ธารสายใส : ธารถ้อยขับขานแห่งวัยเยาว์
เป็นหนังสือมือทำเล่มๆน่ารักๆเมื่อประมาณปี ๒๕๔๑-๔๒
เป็นโครงการเยาวชนรักหนังสือ โรงเรียนเสาธงวิทยา นครศรีธรรมราช โดยมีครูนิวัฒน์ บัญญานุรักษ์ หรือในนามนักเขียน-กวีว่า รมณา โรชา เป็นบรรณาธิการ
ธารสายใสนี้ เป็นหังสือที่เด็กมัธยมต้นแห่งเสาธงวิทยาได้เขียนกันขึ้นมา หลังจากที่ครูนิวัฒน์ได้เปิดค่ายนักเขียนน้อยๆเล็กๆเงียบๆมาระยะหนึ่ง
งานในเล่มล้วนเป็นงานใสๆซื่อๆ เห็นอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น รู้สึกเช่นไรก็เขียนไปเช่นนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานเขียนขณะที่พวกเขายังเรียน ม.๑- ม.๓
มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่ประทับใจผมมาก และเห็นว่าภาษาสำนวน กระทั่งชั้นเชิงและมุมมองวิธีคิด น่าสนใจยิ่ง ชื่อ โลกนอกห้อง
ฉันนอนอยู่บนเสื่อในห้องแคบแคบ มองดูวิถีความเคลื่อนไหว และความเป็นไปรอบตัว ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่าง ผะแผ่วเบา ปลวกเดินทอดแถวตรงไปยังฝาห้อง แมงมุมกำลังชักใยบนเพดานเต็มไำปหมด บรรยากาศเหมือนบ้านร้าง หากไม่มีฉันมานอนอยู่เช่นนี้ ฉันใจเต้นระรัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ ที่ผ่านมาเมื่อครู่...
ฉันมองเห็นสายน้ำเป็นสายเลือด ฉันมองเห็นซากศพหญิงสาว,คนชรา ผู้อ่อนล้าและอ่อนแรงไร้กำลัง ฉันมองเห็นผู้คนที่อยู่รอบ ซ่อนเขี้ยวเล็บและพิษสงเข้าห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่ง... ไม่รู้พี่ไม่รู้น้อง ไม่รู้พ่อไม่รู้แม่
ฉันมองเห็นป่าเป็นฐานทัพ ฉันมองเห็นลมพัดเป็นพายุร้อนโหมกระหน่ำ ฉันมองเห็นความชุลมุนวุ่นวาย ขณะนี้ฉันไม่กล้าขยับเขยื้อน หลับตานิ่ง... ลมพัดลอดมาทางหน้าต่างแผ่วเบา แตะผิวเนื้อเย็นยะเยือก.
เขียนโดย กิ่งฟ้า ภานุมาศ ม.๓ ปีการศึกษา ๒๕๓๘
น่าครุ่นคิด ที่เด็ก ม.๓ คนหนึ่ง เขียนอะไรออกมาได้ขนาดนี้
ผมไม่รู้จักเด็กคนนี้ และไม่รู้กระทั่งว่า กิ่งฟ้า นี้ เป็นชื่อจริงหรือนามปากกา แต่จากที่มีเด็กเขียนในเล่มทั้งหมดนั้น คาดว่าล้วนเป็นชื่อจริงทั้งสิ้น
ผมเอามาอวดกัน อย่างน้อยเพื่อเป็นการยืนยันกับทุกคนว่า การเป็นนักเขียนไม่ได้ยากเย็นอันใดเลย ทุกคนสามารถที่จะเขียนได้ทั้งนั้น และด้วยชั้นเชิงลีลาอันสง่างาม ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าหนุ่มหรือสาว
ขอเพียงการทุ่มโถมตนลงไป พยายามคิดในเรื่องที่คิดให้ละเอียดและลึกซึ้ง และที่สำคัญทักษะต้องหมั่นฝึกฝน
ไม่มีใครรู้อะไรมาตั้งแต่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้-ทุกคนเรียนรู้กันได้ครับ