ข.น.น.๓
หากเอ่ยถึง หลุดโลกบอร์ด เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่าน คำว่า คลาสสิค ต้องมอบให้กับคนหลุดโลกยุคนั้น หลายคนรู้จักกันในนามบอร์ดคนถ่อย , แดนคนเดน และสารพัดนิยามที่บ่งบอกถึงลักษณะหลุดโลก ท่ามกลางการด่ากันอย่างรุนแรง-ทว่าขำ การก่นโคตรเหง้า-ทว่าเฮฮา การอะไรต่อมิอะไรที่ทั้งผู้ด่าและผู้ถูกด่าขำไปพร้อมกับคนอ่านกระทู้ บรรยากาศเหล่านั้น-ปรากฏงานเขียนมากมายผุดพรายขึ้นมาเป็นระยะ หลายต่อหลายชิ้น-หลายต่อหลายชื่อผู้เขียน ทำเอาผมทึ่งในฝีมืออันจัดจ้าน โดยเฉพาะ เหยี่ยวป่า นิดหน่อยต้องมี พระเจ้า สะตอเขียว อาปาเช่ และอีกหลายนาม
อีริคเป็นหนึ่งในหลุดโลกยุคคลาสสิคนั้น และใช้ชื่อนี้มาโดยตลอด อาจใช้ชื่ออื่นในบางกาละ และอาจใช้ชื่อ-พาส ของชาวบ้านในบางเวลา
จนเมื่อพวกเขาอพยพไปอยู่บอร์ดของแต่ละคน จนกระทั่งอีริคก็มีบอร์ดของเขาเอง อีริคก็มีงานเขียนออกมาอยู่เป็นระยะ แต่ที่เห็นเขาเอาจริงเอาจังที่สุดก็เห็นจะเป็นงานเขียนใน จิ้งจกทัก หนังสือทำกันเองของกลุ่มหลุดโลกยุคคลาสสิค
เขาเป็นคนที่รักในดนตรี พ่อผู้ชื่นชอบสุนทราภรณ์ได้เปิดกรอกหูเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตั้งแต่ยังเยาว์วัย รู้กันอยู่ว่าสุนทราถรณ์นั้น เป็นวงดนตรีฝีมือระดับจัดจ้านเพียงใด การได้ฟังเพลงที่ระดับมาตรฐานเดียวกับสากล ย่อมเป็นพื้นเพปูพื้นฐานให้เขาเดินไปอย่างโลดแล่นบนถนนสายดนตรี แม้จะไม่ได้ฟอร์มวงเป็นเรื่องราวออกอัลบั้มเป็นศิลปินแหกปากเย้วๆหน้าจอทีวี แต่เขาก็มีความสุขแล้วกับการได้ฟังดนตรีดีดี และเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ น่าเสียดายที่เขาไม่เล่นเพลงแบบสุนทราภรณ์
วัยเยาว์เติบโตมาเรื่อยๆเฉื่อยๆ ตามอย่างที่วัยเยาว์ทั้งหลายควรจะเป็น ไม่โลดโผนจนเกินไป ไม่ห้าวจนดูกร้าว แต่รักเหลือเกินกับศิลปะทั้งปวง โดยเพาะเพลง และโดยเฉพาะเพลงแจซซ
ดำรง อารีกุล นักเขียนสกุลเสียดสี เป็นนักเขียนในดวงใจของเขาตามอย่างพี่ชาย เขารู้จัก วาที จิตรมนัส ที่เป็นนักศึกษา มาจนกระทั่ง หมง หงจินเป่า ในชมรมกอดลมไว้อย่างให้หงอย และแน่นอนที่เขาต้องได้อ่าน รักร้างไปข้างซ้าย กับ รักย้ายมาข้างขวา ที่ดำรงเขียนเสียดสีนักศึกษารุ่น 14 ตุลา เสียดสีความคิดแบบสังคมนิยม
เขาอายุ 30 สถานภาพแต่งงานแล้ว อีริคเป็นชายผู้รักภรรยา เป็นผู้ชายที่อบอุ่นสำหรับผู้หญิง และน่าหมั่นไส้สำหรับผู้ชายด้วยกัน เขาแต่งงานเมื่ออายุ 27 และยังไม่มีทายาท เขายอมรับเสียงแผ่วทว่าหนักแน่นว่า-มีไว้เยี่ยว เท่านั้น
มาฟังทัศนะต่อบทกวีของเขากัน
ร้อยกรองเป็นศิลปะที่งดงามมาก
เปรียบไป งานเขียนร้อยกรองดีดีก็เหมือนเพลงแจ๊ซ
เพลงแจ๊ซคือการที่คนที่เล่นดนตรีในระดับสุดยอด
ผ่านการใช้ทฤษฎีดนตรีมาจนบรรลุแล้ว แล้วมาเล่นดนตรีร่วมกัน
จุดใหญ่ของเพลงแจ๊ซคือใช้ทุกอย่างทีมีเอาด้นสด เล่าเรื่องแบบสดๆไม่ยึดติดกับแบบแผนมากนัก งานร้อยกรองจึงสามารถพลิกแพลงหลากหลาย
แต่งานกวีนี่คือเพลงคลาสสิค
เพลงคลาสสิคมีกฏเกณฑ์บังคับอยู่มากมาย
ทั้งการที่โน็ตที่ใช้ต้องอยู่ในคอร์ดที่เล่น
การที่เสียงประสานจะต้องไม่ใช้โน็ตเสียงสูงกว่าเมโลดี้หลัก
มันคือฉันทลักษณ์อย่างหนึ่ง
กวีมีกฏเกณฑ์ แต่งานกวีที่ดี
จะต้องใช้กฏเกณฑ์ให้เป็น ใช้ให้เหมาะ ใช้ให้สวย
ดังนั้นศิลปะแขนงนี้จึงสร้างไม่ได้ง่ายๆ
และไม่อาจมีคนในหมู่มากที่อยากจะหันมาทำความรู้จักกับมัน
คนที่อยากรู้จักกับบทกวี
ก็จำต้องเป็นคนที่มีวุฒิภาวะทางภาษาที่มากพอสมควรก่อน
และถ้าเราแม้เพียงก้าวเข้ามาได้แล้วเพียงขาข้างเดียว
อีกไม่นานหรอก ทั้งตัวและหัวใจจะตามเอง
นี่บอกเราได้ว่าเขาเข้าใจธรรมชาติของร้อยกรองอยู่พอควร และมองเห็นอะไรบางอย่างที่สูงขึ้นไปกว่าร้อยกรอง เขาเรียกมันว่าบทกวี การเปรียบเทียบกับบทเพลง ย่อมเห็นภาพเป็นรูปธรรมที่สุด ด้วยทฤษฎีการจัดหมวดหมู่ของบทเพลงเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างทั่วโลก
อีริคชื่อเล่นจริงๆว่า-เอ้ ไม่น้อยที่เรียกเขาว่า-ริกกี้ แหละมีใครบางคนเรียกเขาว่า-หมอซ้ง!
เดี๋ยวจะเอาลิงค์บอร์ดของเ้ขามาแปะ