จงสถิตนิตยศานต์
๏ เห่เอยขวัญแก้ว จากไปแล้วเจ้าแก้วขวัญ
หนาวหน่วงนักโพยมจันทร์ เลื่อนลอยหลั่นพันดารา
ม่านเมฆมาหม่น น้ำค้างหล่นพระเวหา
แสนเทวษเวทนา ปิ่มน้ำตาจักท่วมใจ
โลกอักษรเอกานัก จักหารักจากมุมไหน
โพ้นขอบฟ้าไรไร โพ้นหัวใจไหวรางราง
เพียงพายุพัดกระหน่ำ ก็จวนคว่ำนะใจบาง
เพียงเปลวแดดแผดกระด้าง ก็แห้งค้างคาคบ
ครวญคะนึงเจ้า จะปวดร้าวมิอาจหลบ
เพียงอ่อนแอองคาพยพ ฤๅทานทบลมชะตา
ปลิวใบไหวว่อน ปลิดกิ่งร่อนแรงล้า
ซวนซบบนมรรคา ถั่นถลาถมรอย
หนึ่งชีวีของนักเขียน หนึ่งบทเรียนทบทยอย
จำเรียงคำร่ำร้อย จำเริญรอยอักขราลัย
เพียงเอมเอื้องทิพย์ อิ่มกระซิบสายลมไหว
เขียนโลกด้วยหมึกใจ สลักนามไว้บนผิวน้ำ
หนาวลมเห่กล่อม ย้ำเยือนย้อมเมื่อภายค่ำ
เบื้องนภานั้นมืดดำ ยังมีส่ำดาวตระการ
ที่ตรงนั้นจงสถิต เสวยนิตยศานต์
อีกไม่เนิ่นในเงากาล อีกไม่นานคงพบกัน ฯ