นิราศรถไฟใต้ดิน
นิราศร้างห่างไกลให้ใจหาย
โศกกำซาบแสบซ้ำช้ำใจชาย
ถูกคนสวยทำร้ายตายทั้งเป็น
เชษฐภัทรประพันธ์เพลงบรรเลงนิราศ
ป่าวประกาศรักโสโครกให้โลกเห็น
คมวาทะเฉือนเชือดหญิงเลือดเย็น
บวงสรวงเซ่นศักดิ์ศรีกวีไทย
รถออกจากหัวลำโพงเจ็ดโมงเช้า
แสนปวดร้าวอ่อนล้าน้ำตาไหล
หรือเธอมีแต่ตัวไร้หัวใจ
พ้อคนสวยหน้าใสหญิงใจดำ
ถึงสามย่านปากนางช่างสามหาว
คลุ้งกลิ่นคาวเธอด่าดูน่าขำ
หรือพ่อแม่สอนไว้ไม่เคยจำ
ไม่ไตร่ตรองลองทำย้ำให้ดี
หากสำเร็จความใคร่ใส่คำพูด
ปากเป็นตูดพูดเป็นตดหมดราศี
ก่อนจะด่าพวกโรคจิตคิดอีกที
มันจะตามราวีที่อยากเตือน
ถึงสีลมสมแล้วที่แคล้วคลาด
ไหลเป็นหยาดหยดเลือดเธอเชือดเฉือน
ร้อยลมพิษลิ้นพร่ำคำบิดเบือน
เจ็บแสบเหมือน ลมสีที่เสียดใจ
ลุมพีนีกิ๊กขวัญตาเล่นหมาหมู่
เป็นแค่ชู้คิดรุมชกสกปรกไหม
ฉันจึงสั่งสอนด้วยเชิงมวยไทย
รีบวิ่งหนีก่อนใคร อ้าว&ไอ้ลิง
สุดจะทนท่าทีที่ชาเฉย
ถึงคลองเตยต้องร่ำไห้เพราะใจหญิง
อกเอ๋ยสิ้นแหล่งพักไร้หลักพิง
คนสวยทิ้งให้ช้ำ คงหนำใจ
น้ำตารินไหลพร่างอย่างเงียบเงียบ
มันเย็นเฉียบเหมือนเชือดให้เลือดไหล
เหมือนเหว่ว้าอ้างว้างหมดทางไป
สิ้นเยื่อใยพิศวาทขาดจากกัน
ศูนย์ประชุมแห่งชาติ คงชาติหน้า
จึงอาจคว้าดวงดาวสาวสวรรค์
แห้วครั้งแล้วครั้งเล่าเขาโจษจัน
แทนรางวัลความจริงใจได้จากเธอ
นัดเธอที่สุขุมวิทคิดแล้วหน่าย
รอเกือบตายเกือบบ้ามาแล้วเก้อ
ความสุขุมสิ้นค่ามาไม่เจอ
บวงสรวงเซ่นความเซ่อ เห้อ&ไอ้ฟาย
เพชรบุรี คำหวานเคยหว่านไว้
เธอบอกว่า เสี่ยว ไป ใช้ไม่ได้
เพชรกวีศรีสวรรค์พรรณราย
ไร้คุณค่าความหมายคล้ายซากตม
เธอหวังเพียงเปลือกหล่อพ่อเศรษฐี
ฐานะดีเจ้าชู้ดูเหมาะสม
เพื่อควงออกนอกบ้านงานสังคม
ให้คนชมความเขลาเบาปัญญา
ทั้งที่มันไม่ได้รักเธอสักนิด
มันแค่คิดควงไว้ได้อวดหมา
ฉันหวังดีอย่างเพื่อนจึงเตือนมา
กลับโดนด่า ว่าเฉือก เอื๊อก!&เจ็บใจ
พระรามเก้ารักเราไม่ก้าวหน้า
เพราะดันทำตัวซ่าส์น่าหมั่นไส้
ยึดถือความเป็นฉัน มั่น เกินไป
สาวคนไหนเขาก็ชังรังเกียจกัน
จึงต้องเฟ้กหน้าหล่อทำตอแหล
ล้างผลาญเงินพ่อแม่ตามแฟชั่น
ขับปอร์เช่เบ่งแหลกแดกน้ำมัน
ตามตูดเทรนด์ปัจจุบันให้ทันคน
ศูนย์วัฒนธรรม ธรรมใดทำใจเศร้า
ยั่วยวนเย้าสับปลับยังสับสน
ทำสำเนียงเสียงเสน่ห์ซ่อนเล่ห์กล
หญิงนักปล้นปลิ้นปล้อนหลอนหลอกลวง
ถึงห้วยขวางกรรมซัดเข้าขัดขวาง
ปิดหนทางใจเอยเคยห่วงหวง
เมื่อเธอนั้นปิดใจไม่อยากควง
ฉันจึงตวงน้ำตาบอกลานาง
สุทธิสารสารนี้บริสุทธิ์
แต่งกลอนชุดช้ำใจใครทิ้งขว้าง
ชีวิตจึงอาภัพฝันอับปาง
หมดหนทางเถื่อนท่าจะอาทร
รัชดาภิเษก เสกกลอนกล่อม
เธอในอ้อมอก(ไอ้)ชู้คู่เคียงหมอน
เสกแสงดาวกล่อมเดือนเป็นเพื่อนนอน
เสกสายลมออดอ้อนก่อนนิทรา
เสกสายรุ้งที่ระหว่างทางช้างเผือก
เป็นทางเลือกให้ยิ้มรับกับหมอกฝ้า
เสกหิ่งห้อยสดใสให้บินมา
บอกเธอจ๋าในฝัน จั๋นยักเธอ
น้ำมะพร้าวล้างผีที่ลาดพร้าว
ภาพปวดร้าวตอกย้ำจำเสมอ
เอ็มเอสเอ็นเธอโชว์ไว้ได้เจอะเจอ
โกรธแทบเพ้อกับภาพบาปตราตรึง
ภาพหัวใจของฉันกอด มัน อยู่
ช็อกสุดกู่วิปริตพิษหวงหึง
ใจระบมเสียกระบวนอกอวลอึง
นั่งนิ่งอึ้งร้องไม่ออกบอกไม่เป็น
พหลโยธินสิ้นท่าหน้าถลอก
แผลกลับกลอกหลอกลวงบวงสรวงเซ่น
กี่ หน แล้วอับอายตายทั้งเป็น
ไม่เคยเว้น กลิ่นแห้ว แววอาวรณ์
จตุจักรฉันจึงได้รู้จัก
เสียงอกหัก โหยหาเหมือนหมาหอน
มันไล่เห่า รากแห้วแล้วก็นอน
แล้วกี่ตื่นมาแต่งกลอนอ้อนผู้คน
แต่มันจะย่อท้อก็หาไม่
หมั่นสร้างกำลังใจใช้ฝึกฝน
เพื่อชีวิตสดสวยด้วยตัวตน
ช่วยเหลือผู้ทุกข์ทนเป็นคนดี
เพื่อจะสะสมแสง กำแพงเพชร
สูตรสำเร็จสู่ทางสร้างศักดิ์ศรี
เผชิญหน้าท้าสังคมโสมมนี้
ด้วยวิถีบัณฑิตคิดคำนวณ
ใจเซ่อซื่อเธอทิ้งขว้างที่ บางซื่อ
เก็บไว้ซื้อคืนวันอันผันผวน
ประสบการณ์อ่านใจใครเรรวน
ใครแปรปรวนปลิ้นปล้อนหลอนหลอกเป็น
เชษฐภัทรประพันธ์เพลงบรรเลงนิราศ
ป่าวประกาศความโสโครกจนโลกเหม็น
ถ้อยวาทะเฉือนเชือดหญิงเลือดเย็น
บวงสรวงเซ่นศักดิ์ศรีกวีเอย