กรอบนั้น ฉันกั้นเอง
ฉันขยับตัวเล็กน้อยพอสบาย
หลังจากขดตัวคดคู้อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมแคบ ๆ มานานนัก
เอี้ยวตัวเล็กน้อย เพื่อขับไล่ความเมื่อยที่เกาะกุมอยู่ในทุกอณูเนื้อ
แขนขาเหยียดกางให้เลือดลมได้วิ่งพล่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
หันมองไปข้างตัว
กรอบเล็ก ๆ เก่า ๆ ยังคงอยู่ที่เดิม
ความทรงจำเก่า ๆ ใบหน้าของผู้คนที่รู้จักดาดดื่น
ทั้งที่ล้มหายตายจาก
และที่ยังเผชิญหน้าประหัตประหารเชือดเฉือนกัน
อุ่นไอจากลมหายใจเก่า ๆ ที่ค้างไอยู่ในทุกรูขุมขน
ความหนาวที่ไม่เคยได้โลมไล้
กลับแนบเนื้อจนต้องโอบตัวเองไว้
คนแปลกตาผลัดกันเดินเปลี่ยนวนไปมาไม่ซ้ำหน้ากัน
สองตาริบหรี่ พยายามเพียรหาใบหน้าที่เคยคุ้นจากความไม่คุ้น
แต่ก็คงพบเพียงความไม่คุ้นที่เป็นเพื่อนแท้ที่ไม่เคยลืมกัน
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มพัดวน
แรงขึ้น..แรงขึ้น....แรงขึ้น...
สองแขนโอบกระชับตัวเองอีกครั้ง
ใช้เวลาเนิ่นนานต่อการตัดสินใจครั้งสุดท้าย
ก่อนที่จะใช้สองมือยกกรอบขึ้นปิดกั้นตัวเองเอาไว้อีกครั้ง...
เมื่อโลกภายนอกไม่อะไรให้เริงใจ
ไม่มีคนที่ไว้ใจ ไม่มีใครจะใยดี
เช่นนี้แล้วจึงขอเลือกตีขอบกรอบกั้นตัวเองเอาไว้ภายใน
กักขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวจะดีกว่า
หากใครจะเพียรถามถึงความเป็นไป
ก็คงจะบอกไปเพียงว่า..
...กรอบนั้น ฉันกั้นเอง...
//ปล. ไม่แน่ใจว่า แปะไว้ในหน้านี้ได้รึเปล่าน่ะค่ะ
แต่ก็เอามาแปะละ