" คุณไปงานวัดครั้งสุดท้าย..เมื่อไหร่ ? "
แรงอัดจากการระเบิดตัวจากเปลือก
ส่งเสียงคำรามเล็ก ๆ ราวกับจะเจ็บปวดเสียเต็มประดา
ยามที่กลีบขาวนวลใย เบ่งกายชูช่อ บานขาวสลอนดอกแล้ว .. ดอกเล่า
เสียงปุงปังยังดัวระมงต่อไปภายใต้วัตถุทรงกระบอกที่ส่ายตัวไปมาเหนือความร้อน
มัแตกต้วออก เมล็ดแล้ว.. เมล็ดเล่า
ประดุจจะ .. ทุรนทุราย
แต่ในสายตาของเด็กชาย
ดูมันจะสาดประกายแห่งความตื่นเต้น ที่เห็นเมล็ดที่ผลิผลของความเร่าร้อน ออกให้ยลโฉม
" พ่อ .. ข้าวโพดคั่ว พ่อ...ข้าวโพด "
ผมก้มลงลูบหัวเด็กชาย ดูเขาจะตื่นตาตื่นใจ แม้เพียงเห็นการเบ่งตัวของความอัดอั้นใต้เมล็ด
จินตนาการของเขาจะล่องลอยไปไกลถึงเพียงไหน
" เดี๋ยวพ่อพาไปดูลิเก นี่ .. ลิเกเด็กวัดสระแก้วด้วย "
เด็กชายดูกระตือรือล้นเป็นอย่างยิ่ง กับสิ่งที่ผมเล่าขาน .. ยามเมื่อเสียงระนาดโหมโรง
ประกายตาที่ดูตื่นตะลึงกับเสียงที่สดับ กับภาพที่เห็น
ยามเมื่อฆ้องวง ไล่คู่แปด ตามไลน์เมโลดี้ของระนาดเอก
ที่มีตะโพนเเล่นเสียงทุ้มรับ ..
ตึ่ง .. ป๊ะ .. ป๊ะ .. ป๊ะ .. ตึ่ง ...... ตึ่ง ...
เสียงรัวกราวจากปลายไม้แข็ง ไล่ผ่านลูกระนาด ออกสัญญาณโหมโรง
รับกับเสียงฆ้องวง ที่ระรัวผ่านพลิ้ว
เด็กชายตื่นตะลึง .. จนลืมเคี้ยวข้าวโพดคั่ว
ผมเห็นเขาขยับกาย ตามจังหวะของตะโพน ยักไหล่เล็ก ๆ ของเขาไปมา
ตึ่ง .. ป๊ะ .. ป๊ะ .. ป๊ะ .. ตึ่ง ...... ตึ่ง ...
จินตนาการของเขาจะล่องลอยไปไกลถึงเพียงไหน
มันจะเท่า .. ตอนที่ผมอยู่บนเวทีมั้ย .. ตอนที่หมู่เครื่องสาย ถักทอสำเนียงอันอิดออด
แห่งมหาดุริยกรรมของมัธยมศึกษา
งานที่ชุมนุมเด็กชายหญิงกว่าพันคน บนเวทีโรงละครแห่งชาติ
งานที่สรรพเสียงแห่งดุริยกรรมไทย ไหลซึมไปทั่วหัวใจพวกเขา
" พ่อ .. สนุกจังเลย "
ผมหันไปหารอยยิ้มน้อย ๆ ..
ด้วยความหวัง ....