" Last Operation .. "
9 : 50 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
ผมปลดแม๊กกาซีนออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยัดอันใหม่เข้าช่องบรรจุกระสุน
กระชากคันรั้งลูกเลื่อน
ปุ๊.....ปุ๊...........ปุ๊.......ปุ๊...
หัวกระสุนกระแทกเข้าที่ช่องอก ผมเซถอยหลัง ยก M.16 A2 ขึ้นประทับบ่า...
" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."
ผมส่ายปากกระบอกปืน ส่งกระสุนเป็น ชุด ๆ จากด้านขวาไปซ้าย
กระจกด้านหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง แตกกระจายร่วงลงกับพื้น
ผมถอยเข้าไปที่หลังเคาท์เตอร์ มือซ้ายคลำที่หน้าอก
แม่งเอ๊ยย...ปวดฉิบหายเลย
ดีนะที่ใส่เสื้อกันกระสุน กูยังอยู่ยิงกบาลพวกมึงได้อีกนานโว๊ยย...
ผมโผล่พรวดขึ้นมาหลังเคาท์เตอร์ เครื่องแบบตำรวจสีกากี ไหววาบอยู่เบื้องหน้า 2 คน....
อ๊ากกกกก....
" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."
ผมส่งหัวกระสุนขนาด .223 จาก M.16 A2 ในมือเข้าสู่ร่างของ 2 ตำรวจไทยใจเด็ด
เศษชิ้นเนื้อ และเศษเครื่องแบบที่กระจุยออกทางด้านหลัง แววตาที่ตกตะลึง
ก่อนที่จะกระเด็นไปนอนจมกองเลือด...........................
ผมกลิ้งตัวเข้าไปที่ซอกเคาท์เตอร์รับแลกเปลี่ยนเเงินตราต่างประเทศ พลิกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู15 นาทีแล้ว.....
2 ชัวโมงนรกที่ยาวนานผ่านไป 15 นาทีแล้ว เหลืออีก 1 ชั่วโมง 45 นาที
___________________________________________________________________________________________
10 : 05 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
" สถาณการณ์เป็นยังไง " สารวัตรทรงพล ถามลูกน้องที่แอบอยู่ข้างรถตำรวจที่จอดปิดล้อมอยู่หน้า
ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง
" คนร้ายมีคนเดียวครับ ขับปิ๊คอัพมาจอดหน้าธนาคาร เดินดุ่ย ๆ เข้าไป จ่าวิรัชที่เข้ามาตรวจเวรที่ธนาคาร เจอก่อน
มันไม่พูดอะไรสักคำ ยิงใส่เลย นอนตายอยู่ข้างในครับ มันไล่ทุกคนออกมา ไม่มีพนักงานเหลือข้างในแล้วครับ
แปลกมากครับ...ถ้ามันจะเอาเงิน มันกวาดแล้วไปได้ตั้งนานแล้ว แต่มันไม่ไป สะพายเป้ไปนั่งกระดิกตีนรอใน
เคาท์เตอร์ สายตรวจมาถึงก่อน 2 คน โดนมันสอยร่วงทั้งคู่ "
สารวัตรทรงพล กวาดตามองสภาพพื้นที่..เศษกระจกร่วงเกลื่อนกลาด ตึกแถวด้านฝั่งตรงข้ามโดนลูกกระสุน
เสียหายไปเป็นแถบ ศพสายตรวจ 2 นาย นอนเสียชีวิตอยู่หน้าประตูทางเข้า
" อีกนานมั้ยกว่าหน่วย S.W.A.T. จะมาถึง " สารวัตรทรงพลเอ่ยถาม
" อีกไม่เกิน 20 นาทีครับ ทาง 191 เพิ่งวิทยุมาบอกเมื่อสักครู่ "
สารวัตรทรงพลมองเข้าไปที่ธนาคาร........มันต้องการอะไรกันแน่
___________________________________________________________________________________________
21 : 30 น. วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2546
" เสธ.โอ๊ค บอกว่า 10 โมง พรุ่งนี้ เฮียออกเดินทางได้เลย "
เฮียต่วยมองชายที่อยู่ตรงหน้า ถึงแม้รู้ว่าเขาเป็นคนของเสธ.โอ๊ค แต่เฮียต่วยก้อยังไม่ค่อยไว้ใจอยู่ดี
เวลาที่เขาจ้อง มันทำให้เฮียต่วยหนาวเยือก...
" เสธ.ย้ำว่า เฮียต้องออกเดินทางทันที ไอ้พวกเหี้ยนั่นได้หลักฐานไปแล้ว อีกไม่นาน มันต้องตามมาลากคอเฮีย
ไปสอบสวน และมันจะโยงไปหาเสธ.ได้ เสธ.ติดต่อสายทางฝั่งพม่าเรียบร้อยแล้ว เขาจะดูแลเฮียเป็นอย่างดี "
เฮียต่วย ยกน้ำชาขึ้นซด...นี่คนอย่างกูต้องมาหนีหัวซุกหัวซุนปานนี้เรอะ
" แล้วเฮียจะรู้ได้ไง...ว่าตลอดทางจะปลอดภัย ไม่มีตำรวจมาค้น มาตรวจ " เฮียต่วยเอ่ยถามชายที่นั่งตรงหน้า
เขายิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม.....สองตาจ้องมาที่ใบหน้าเฮียต่วย
เฮียต่วยรู้สึกขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
" นั่นมันหน้าที่ของผม ผมจะทำให้ตำรวจทั้งกรุงเทพ ฯ พุ่งมาหาผม เฮียต่วยไม่ต้องปอดแหกกลัวตายหรอก
ต่อให้ตาย เฮียต่วยก้อต้องไม่มาตายแถวนี้ "
___________________________________________________________________________________________
10 : 45 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
" คนร้ายมีคนเดียว...แต่มีอาวุธร้ายแรงไม่ทราบจำนวน เท่าที่สังเกตุการณ์ มี M.16 1 กระบอก ปืนพกขนาด 11 มม.
1 กระบอก ยังไม่ทราบในเป้ที่คนร้ายสะพายอยู่ มันแทบจะหุ้มเกราะทั้งตัว หลายครั้งที่เรายิงที่ขา มันแค่ทำขาสะบัด ๆ
แล้วเดินต่อ ตอนนี้ตำรวจบาดเจ็บไปหลายนายแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุด......"
ยังไม่ทันที่สารวัตรทรงพลจะบรี๊ฟสถาณการณ์ปัจจุบันให้หน่วย S.W.A.T. ฟังจบ เสียงกัมปนาทกึกก้องก็ดังมาจากหน้าธนาคาร
" บึ้มมมม........"
รถสายตรวจคันที่จอดปิดอยู่ตรงหน้าธนาคาร กลายเป็นเศษซากรถที่ไฟลุกท่วม ลูกน้องแก 2 คนเกลือกกลิ้งไปตามพื้น
ไฟที่ลุกติดเครื่องแบบ เลือดที่ท่วมไปทั้งตัว คลุกเคล้ากับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
" ฉิบหายแล้ว...แม่งมีระเบิด เฮ้ย..พวกคุณรีบไปเลย ก่อนที่มันจะถล่มเละไปกว่านี้ ไป๊.." สารวัตรทรงพลให้สัญญาณ
กับหน่วย S.W.A.T. ลงมือปฏิบัติการ
___________________________________________________________________________________________
10 : 55 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
" แอน...แอน มาดูข่าวเร็ว คนร้ายปล้นธนาคารที่นางเลิ้ง เร๊ววว... "
ครูแอนละสายตา จากเด็ก ๆ ในห้องเด็กเล็กในเนอสเซอรี่ที่เธอกำลังดูแลอยู่ ทีวีมุมห้องที่ครูนีเปิดกำลังเสนอภาพ
รายงานสดจากมุมสูงของเฮลิคอปเตอร์ ภาพรถสายตรวจทีไฟกำลังลุกท่วม ความชุลมุนวุ่นวายบนถนนนางเลิ้ง
ปรากฏอยู่ตรงหน้า เออเนอะ..คนเราสมัยนี้ ปล้นกันกลางวันแสก ๆ นะ
เสียงร้องจ้าดังขึ้นเบื้องหลัง ครูแอนหันขวับกลับมาพร้อมทั้งเห็นเด็กน้อยที่กำลังนั่งร้องไห้ สองมือกุมที่หัว
คู่กรณียืนถือปืนเด็กเล่นอยู่ตรงหน้า....
" น้องภู ไปตีเพื่อนทำไมล่ะครับ เพื่อนเจ็บแล้วเห็นมั้ย...ขอโทษเพื่อนเดี๋ยวนี้นะครับ "
ครูแอนลูบหัวลูบหลังให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ก่อนจะหันมาทำตาดุใส่น้องภู
" ขอโทษนะ.. " น้องภู ทำหน้าเศร้า ๆ เด็กน้อยมองเพื่อนด้วยแววตาเสียใจ
" ทีหลังไม่ตีเพื่อนนะครับ...ไปตีเพื่อนทำไม " ครูแอนเอื้อมมือมาดึงปืนในมือน้องภู
เด็กน้อยกำด้ามปืนแน่น ขืนมือต้าน....ดวงตาจ้องมาที่หน้าครูแอน
" พ่อบอกว่า..ถ้าเข้าประชิดตัว ให้ตีด้วยพานท้ายตั้ง " แววตาเด็กน้อยจับจ้องที่ใบหน้าครูแอน ทำให้ครูแอนขนลุก
" น้องภู...ส่งปืนมาให้ครู " ครูแอนพยายามแกะปืนเด็กเล่นออกมาจากมือเด็กน้อยจนได้
น้ำตาน้อย ๆ ไหลลงมานองหน้า..........
" พ่อบอกว่า..ถ้าปืนหลุดจากมือ ก็เท่ากับว่า .... ตายแล้ว " เด็กน้อยเอ่ยปากท่ามกลางเสียงสะอื้น
ครูแอนจับจ้องมองเด็กชายอายุ 3 ขวบครึ่งที่ยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงหน้า ... อะไรกันนี่ พ่อของเด็กคนนี้
เป็นใครกัน...........ทำไมสอนลูกอย่างนี้
ภาพในจอทีวีที่มุมห้อง ภาพซูมจากมุมกล้องที่ซ่อนอยู่ในตึกแถวฝั่งตรงข้าม ปรากฏภาพชายคนหนึ่ง
สวมหมวกไหมพรมคลุมหน้า เห็นแต่ลูกตา ชุดเกราะกันกระสุนสีดำที่สวมใส่ กำลังสาดกระสุนปืน
ออกมาภายนอกธนาคาร
" พ่อ.....พ่อ...."
" อะไรนะน้องภู...ไหน..พ่อ " ครูแอนถามเด็นน้อยอย่างตื่นตระหนก ...
เด็กน้อยชี้ไปทีทีวี
" นั่นไง...พ่อ ภูจำได้ พ่อแน่ ๆ พ่อได้เล่นหนังด้วย " เด็กน้อยพูดทั้งน้ำตา ยิ้มน้อย ๆ ..
" นี....นี...ปิดทีวีเดี๋ยวนี้...ฉันบอกให้ปิด.....เร็ว ๆ สิ "
___________________________________________________________________________________________
11 : 35 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
ควันจากแก๊สน้ำตา ปกคลุมไปทั้งธนาคาร ผมมองลอดหน้ากากที่ผมใส่ออกไปด้านนอก
ไม่เกิน 20 วินาที พวกมันต้องชารจ์เข้ามาในลักษณะแถวตอน ก่อนที่จะแยกสลับออกทางซ้ายขวา
ผมปลดแม๊กกาซีนออก เปลี่ยนเป็นแม๊กกาซีนที่ผมบรรจุลูกกระสุนหัวเจาะเกราะ
กูจะลากพวกมึงลงนรกไปกับกู......
เงาวูบวาบไหวปรากฏอยู่เบื้องหน้า ผมถลันวาบออกมาจากข้างเคาท์เตอร์ที่ปรุพรุนไปด้วยรอยกระสุน
อ๊ากกกกก.............................................
" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."
ผมกราดกระสุนเข้าใส่ คนแรกที่วิ่งเข้ามา มันล้มฮวบลง คนที่สองมันพุ่งออกทางซ้าย ผมหันปากกระบอกปืนตาม
ไอ้คนที่สามพุ่งออกทางขวา ผ่านเพื่อนมันคนแรกที่ล้มลง ผมเหนี่ยวไกยิงคนที่สองทางซ้ายก่อน มันทรุดฮวบลง
กระสุนจากปืนมันเจาะเข้าที่ช่องคอ หัวผมสะบัดหมุน นิ้วยังเหนี่ยวไก หันปืนหาไอ้คนที่สาม
กระสุนจากไอ้คนที่สี่ ที่ห้า ที่หก เจาะทะลวงเข้าตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อนที่ไอ้คนที่สามจะได้ยิงผมด้วยซ้ำ
อานุภาพของหัวกระสุนไฮดร้าช๊อก ที่ถูกยิงในระยะประชิด ทะลวงผ่านเกราะที่ผมใส่
ผมหมุนคว้างไปตามแรงกระสุน นิ้วยังเหนี่ยวไกปืนในมือ กระสุนเจาะหลอดนีออนบนเพดานร่วงกราวลงมา
ภาพรอบตัวดูเหมือนจะหมุนไป....หมุนไป
เหมือนตอนที่ผมนั่งม้าหมุนตอนที่ผมเป็นเด็ก.....
เหมือนผมได้ยินเสียงเด็กผู้ชายหัวเราะอยู่ข้าง ๆ .... เสียงหัวเราะใส ๆ ที่ผมคุ้นเคย
___________________________________________________________________________________________
12 : 55 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
เฮียต่วยมองไปที่ทิวทัศน์ข้างทาง ใกล้จะเข้าเขตจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว อีกไม่นานก้อถึงอำเภอสวนผึ้ง
วิทยุยังรายงานข่าวการบุกเข้าปล้นธนาคารกสิกรไทยสาขานางเลิ้ง ที่จบลงด้วยการเข้าวิสามัญฆาตกรรม
คนร้ายโดยหน่วย S.W.A.T.
ป่านนี้ทั้งตำรวจ ทั้งนักข่าว คงจะรุมกันอยู่ที่นั่น
ไอ้ห่า....แม่งบ้าดีเดือดฉิบหาย
ป้ายบอกทางไปอำเภอสวนผึ้ง พุ่งผ่านไปเหนือหัว....อีกหน่อยก้อถึงแล้ว
สองข้างทางเริ่มไม่ค่อยมีรถสวนมา
รถปิ๊คอัพคันที่ตามหลังมา เปิดไฟกระพริบออกทางขวา ทำความเร็วจะแซงขึ้นไป
เฮียต่วยเหลือบตาไปดู
รูปากกระบอกปืนปรากฏขึ้นตรงหน้า ก่อนที่เสียงระเบิดกระสุนจะตามมา
" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."
สองนัดร้อยเข้าที่สีข้าง อีก 3 นัดเจาะทะลุจากหลังเบาะ เลือดกระเซ็นไปติดที่กระจกหน้า
เฮียต่วยรู้สึกว่ารถหมุนคว้าง ก่อนที่จะพลิกลงข้างทาง
สำนึกสุดท้าย...เหมือนได้ยินเสียงของชายคนนั้น
" เฮียต่วยไม่ต้องปอดแหกกลัวตายหรอก
ต่อให้ตาย เฮียต่วยก้อต้องไม่มาตายแถวนี้ "
___________________________________________________________________________________________
16 : 15 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
" แม่มาแย้วว.... " เด็กน้อยวิ่งถลาเข้ากอดหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาที่เนสเซอรี่
ครูแอนเห็นเธอมาส่งลูกชายเธอทุกเช้า
" แม่..แม่ .. พ่อออกทีวีด้วย พ่อได้เล่นหนัง " เด็กน้อยบอกแม่อย่างลิงโลด
หยาดน้ำตาสองสายกลิ้งตัวลงมาจากใบหน้าหญิงสาว เด็กน้อยวิ่งมาหาครูแอน
" ครูคับ...ผมขอปืนผมคืนด้วยคับ "
ครูแอนส่งปืนให้เด็กน้อย พร้อมทั้งความรู้สึกโหวงเหวงไปทั้งอก น้ำตาเธอกำลังจะไหล
" แม่...กลับบ้านเราเนอะ ไปเล่นกับพ่อ พ่อจะได้สอนให้ผมรบ ยิงกัน ปุ๊ง..ปุ๊ง... "
เด็กน้อยย่อตัวลงส่ายปืนในมือไปมา ไฟแว๊บ ๆ กระพริบที่ปลายกระบอกปืน กับเสียงหัวเราะที่ไร้เดียงสา
ภาพเด็กน้อยจูงมือกันกับหญิงสาว กำลังเดินห่างออกไป...ครูแอนเริ่มมองเห็นมันไม่ชัด เพราะน้ำตา
แว่วเสียงเด็กน้อย แผ่วเบา....
" พ่อบอกว่า..ถ้าปืนหลุดจากมือ ก็เท่ากับว่า .... ตายแล้ว "
***
แรงบันดาลใจ..จาก รายการเจาะใจ ตอน " ชีวิตตำรวจเชื้อสายไทยในลอสแองเจลลิส "