ฉันยกชาขึ้นจิบเพื่อลิ้มรสขมของความเสียดาย

by อีแมะจิ๊ @5 เม.ย.47 22.12 ( IP : 203...1 ) | Tags : กระดานข่าว

ฉันยกชาขึ้นจิบเพื่อลิ้มรสขมของความเสียดาย ฉันคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจกลับมาหา ฉันการพบกันในครั้งแรกทำให้ฉันคิดเช่นนั้น  ฉันอาจเบิกบานใจอยู่บ้าง หากแต่ไม่ได้คิด รักเขา  ความรักเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับฉัน ... ฉันชอบความสบาย และเบื่อความ ลุ่มหลงที่ยากที่จะบังคับใจตนเอง  และถ้าบังคับใจตัวเองไม่ได้แล้ว ยังทำให้อีกฝ่ายเบื่อ ระอาและชิงชังไปในที่สุด ... ความรักเป็นสิ่งที่คาดเดายาก  ฉันยินดีที่จะล่องลอยไปวัน ๆ
โดยไม่คิดว่าใครจะจดจำฉันไว้    โลกกว้าง ๆ ที่มีที่ไปมากมาย สอนให้ฉันคิดเช่นนี้

" คุณอยากจะกลับมาอีกมั้ย "    ฉันถามอย่างไม่สนใจคำตอบ

"คุณดูแปลกตาจากผู้หญิงคนอื่นนะ ... ผมไม่ได้หมายถึงรูปร่างหน้าตานะ
  ผมหมายถึงความคิดน่ะ"

"คุณอยากจะกลับมาอีกมั้ย "  ฉันพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย และมองตาเขาอย่างเลื่อนลอย

"กลับซิ ... ผมยังรู้สึกพอใจคุณอยู่ "

"หากฉันทำให้คุณไม่พอใจ ... ฉันก็ยังอยู่ในความทรงจำของคุณอยู่ดี "  ฉันแกล้งพูดเพื่อ ให้เขาคิดว่าเขาหนีฉันไม่พ้น ทั้ง ๆที่ความจริง เขาอาจไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายนัก

"คุณต่างหากต้องทำตัว ดี ๆ คุณถึงจะอยู่ในความทรงจำของผม "

"ฉันว่า ... คุณต่างหากที่ควรจะเลือกจำสิ่งดี ๆ ของฉัน "  ฉันเถียงอย่างเอาชนะ

" .................... "

" ..................... "

" เวลาผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกัน สองต่อสอง ...... "  เขาทำหน้าเหมือนผู้ชายเจ้าชู้ทั่วไป
  ความต้องการของเขาหลุดออกมาจากสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดต่อ

" โลกก็ไร้ความหมาย ... ผมจะไม่สนเลยว่าผมจะอยู่ตรงไหน บนโลกรู้แค่ขอที่ลับตาคนหน่อย   ก็พอ  ... ฉันทวนคำพูด

" โลกก็ไร้ความหมาย ... เหลือแต่ตัณหา "  เขาขยับตัวเข้ามาใกล้วเสียงแผ่ว ๆ ของเขากระซิบ   ที่ข้างหูว่า

" เรากำลังอยู่กันสองต่อสอง "  เป็นคำพูดเพื่อบอกในทีว่าเขากำลังต้องการจัดการกับฉัน

" คุณไม่จำเป็นต้องขออนุญาติฉัน "

" รู้ดีจังนะ "  เขาหัวเราะคำพูดฉัน และเฉไฉไปว่า

" ทำไมคุณ ตัดผมทิ้งไป "  เขาถามแก้เขินใจขณะที่กำลังจะทำอะไรก็ได้กับร่างกายฉัน

" มันคนละเรื่องกับสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้นะคะ "
        ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาลุกขึ้นจากเตียงและถามหากาแฟฉันชี้ให้เขาเห็นว่ามุมซ้ายมือ ข้างตู้เย็นคือสิ่งที่เขาต้องการ  เราคุยกันได้พักนึง และจูบลากันโดยไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้เลย ในวันต่อมาฉันไปทำงานตามปกติ มีบางช่วงของเวลางานที่แว๊บนึกถึงเขาและจางหายไปอย่าง ไร้ความรู้สึก ฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการทำงานและการเดินทาง จึงหลับไปเหมือน หมดสติ และตื่นมาทำกิจกรรมเช่นเดิมที่เมื่อวานปฎิบัติเช่นนี้อยู่ 1 อาทิตย์จนครบรอบวันเสาร์ ที่เขามาเมื่ออาทิตย์ก่อน

          เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็รู้ทันทีว่าเป็นเขา ฉันยิ้มเปิดเผยมากเกินไปอย่างไม่รู้สึกตัว และหยุดยิ้มเมื่อรู้สึกว่าไม่ควรดีใจที่เขามา แต่สิ่งที่ฉันทำมันเก็บไม่อยู่จนเขาพูดว่า

" ดีใจมากขนาดนี้เลยเหรอที่เห็นผม "

" เปล่า ฉันกำลังสบายใจอะไรบางเรื่องอยู่ ... ไม่เกี่ยวอะไรกะคุณ ซะหน่อย "

ฉันพูดลอยหน้าลอยตา

"เหรอ ... ปากแข็ง "  เขาพูดแล้วก็ทำหน้าล้อเลียน ฉันรู้สึกดีใจจริง ๆ แต่ไม่กล้าแสดงออกมาก

          อาจเป็นเพราะครั้งนึง ขณะที่ฉันอยู่กับเพื่อน ๆ ฉันรู้สึกมีความสุขมากในวันนั้น ได้หัวเราะได้ยิ้ม แต่มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มนึงกลับมองฉันที่กำลังหัวเราะว่าเป็นการยั่วยวน
ฉันจึงคิดว่า ผู้ชายเวลามองผู้หญิงมักใช้สายตาอีกแบบนึง ... ฉันก็กลัวเขาจะเข้าใจเช่นนั้น

ฉันคุยไม่เก่ง แต่เขาเป็นคนที่มีรายละเอียดในชีวิตมากมายถึงสรรหาสารพัน  อะไรต่อมิอะไร พูดคุยได้ทั้งวัน แถมยังมีเกมส์ มีคำถาม อะไรอีกมากมาย มาเล่นโดยที่เราสามารถลืมเรื่อง
Sex กันไปเลยในวันนั้น
เขามาอย่างสุภาพ และกลับอย่างสุภาพผิดกับวันแรกที่เจอกัน มันเลยทำให้ฉันรู้สึกโหยหา
และใคร่รู้ว่าเขาจะมาในรูปแบบใดอีก

ผิดคาด เขาหายไป

แต่นั่นไม่ได้ทำให้ให้ฉันทุรนทุราย เพียงแต่เหงา ๆ ในเวลาว่างอย่างไม่เคยเป็น

ท่วงทำนองของเพลงพลิ้วไหวซึมซ่านสู่ฟ้ากว้างยามค่ำคืน รอบ ๆ ตัวฉันมีเพียงอากาศจนต้อง เดินออกไปตรงที่ระเบียง มองไปจึงพบสีสันของค่ำคืนที่เข้มข้นขึ้น ผู้คนที่ด้านล่างของตึกเดินกัน ขวักไขว่ใครจะเห็นแววตารอคอยของฉันในความมืดนั้นได้

"คุณคงลืมฉันไปแล้ว "

ฉันพึมพรำอยู่ในลำคอ ทุกอย่างเงียบไปแล้ว ครึ่งปีผ่านไปโดยที่ฉันไม่ติดต่อเขาเพียงแค่เขา ไม่ติดต่อมาฉันจึงไม่ติดต่อไป เรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความพยายามฉันก็ไม่คิดที่จะทำมัน
ฉันกลับคิดว่าเขาจะกลับมาถ้าเขาพอใจ

ในคืนนั้นฉันนอนหลับฝันไปว่า  ...ใครซักคนที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์ ไร้เดียงสากำลังจ้องตาฉันอยู่
เด็กชายคนนั้นร้องเพลงเบา ๆ ในลำคอ แต่ฉันทนไม่ได้กับการจ้องมองกันนาน ๆ แบบนี้จึงรีบ ยิ้มออกมาและหลบสายตาเสีย  ... ความรู้สึกของตัวเองเหมือนได้กลับไปเป็นสาวแรกรุ่นอีกครั้ง แต่ในฝันฉันกลับเหลือบไปเห็นตัวเองในกระจก ... ฉันกับต้องชาไปทั้งตัวเพราะจริง ๆ ฉันคือ ผู้หญิงแก่อายุราว 70-80 ปีได้ จากนั้นก็หันหลังจ้ำอ้าวออกมาและไม่กล้าหันกลับไปมองอีก
.... มันเป็นฝันที่โหดร้ายเกินจะรับได้จริง ๆ ...

" ฮาโหล " ฉันรับสายแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น

" คอยผมหน่อย อีก 15 นาทีเจอกัน ... คิดถึงจัง "

ฉันวางสาย หลับต่อเพราะเหตุการณ์มันเหมือนไม่ชัดเจนจนไม่น่าสนใจ อีก 15 นาทีต่อมา ฉันก็ได้รู้ว่ามันเรื่องจริง ความง่วง ๆ งง ๆ ทำให้ฉันตื่นเต้นไม่ขึ้น งง ๆ กับลักษณะที่เปลี่ยนไป ของเขา ๆ ดูภูมิฐานขึ้นเป็นกอง  แต่ความที่ฉันเป็นคนไม่ค่อยพูด ฉันก็ยังเก็บความสงสัยไว้ในใจ มากมาย หรืออาจจะรู้ว่าสิ่งที่ต้องการรู้นั้น จะได้ฟังจากปากเขาเองโดยไม่ต้องถาม ฉันเพียงแต่ ยิ้มพยักหน้าไปเรื่อยๆ ในขณะที่เขาเล่าเรื่องในช่วงเวลาที่หายไป

วันเวลาที่ผ่านมามันดูนานกว่าจะผ่านไปวัน ๆ  ... เหงา ๆ ซึม ๆ แห้ง ๆ เหมือนใบไม้บนต้นไม้ ใหญ่ที่ขาดน้ำ แห้งกรอบแทบจะแตกละเอียดเป็นผง .... แต่ 3 วันมานี่ ที่ฉันอยู่กับเขากลับเร็ว เหมือนแค่คืนเดียว .... เขากำลังจากฉันไปอีกแล้วววววววว      ฉันบอกเขาเพียงแค่ว่า

" โชคดีนะ "  เขาก็พูดเพียงว่า

" ดูแลตัวเองดี ๆ นะ "  ฉันไม่ได้ถามว่า

"คุณจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ?" "คุณรักฉันมั้ย ? "
"คุณไม่อยากโทรหาฉันบ้างเหรอ ? "

เพราะฉันมั่วแต่คิดว่า    .... ความรักเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับฉัน ...

แต่ก็ยังคิดว่าสักวันนึงเขาอาจกลับมาหา

ฉันยกชาขึ้นจิบเพื่อลิ้มรสความขมของความเสียดาย และความร้อนของชาทำให้ ฉันรู้สึกตัวและดำเนินชีวิตเพื่อรอภาระที่หนักเกินไปสำหรับฉัน

Comment #1
บ.ก.หนวดรูปงาม (Not Member)
Posted @6 เม.ย.47 20.32 ip : 203...8

เป็นมุมมองของความรักอีกมุมมอง  ไม่หวานแหววแต่ก็ไม่หนักหน่วงนัก  เป็นการพยายามบอกทัศนะของความรักไว้อย่างบรรจง  ค่อยๆเปิดเผยความรู้สึกรักอันตรงกันข้ามกับเมื่อเริ่มเรื่อง

อิแมะจิ๊ยังกุมภาษาไม่ดีเท่าไหร่  และการจัดเรียงลำดับความคิดก็ยังดูเหมือนจะค่อนข้างสับสนในเหตุการณ์อยู่  แต่เด่นตรงสำนวนที่อิแมะจิ๊ต้องการจะสื่อนัยยะอะไรบางอย่างที่ได้ซ่อนเร้นเอาไว้  รอผู้อ่านหามันเจอ

ไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับเรื่องนี้  ถ้าเป็นเรื่องแรกของอิแมะจิ๊

Comment #2
ลูกแมว (Not Member)
Posted @8 เม.ย.47 6.39 ip : 169...1

ใบชาเอามาเคี้ยวเล่นก็หอมๆอร่อยดีนะฮะ

Comment #3
อีแมะจิ๊ (Not Member)
Posted @8 เม.ย.47 12.59 ip : 202...49

ไม่ไหวล่ะค่ะ กลัวท้องผูก

Comment #4
อัญชา (Not Member)
Posted @11 เม.ย.47 12.25 ip : 202...36

ตามมาชื่นชมค่ะ

อ่านแล้วอารมณ์ที่สื่อออกมาในงานชิ้นนี้นะคะ  :d

Comment #5
Posted @4 ธ.ค.49 6.48 ip : 203...234

อ่านงานของพี่อีแมะจี๊ ชิ้นนี้  กับงานปัจจุบัน (ที่ไทมุง)
อืมมมมม....

ชอบ...ชื่นชม ติดตามอ่านอยู่เสมอค่ะ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 27 user(s)

User count is 2428399 person(s) and 10168688 hit(s) since 16 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).