" Last Operation .. "

by จสอ.โจ @10 เม.ย.47 22.02 ( IP : 210...117 ) | Tags : กระดานข่าว

9 : 50 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
ผมปลดแม๊กกาซีนออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยัดอันใหม่เข้าช่องบรรจุกระสุน

กระชากคันรั้งลูกเลื่อน

ปุ๊.....ปุ๊...........ปุ๊.......ปุ๊...

หัวกระสุนกระแทกเข้าที่ช่องอก ผมเซถอยหลัง ยก M.16 A2 ขึ้นประทับบ่า...

" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."

ผมส่ายปากกระบอกปืน ส่งกระสุนเป็น ชุด ๆ จากด้านขวาไปซ้าย

กระจกด้านหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง แตกกระจายร่วงลงกับพื้น

ผมถอยเข้าไปที่หลังเคาท์เตอร์ มือซ้ายคลำที่หน้าอก

แม่งเอ๊ยย...ปวดฉิบหายเลย

ดีนะที่ใส่เสื้อกันกระสุน กูยังอยู่ยิงกบาลพวกมึงได้อีกนานโว๊ยย...

ผมโผล่พรวดขึ้นมาหลังเคาท์เตอร์ เครื่องแบบตำรวจสีกากี ไหววาบอยู่เบื้องหน้า 2 คน....


อ๊ากกกกก....

" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."


ผมส่งหัวกระสุนขนาด .223 จาก M.16 A2 ในมือเข้าสู่ร่างของ 2 ตำรวจไทยใจเด็ด

เศษชิ้นเนื้อ และเศษเครื่องแบบที่กระจุยออกทางด้านหลัง แววตาที่ตกตะลึง

ก่อนที่จะกระเด็นไปนอนจมกองเลือด...........................

ผมกลิ้งตัวเข้าไปที่ซอกเคาท์เตอร์รับแลกเปลี่ยนเเงินตราต่างประเทศ พลิกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู15 นาทีแล้ว.....

2 ชัวโมงนรกที่ยาวนานผ่านไป 15 นาทีแล้ว เหลืออีก 1 ชั่วโมง 45 นาที


___________________________________________________________________________________________

10 : 05 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546

" สถาณการณ์เป็นยังไง " สารวัตรทรงพล ถามลูกน้องที่แอบอยู่ข้างรถตำรวจที่จอดปิดล้อมอยู่หน้า

ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง


" คนร้ายมีคนเดียวครับ ขับปิ๊คอัพมาจอดหน้าธนาคาร เดินดุ่ย ๆ เข้าไป จ่าวิรัชที่เข้ามาตรวจเวรที่ธนาคาร เจอก่อน

มันไม่พูดอะไรสักคำ ยิงใส่เลย นอนตายอยู่ข้างในครับ มันไล่ทุกคนออกมา ไม่มีพนักงานเหลือข้างในแล้วครับ

แปลกมากครับ...ถ้ามันจะเอาเงิน มันกวาดแล้วไปได้ตั้งนานแล้ว แต่มันไม่ไป สะพายเป้ไปนั่งกระดิกตีนรอใน

เคาท์เตอร์ สายตรวจมาถึงก่อน 2 คน โดนมันสอยร่วงทั้งคู่ "

สารวัตรทรงพล กวาดตามองสภาพพื้นที่..เศษกระจกร่วงเกลื่อนกลาด ตึกแถวด้านฝั่งตรงข้ามโดนลูกกระสุน

เสียหายไปเป็นแถบ ศพสายตรวจ 2 นาย นอนเสียชีวิตอยู่หน้าประตูทางเข้า


" อีกนานมั้ยกว่าหน่วย S.W.A.T. จะมาถึง " สารวัตรทรงพลเอ่ยถาม

" อีกไม่เกิน 20 นาทีครับ ทาง 191 เพิ่งวิทยุมาบอกเมื่อสักครู่ "


สารวัตรทรงพลมองเข้าไปที่ธนาคาร........มันต้องการอะไรกันแน่


___________________________________________________________________________________________


21 : 30 น. วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2546

" เสธ.โอ๊ค บอกว่า 10 โมง พรุ่งนี้ เฮียออกเดินทางได้เลย "


เฮียต่วยมองชายที่อยู่ตรงหน้า ถึงแม้รู้ว่าเขาเป็นคนของเสธ.โอ๊ค แต่เฮียต่วยก้อยังไม่ค่อยไว้ใจอยู่ดี

เวลาที่เขาจ้อง มันทำให้เฮียต่วยหนาวเยือก...


" เสธ.ย้ำว่า เฮียต้องออกเดินทางทันที ไอ้พวกเหี้ยนั่นได้หลักฐานไปแล้ว อีกไม่นาน มันต้องตามมาลากคอเฮีย

ไปสอบสวน และมันจะโยงไปหาเสธ.ได้ เสธ.ติดต่อสายทางฝั่งพม่าเรียบร้อยแล้ว เขาจะดูแลเฮียเป็นอย่างดี "


เฮียต่วย ยกน้ำชาขึ้นซด...นี่คนอย่างกูต้องมาหนีหัวซุกหัวซุนปานนี้เรอะ

" แล้วเฮียจะรู้ได้ไง...ว่าตลอดทางจะปลอดภัย ไม่มีตำรวจมาค้น มาตรวจ " เฮียต่วยเอ่ยถามชายที่นั่งตรงหน้า


เขายิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม.....สองตาจ้องมาที่ใบหน้าเฮียต่วย

เฮียต่วยรู้สึกขนลุกเกรียวไปทั้งตัว


" นั่นมันหน้าที่ของผม ผมจะทำให้ตำรวจทั้งกรุงเทพ ฯ พุ่งมาหาผม เฮียต่วยไม่ต้องปอดแหกกลัวตายหรอก


ต่อให้ตาย เฮียต่วยก้อต้องไม่มาตายแถวนี้ "


___________________________________________________________________________________________


10 : 45 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546

" คนร้ายมีคนเดียว...แต่มีอาวุธร้ายแรงไม่ทราบจำนวน เท่าที่สังเกตุการณ์ มี M.16 1 กระบอก ปืนพกขนาด 11 มม.

1 กระบอก ยังไม่ทราบในเป้ที่คนร้ายสะพายอยู่ มันแทบจะหุ้มเกราะทั้งตัว หลายครั้งที่เรายิงที่ขา มันแค่ทำขาสะบัด ๆ

แล้วเดินต่อ ตอนนี้ตำรวจบาดเจ็บไปหลายนายแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุด......"

ยังไม่ทันที่สารวัตรทรงพลจะบรี๊ฟสถาณการณ์ปัจจุบันให้หน่วย S.W.A.T. ฟังจบ เสียงกัมปนาทกึกก้องก็ดังมาจากหน้าธนาคาร


" บึ้มมมม........"


รถสายตรวจคันที่จอดปิดอยู่ตรงหน้าธนาคาร กลายเป็นเศษซากรถที่ไฟลุกท่วม ลูกน้องแก 2 คนเกลือกกลิ้งไปตามพื้น

ไฟที่ลุกติดเครื่องแบบ เลือดที่ท่วมไปทั้งตัว คลุกเคล้ากับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

" ฉิบหายแล้ว...แม่งมีระเบิด เฮ้ย..พวกคุณรีบไปเลย ก่อนที่มันจะถล่มเละไปกว่านี้ ไป๊.." สารวัตรทรงพลให้สัญญาณ

กับหน่วย S.W.A.T. ลงมือปฏิบัติการ

___________________________________________________________________________________________


10 : 55 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546

" แอน...แอน มาดูข่าวเร็ว คนร้ายปล้นธนาคารที่นางเลิ้ง เร๊ววว... "

ครูแอนละสายตา จากเด็ก ๆ ในห้องเด็กเล็กในเนอสเซอรี่ที่เธอกำลังดูแลอยู่ ทีวีมุมห้องที่ครูนีเปิดกำลังเสนอภาพ

รายงานสดจากมุมสูงของเฮลิคอปเตอร์ ภาพรถสายตรวจทีไฟกำลังลุกท่วม ความชุลมุนวุ่นวายบนถนนนางเลิ้ง

ปรากฏอยู่ตรงหน้า เออเนอะ..คนเราสมัยนี้ ปล้นกันกลางวันแสก ๆ นะ


เสียงร้องจ้าดังขึ้นเบื้องหลัง ครูแอนหันขวับกลับมาพร้อมทั้งเห็นเด็กน้อยที่กำลังนั่งร้องไห้ สองมือกุมที่หัว

คู่กรณียืนถือปืนเด็กเล่นอยู่ตรงหน้า....


" น้องภู ไปตีเพื่อนทำไมล่ะครับ เพื่อนเจ็บแล้วเห็นมั้ย...ขอโทษเพื่อนเดี๋ยวนี้นะครับ "


ครูแอนลูบหัวลูบหลังให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ก่อนจะหันมาทำตาดุใส่น้องภู

" ขอโทษนะ.. " น้องภู ทำหน้าเศร้า ๆ เด็กน้อยมองเพื่อนด้วยแววตาเสียใจ

" ทีหลังไม่ตีเพื่อนนะครับ...ไปตีเพื่อนทำไม " ครูแอนเอื้อมมือมาดึงปืนในมือน้องภู


เด็กน้อยกำด้ามปืนแน่น ขืนมือต้าน....ดวงตาจ้องมาที่หน้าครูแอน

" พ่อบอกว่า..ถ้าเข้าประชิดตัว ให้ตีด้วยพานท้ายตั้ง " แววตาเด็กน้อยจับจ้องที่ใบหน้าครูแอน ทำให้ครูแอนขนลุก

" น้องภู...ส่งปืนมาให้ครู " ครูแอนพยายามแกะปืนเด็กเล่นออกมาจากมือเด็กน้อยจนได้

น้ำตาน้อย ๆ ไหลลงมานองหน้า..........


" พ่อบอกว่า..ถ้าปืนหลุดจากมือ ก็เท่ากับว่า .... ตายแล้ว " เด็กน้อยเอ่ยปากท่ามกลางเสียงสะอื้น

ครูแอนจับจ้องมองเด็กชายอายุ 3 ขวบครึ่งที่ยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงหน้า ... อะไรกันนี่ พ่อของเด็กคนนี้

เป็นใครกัน...........ทำไมสอนลูกอย่างนี้


ภาพในจอทีวีที่มุมห้อง ภาพซูมจากมุมกล้องที่ซ่อนอยู่ในตึกแถวฝั่งตรงข้าม ปรากฏภาพชายคนหนึ่ง

สวมหมวกไหมพรมคลุมหน้า เห็นแต่ลูกตา ชุดเกราะกันกระสุนสีดำที่สวมใส่ กำลังสาดกระสุนปืน

ออกมาภายนอกธนาคาร

" พ่อ.....พ่อ...."

" อะไรนะน้องภู...ไหน..พ่อ " ครูแอนถามเด็นน้อยอย่างตื่นตระหนก ...


เด็กน้อยชี้ไปทีทีวี


" นั่นไง...พ่อ ภูจำได้ พ่อแน่ ๆ พ่อได้เล่นหนังด้วย " เด็กน้อยพูดทั้งน้ำตา ยิ้มน้อย ๆ ..

" นี....นี...ปิดทีวีเดี๋ยวนี้...ฉันบอกให้ปิด.....เร็ว ๆ สิ "

___________________________________________________________________________________________


11 : 35 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546

ควันจากแก๊สน้ำตา ปกคลุมไปทั้งธนาคาร ผมมองลอดหน้ากากที่ผมใส่ออกไปด้านนอก

ไม่เกิน 20 วินาที พวกมันต้องชารจ์เข้ามาในลักษณะแถวตอน ก่อนที่จะแยกสลับออกทางซ้ายขวา

ผมปลดแม๊กกาซีนออก เปลี่ยนเป็นแม๊กกาซีนที่ผมบรรจุลูกกระสุนหัวเจาะเกราะ


กูจะลากพวกมึงลงนรกไปกับกู......


เงาวูบวาบไหวปรากฏอยู่เบื้องหน้า ผมถลันวาบออกมาจากข้างเคาท์เตอร์ที่ปรุพรุนไปด้วยรอยกระสุน


อ๊ากกกกก.............................................

" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."


ผมกราดกระสุนเข้าใส่ คนแรกที่วิ่งเข้ามา มันล้มฮวบลง คนที่สองมันพุ่งออกทางซ้าย ผมหันปากกระบอกปืนตาม

ไอ้คนที่สามพุ่งออกทางขวา ผ่านเพื่อนมันคนแรกที่ล้มลง ผมเหนี่ยวไกยิงคนที่สองทางซ้ายก่อน มันทรุดฮวบลง

กระสุนจากปืนมันเจาะเข้าที่ช่องคอ หัวผมสะบัดหมุน นิ้วยังเหนี่ยวไก หันปืนหาไอ้คนที่สาม

กระสุนจากไอ้คนที่สี่ ที่ห้า ที่หก เจาะทะลวงเข้าตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อนที่ไอ้คนที่สามจะได้ยิงผมด้วยซ้ำ

อานุภาพของหัวกระสุนไฮดร้าช๊อก ที่ถูกยิงในระยะประชิด ทะลวงผ่านเกราะที่ผมใส่


ผมหมุนคว้างไปตามแรงกระสุน นิ้วยังเหนี่ยวไกปืนในมือ กระสุนเจาะหลอดนีออนบนเพดานร่วงกราวลงมา

ภาพรอบตัวดูเหมือนจะหมุนไป....หมุนไป


เหมือนตอนที่ผมนั่งม้าหมุนตอนที่ผมเป็นเด็ก.....

เหมือนผมได้ยินเสียงเด็กผู้ชายหัวเราะอยู่ข้าง ๆ .... เสียงหัวเราะใส ๆ ที่ผมคุ้นเคย


___________________________________________________________________________________________


12 : 55 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546
เฮียต่วยมองไปที่ทิวทัศน์ข้างทาง ใกล้จะเข้าเขตจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว อีกไม่นานก้อถึงอำเภอสวนผึ้ง

วิทยุยังรายงานข่าวการบุกเข้าปล้นธนาคารกสิกรไทยสาขานางเลิ้ง ที่จบลงด้วยการเข้าวิสามัญฆาตกรรม

คนร้ายโดยหน่วย S.W.A.T.

ป่านนี้ทั้งตำรวจ ทั้งนักข่าว คงจะรุมกันอยู่ที่นั่น


ไอ้ห่า....แม่งบ้าดีเดือดฉิบหาย

ป้ายบอกทางไปอำเภอสวนผึ้ง พุ่งผ่านไปเหนือหัว....อีกหน่อยก้อถึงแล้ว

สองข้างทางเริ่มไม่ค่อยมีรถสวนมา

รถปิ๊คอัพคันที่ตามหลังมา เปิดไฟกระพริบออกทางขวา ทำความเร็วจะแซงขึ้นไป

เฮียต่วยเหลือบตาไปดู

รูปากกระบอกปืนปรากฏขึ้นตรงหน้า ก่อนที่เสียงระเบิดกระสุนจะตามมา


" ปัง..ปัง...ปัง...................ปัง...ปัง...ปัง........ปัง....ปัง......."

สองนัดร้อยเข้าที่สีข้าง อีก 3 นัดเจาะทะลุจากหลังเบาะ เลือดกระเซ็นไปติดที่กระจกหน้า

เฮียต่วยรู้สึกว่ารถหมุนคว้าง ก่อนที่จะพลิกลงข้างทาง

สำนึกสุดท้าย...เหมือนได้ยินเสียงของชายคนนั้น

" เฮียต่วยไม่ต้องปอดแหกกลัวตายหรอก

ต่อให้ตาย เฮียต่วยก้อต้องไม่มาตายแถวนี้ "


___________________________________________________________________________________________


16 : 15 น. วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2546

" แม่มาแย้วว.... " เด็กน้อยวิ่งถลาเข้ากอดหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาที่เนสเซอรี่

ครูแอนเห็นเธอมาส่งลูกชายเธอทุกเช้า


" แม่..แม่ .. พ่อออกทีวีด้วย พ่อได้เล่นหนัง " เด็กน้อยบอกแม่อย่างลิงโลด

หยาดน้ำตาสองสายกลิ้งตัวลงมาจากใบหน้าหญิงสาว เด็กน้อยวิ่งมาหาครูแอน


" ครูคับ...ผมขอปืนผมคืนด้วยคับ "

ครูแอนส่งปืนให้เด็กน้อย พร้อมทั้งความรู้สึกโหวงเหวงไปทั้งอก น้ำตาเธอกำลังจะไหล


" แม่...กลับบ้านเราเนอะ ไปเล่นกับพ่อ พ่อจะได้สอนให้ผมรบ ยิงกัน ปุ๊ง..ปุ๊ง... "

เด็กน้อยย่อตัวลงส่ายปืนในมือไปมา ไฟแว๊บ ๆ กระพริบที่ปลายกระบอกปืน กับเสียงหัวเราะที่ไร้เดียงสา


ภาพเด็กน้อยจูงมือกันกับหญิงสาว กำลังเดินห่างออกไป...ครูแอนเริ่มมองเห็นมันไม่ชัด เพราะน้ำตา

แว่วเสียงเด็กน้อย แผ่วเบา....

" พ่อบอกว่า..ถ้าปืนหลุดจากมือ ก็เท่ากับว่า .... ตายแล้ว "




***
แรงบันดาลใจ..จาก รายการเจาะใจ ตอน " ชีวิตตำรวจเชื้อสายไทยในลอสแองเจลลิส "

Comment #1
บ.ก.หนวดรูปงาม (Not Member)
Posted @11 เม.ย.47 21.47 ip : 203...12

สำหรับ บ.ก.-

จ่าโจไม่ธรรมดาเลยกับวิธีการเล่าเรื่อง  การตัดไปตัดมาของฉากและสถานการณ์  หากมือใหม่จริงๆย่อมงุนงงต่อการตัด  แต่จ่าไม่


เรื่องเริ่มเข้มข้นเมื่อตอนที่เด็กชายภูบอกครูแอนว่า  หากปืนหลุดจากมือ.... และนี่ชวนให้ติดตามอย่างตื่นเต้นพร้อมทั้งกำสรดด้วยการคาดเดาว่าทำไมเด็กจึงพูดเช่นนั้น


แหละดูท่าจ่าจะเอาดีทางด้านขีดๆเขียนๆได้ไม่ยากเลย

Comment #2
อีแมะจิ๊ (Not Member)
Posted @12 เม.ย.47 14.23 ip : 202...175

เรื่องคงจะสนุกสำหรับผู้หญิงมากว่านี้ หากว่า แมะ ไม่ไปสนใจ คำว่า ผมเซถอยหลัง ยก M.16 A2 ขึ้นประทับบ่า...
ผมส่งหัวกระสุนขนาด .223 จาก M.16 A2
มี M.16 1 กระบอก ปืนพกขนาด 11 มม. 1 กระบอก
ไม่ชอบปืน ไม่ชอบให้พ่อถือปืน เพราะปืนทำให้หูแมะเกือบ ไม่ได้ยินหรือเรียกว่าเกือบหนวกไปข้างนึง เท่าทุกวันนี้ อีกอย่างเป็นโรคกลัวตำรวจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

แต่แมะชอบตอนนี้
"เศษชิ้นเนื้อ และเศษเครื่องแบบที่กระจุยออกทางด้านหลัง แววตาที่ตกตะลึง
ก่อนที่จะกระเด็นไปนอนจมกองเลือด...........................  " มันเห็นภาพดีค่ะ

Comment #3
จสอ.โจ (Not Member)
Posted @12 เม.ย.47 15.53 ip : 210...117

เรื่องนี้..เป็นงานเขียนยุคต้น ๆ ของผม

ความที่ชอบดูภาพยนต์ พอพล๊อตเรื่องนี้มันเกิดในสมอง ผมเลยเอาลักษณะของการตัดซีนหนังมาใช้

ถึงเวลาจะล่วงเลยมาแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่ย้อนกลับไปอ่าน ผมยังชอบความดิบของมันอยู่ดี เรื่องบางเรื่อง มันไม่จะเป็นต้องเนียนเสมอไปหรอก

ส่งลงประกวดเรื่องสั้นที่อัลเทอเนทีฟไรท์เตอร์ด้วยครับ รอคุณนิวัตพิจารณาอยู่ด้วยความหวัง

ถ้า บก. จะช่วยกรุณาเป็นแรงส่งด้วยรองเท้าเบอร์ 42 ขอแบบแรง ๆ จะเป็นพระคุณยิ่งครับ...

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 19 user(s)

User count is 2428429 person(s) and 10168892 hit(s) since 16 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).