบตามองนาฬิกาบนข้อมืออีกครั้ง  ผมหยิบหมวกไหมพรมสีดำขึ้นสวม แว่นตากันแดดสีดำช่วยอำพรางไม่ให้ใครเห็นแววตาของผมได้ถนัดนัก แจ๊คเก็ตสีดำอีกตัวถูกสวมทับเสื้อยืดตัวเดิมที่ผมสวมอยู่ แล้วผมก็นั่งนิ่งเพื่อรอเวลา... เป้าหมายขอบงผมเดินมาแล้ว  ภรรยาที่น่ารักของผม เธอมักจะเดินทางนี้ทุกวัน ตรงเวลาซะด้วยสิ แต่เสียดายที่เธอไม่ได้ตรงกลับบ้านอย่างที่ผมคิด... ชายหนุ่มหน้าล่ะอ่อนอีกคนลุกจากที่นั่ง
ทันทีที่พบหน้า  ทั้งคู่แทบจะกระโดดเข้ากอดกัน แบบไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง
แล้วทั้งคู่ก็เดินกอดคอกันไปทางอีกด้านหนึ่งของสวนสาธารณะ ผมลุกขึ้นค่อย ๆ เดินตามไปช้า ๆ แบบไม่ให้มีพิรุธ มือขวาล้วงลงไปในกระเป่าเสื้อแจ๊คเก็ต โลหะแข็งนอนซุกตัวนิ่งเงียบ...  ผมเอามือลูบผิวเนื้อของมันเบา ๆ ความเย็นยะเยียบของมันจับเข้าไปในขั้วหัวใจของผม แต่ไฟแค้นที่ลุกโชนอยู่ในใจของผมมันรุนแรงกว่า ผมเอามือตบที่ด้ามโลหะเบา ๆ  พลางกระซิบกับมันว่า เดี๋ยวมันก็จะจบแล้วล่ะเพื่อนเอ๋ย  กูไม่ลืมให้มึงเป็นพระเอกตอนจบแน่ อดทนอีกนิดนะ สายตาของผมจ้องไปที่เป้าหมายไม่วางตา
แล้วสองขาก็พาผมเดินไปยังทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว!!!


//โหด ๆ แบบนี้พอไหวมั้ยอ่ะคะ

Comment #14
อัญชา (Not Member)
Posted @4 ม.ค.47 23.29 ip : 202...78

เย้ ๆ แปะติดด้วย ตะกี้คอมแฮ็งค์อีกแล้วค่ะ นึกว่าจะต้องมานั่งคิดใหม่ซะแล้ว

Comment #15
บ.ก.หนวดรูปงาม (Not Member)
Posted @5 ม.ค.47 17.17 ip : 203...73

อัญชาได้มองเห็นรูปนิ่งนี้เป็นภาพเคลื่อนไหว  มีเรื่องราวเป็นฉากๆ

การมองรูปนิ่ง  แล้วเห็นอะไรต่อมิอะไรที่เดินเข้ามาในรูปนั้น  คือจินตนการ  อัญชามีจินตนาการ  และอธิบายจินตนาการนั้นได้ค่อนข้างดี  เห็นภาพ  เห็นการเคลื่อนไหว

ยังติดนิดเดียวตรงภาษาในบางส่วน  ที่ยังใช้ภาษาไม่เข้ากับริบทงาน  เช่น-

//ผมก้อมลงมองดูสารรูปตัวเอง ช่างไม่ต่างอะไรกับพวกเหลือขอข้างถนนจริง ๆ แต่ช่างเถอะ ในสมองของผมมีอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะที่จะต้องคิด ไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องไร้สาระแบบนี้นักหรอก

แต่ช่างเถอะ ในสมองของผมมีอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะที่จะต้องคิด ไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องไร้สาระแบบนี้นักหรอก  ตรงนี้-เรื่องกำลังเดินเข้าสู่ภาวะหนักหน่วง  แต่ภาษาส่วนนี้กลับให้ความรู้สึกแผ่วเบา  ทั้งที่มันควรเป็นจุดชี้เปรี้ยงยืนยันความหนักหน่วงนั้น 


จัดเป็นเรื่องสั้นสั้น( shotshot  story)ชิ้นหนึ่ง  ที่เด่นในการบรรยายฉาก และกิริยาตัวละคร

Comment #16
อีแมะจิ๊ (Not Member)
Posted @5 ม.ค.47 17.21 ip : 203...170

ที่ปลูกฝังความ " คิด " ให้คนตัดสินคนที่ค่าของเงิน


มาแก้คำผิดครับทั่น

Comment #17
? (Not Member)
Posted @7 ม.ค.47 13.44 ip : 202...117

ใครกัน? ไม่ต้องสงสัย  รอสักอึดใจ จะมาใหม่พร้อมชิ้นงาน..

Comment #18
ธิดาดาว (Not Member)
Posted @8 ม.ค.47 15.45 ip : 202...102

สวัสดี! ยุวฑูตแห่งกาลเวลา ลมโชยมาเหม็นกลิ่นซากศพวันวาน ข้าพเจ้าเพ่งพินิจสังขารอันแปรเปลี่ยน พร้อมบาดแผลแห่งความกล้าทบท่าวดวงมาลย์ คมมีดมายากรีดใจข้าฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เลือดชั่วช้าไหลผ่านอณูจิตใต้สำนึก ทว่าข้าพเจ้าก็ไม่ตาย..จะมีประโยชน์อันใดเล่ากับการดำรงอยู่ด้วยความมืดดำ

มาเถอะ!ท่านยุวฑูตแห่งกาลเวลา  ข้าพเจ้าอยากพบพูดคุยกับท่าน ข้าฯมิอาจหยัดยืนบนผืนดินแห้งกร้านได้อีกแล้ว  พาข้าล่องไปกับท่านด้วยเถิด เบื้องหน้าของข้าพเจ้ายังคุกรุ่นไปด้วยควันไฟแห่งความโสมม  นกพญาไฟฉีกเนื้อหนังมังสาออกเป็นชิ้นชิ้น คาวเลืกซากศพเตะจมูกข้า  วิญญาณเร่ร่อนวนเวียนอยู่ในป่าช้าคอนกรีตอย่างทุกข์ทรมาน

สาสมแล้ว!..ควันไฟสีเทาจงเข้าไปเกาะกุมหัวใจของสิงห์ผู้กระหายเยี่ยงข้า ไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้วแม้แต่ปีศาจมฤตยู ข้าพเจ้าชาชินกับการสูบเลือดเนื้อกันเองของมนุษย์ผู้พล่าผลาญเผ่าพันธุ์ ไม่มีอะไรที่ข้าพเจ้าต้องกลัวอีกแล้ว..ถั่งโถมเข้ามาเลย! ข้าพเจ้าปรารถนาเพียงสิ่งเดียวในเพลานี้.. คือการได้เดินทางไปพร้อมกับท่าน.. "ยุวฑูตแห่งกาลเวลา" ..................................................... มาคลายความสงสัยค่ะ! ? คือ ธิดาดาวเอง เจ้าค๊า! แวะมาเยี่ยมเยียนกันค่ะ..พี่หมี่ บก.หนวด และมิตรสหายทุกท่าน  วิจารณ์กันได้เลยนะคะ เต็มที่ค่ะ!  ธิดาดาวยังอ่อนอยู่มากในหลายๆด้าน ต้องการคำชี้แนะค่ะ..

Comment #19
บ.ก.หนวดรูปงาม (Not Member)
Posted @8 ม.ค.47 16.04 ip : 203...12

เยี่ยม!-สาวน้อยผู้ผ่านการอบรมเข้าค่ายยุวกวีจากกวีหนุ่มมีชื่อหลายนาม...


อ่านตั้งแต่ต่นก็ต้องขนลุกกับภาษา  ทว่าน่าเสียดายที่เมื่ออ่านไปจนจบ  กลับรู้สึกพลังที่คุกรุ่นเมื่อเริ่มนั้น  แผ่วเบาไปอย่างน่าใจหาย


อย่างไรก็ตาม-นับว่าเข้าขั้นไม่ธรรมดาอีกคนหนึ่งของบอร์ดนี้

ด้วยเธอยังเรียนมัธยมปลาย  และอยู่ในถิ่นกวีเมืองตรังอย่าง  เทือก  บรรทัด  ,วิสุทธิ์ ขาวเนียม , สิระพล  อักษรพันธุ์  เป็นพี่เลี้ยงให้    โอกาสที่จะเปล่งประกายจริสรัศมีกวีมีอยู่ไม่ไกลเลย

Comment #20
ธิดาดาว (Not Member)
Posted @8 ม.ค.47 19.15 ip : 202...89

ก่อนอื่นก็ขอแก้ไขคำผิดสักนิดนะคะ ตรงย่อหน้าที่สองบรรทัดที่แปด .."คาวเลือดซากศพเตะจมูกข้า"..(แล้วก็ต่อเรื่อยไป....) โปรดสังเกตุคำในวงเล็บเป็นมุขที่ตลกใช้บ่อยๆ ขอยืมมาใช้นิดนึงค่ะ!

แห่ะ! แห่ะ!  พี่บ.ก.หนวดรูปงามแห่งเนชั่นสุดสัปดาห์ เล่นเอาธิดาดาวอึ้งเลยนะคะพี่รู้ละเอียดนะคะเนี่ย! พลาดนิดนึงตรงม.ปลาย รวมไว้หมดเลยนะคะ 555 ธิดาดาวอยู่ม.6 แล้วค่ะ  ปีหน้าคงไม่ได้อยู่ตรังแต่ยังยืนยันว่าไม่ทิ้งทั้งบทกวีและพี่ๆกวีถิ่นตรังทั้งหลายให้เดียวดาย 5555
ธิดาดาวคงบอกพี่อย่างที่มักใช้บ่อยๆ ว่า "เพิ่งเริ่มต้น"ค่ะ  ยังคงเดินตามไฟฝันอย่างมุ่งมั่นแม้ยังริบหรี่ จะโชติช่วงหรือไม่  นานแค่ไหน คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ

ธิดาดาวโชคดีที่มีโอกาสดีๆ และแรงสนับสนุนดีๆมากมาย กวีรุ่นครูและพี่ๆกวีทั้งหลาย เป็นแรงบันดาลใจสำหรับการก้าวเดินของธิดาดาวค่ะ  จะเห็นได้ว่าธิดาดาวรับอิทธิพลด้านสัญลักษณ์มาพอสมควร จากพี่กวีผู้มีพระคุณที่คอยสนับสนุนตลอดมา แต่ธิดาดาวจะพยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด (กำลังค้นหาเอกลักษณ์ให้ตัวเองอยู่ ค่ะ!)

ธิดาดาวยังมีจุดอ่อนอยู่มากที่จะต้องปรับปรุง โดยเฉพาะความสม่ำเสมอของการดำเนินเรื่องให้ต่อเนื่องจนจบ เป็นจุดบอดซึ่งธิดาดาวพยายามแก้ไขอยู่ค่ะ

ขอบคุณมากมายสำหรับแรงใจอันเป็นแรงผลักดันที่ดีเยี่ยม สำหรับก้าวต่อๆไปค่ะ!

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 13 user(s)

User count is 2428988 person(s) and 10171533 hit(s) since 16 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).