[ ............ เมื่อผมรูดบัตรเครดิต ............ ]
มันเป็นสิ่งที่น่าจะเกะกะที่สุด ในกระเป๋าตังค์ของผม ..
พลาสติกแผ่นบาง หนาประมาณ 1 มิลลิเมตร มีแถบแม่เหล็กคาดอยู่ด้านหลัง
มีชื่อของผมเป็นภาษาอังกฤษเป็นตัวนูนอยู่ด้านหน้า
ที่มุมบนขวายังกำกับตราสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธ์ ที่เป็นเครื่องหมาย
ให้เงินในบัญชีคุณลดลงฮวบฮาบ โดยมีอัตตราดอกเบี้ยกระโดดเกาะหลังมัน
ไปเหมือนลูกลิงยังไม่อดนม ..
คนอื่นเขาเรียกมันว่า " บัตรเครดิต "
แต่ผมเรียกมันว่า " หนี้สินเคลื่อนที่ "
มันตามคุณไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อให้คุณมั่นใจว่า ค่าเหล้าคืนนี้ รวมทั้งค่ากระหรี่สุดหรู
ที่ดูดน้ำอสุจิจากควยคุณในราคา 2000 บาทต่อครั้ง
คุณจะได้รับค่าใช้จ่ายผ่านมัน โดยไม่มีข้อแม้ ...
มันคงจะดีกว่าการเข้าไปแดกฟรีที่ร้านข้าวต้ม แล้วบอกว่าเฮียเจ้าของร้านแบบหน้าซื่อ ๆ ว่า
" ตังค์ผมไม่พอครับ "
จากนั้นก็แดกส้นตีนอีกสัก 2 คู่ พอให้ปากแตกเล็ก ๆ กับรอยแยกที่หนังหัว
เมื่อรวมค่าเย็บแผล ค่ายาแก้อักเสบ บวกความปวดร้าวแล้ว
ผมเลือกชักบัตรเครดิต ..
ถึงแม้ว่า ผมจะรู้ซึ้ง ถึงการรีดนาทาเร้น แรงงานอันเหนื่อยยากของผมไปเป็นค่าดอกเบี้ยมหาโหด
ที่ติดตามมากระชากความคิดว่า " วันนั้น .. กูไม่น่าเลย " ทุกสิ้นเดือน
ผสมกับเสียงก้องกังวานที่แยงหูโทรศัพท์ ทั้งที่ทำงาน ทั้งโทรศัพท์มือถือ
เตือนให้ตระหนักถึงความเป็นผู้มีการศึกษาอย่างดี มีหน้าที่การงานมั่นคง
ด้วยคำว่า
" คุณเป็นลูกหนี้ที่ดีมาตลอดนะคะ ไม่น่าพลาดการชำระงวดนี้เลย ทำไมคะ .. มีปัญหาอะไร ยังไงก็น่าจะรีบไปชำระนะคะ "
จะให้กูบอกเรอะ .. ว่าแดกมาม่ามา 10 วันแล้ว ค่าคอมมิสชั่นที่ว่าจะได้ นายเขายังไม่จ่ายกู
ไม่งั้นกูก็ไม่มาพยักหน้าหงึก ๆ ให้มึงใช้วาจาอันสุภาพ เหยียดหยามกูแบบนี้หรอก
เดือนแล้ว .. เดือนเล่า
ที่สภาวะที่ซ้ำซาก เดินทางผ่านมาก่นด่าผม แล้วจากไป เมื่อผมไปจ่าย ..
สิ้นปีนี้ ดูเหมือนจะเป็นโอกาศดี นายผมมีแมงสาบมาเกาะส้นตีนแก
แกดีดมันไปติดข้างฝา ก่อนจะถอดรองเท้าหนังมันวาว ฟาดมันอีก 3 ครั้งซ้อน ๆ ..
ตอนที่แกก้มมองร่างแหลกเหลวจากแรงปะทะของส้นรองเท้าที่ทำให้ขาทั้ง 6 ข้างแทบจะแยกจากลำตัวสีน้ำตาล
ส่วนขาว ๆ ปนสีครีมของเลือดเนื้อแมงสาบ คงสะกิดใจบางอย่าง
ที่บริษัทเลยปรับเงินเดือน ...
เหล่าพนักงานทั้งหัวหงอกหัวดำ เฮโลสาระพากันอย่างลิงโลด
ในขณะที่บอส ..
ยังพยายามเช็ดซากบางส่วนของไอ้แมงตัวนั้นกับพรมเช็ดเท้า ..
ผมโอนเงินที่ยังค้างทั้งหมด กับบริษัทบัตรเครดิต ..
สิ้นสุดกันที เสียงที่ไม่อยากฟัง
ใบแจ้งหนี้ที่ไม่อยากเห็น ..
ผมแจ้งเปิดบัญชี ก่อนจะพลิกบัตรพลาสติกใบเล็ก ๆ ในมือขึ้นมามองอย่างไร้ความหมาย
ไม่ต้องใช้มันแล้ว ..
ไม่หรอกมั้ง อาจจะต้องใช้ เก็บไว้ก่อนดีกว่า ..
ผมเดินเข้าร้านฮาร์ดแวร์ ซื้อกระดาษทรายขัดเหล็กอย่างละเอียด 1 ใบ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
พี่เอ ล้มลงตามแรงฟาดของขวดเบียร์สิงห์ ..
ผมยังนั่งมองอย่างเฉย ๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋าตังค์ใบเก่า ๆ
ผมดึงบัตรเครดิตใบนั้นออกมาจากกระเป๋า สอดมันไว้ที่กระเป๋าหลังกางเกง
เป็นจังหวะเดียวกับที่พวกมันส่งส้นตีนเข้าหาใบหน้าพี่เอ .. อีกที
บรรยากาศที่อลหม่านของตอนนี้ ลบความรู้สึกสนุกสนานที่เพิ่งผ่านไปอย่างไม่หวนกลับ
เราเพิ่มานั่งเฮฮา กับเงินเดือนที่เพิ่ม โบนัสที่ได้ ..
แล้วนี่มันอะไร ..
ขวดลอยไปมาข้ามหัวผมไปอย่างเฉียดฉิว เสียงก่นด่า เสียงใบหน้าปะทะส้นตีน
ผั่ว .. ผั่ว ......
ผมยังนั่งมองเฉย ๆ ..
ผมไม่ได้เป็นคนเปิดเรื่องนี่หว่า จะชกกัน ตีกบาลกัน พวกมึงก็ตีกันไปดิ ไม่เกี่ยวกับกูสักหน่อย
แต่พี่เอ .. เป็นยิ่งกว่าพี่
แกรักลูกน้อง .. แกเอาตัวออกหน้าทุกครั้งที่มีเรื่องในบริษัท
ผมยังนั่งมอง อีกทีนึงที่ถีบใส้หน้าพี่เอ ..
แกหงายตามส้นตีน มาพับที่ข้างผม
ผมก้มหน้าลงไป .. ชิดหูแก
" พี่ .. ผมจะพาพี่ออกไปแล้วนะ พี่อั้นใจนิดนึง แล้ววิ่งตามผมให้เร็วนะ "
พี่เอ พยักหน้าช้า ๆ จังหวะเดียวกับที่มือข้างนั้นกระชากคอเสื้อของผมขึ้น
ผมพลิกบัตรเครดิต ปาดผ่านหลอดเลือดใหญ่ที่ลำคอ
มันเป็นการเดินทางที่แผ่วพริ้ว .. แต่ทรงพลัง
แม่งทรุดฮวบ สองมือกดที่รอยแผล สีแดงสดทะลักทะลวงผ่านง่ามนิ้วมันออกมาอย่างต่อเนื่อง
ผมลากพี่เอลุกขึ้น .. ก่อนจะลากแกวิ่งออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
... ผมต้องใช้บัตรเครดิตอีกครั้งแล้วสิเนี่ย ...
ส่งใบแจ้งหนี้มาเก็บเงินกูก็แล้วกัน ..