“เอาน่าๆ… แลกกันน๊ะ…” (เรื่องอ่านเล่นแก้เซ็ง…)
บ่ายแก่ๆ หน้าร้อน ที่ร้อนจนตับแทบสะดุ้ง ใกล้เวลาเตรียมตัวเข้าเวรกะดึก จ่าโตพยายามเร่งมือซ่อมประตูตู้กับข้าวใบเก่าในครัวให้เสร็จ ด้วยความขี้เกียจฟังเสียงบ่นของภรรยาสุดที่รัก เสียงร้องเพลงของเด็กดังแว่วออกมาจากห้องนั่งเล่นข้างๆ ที่จริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าห้องสารพัดประโยชน์มากว่า แฟลตตำรวจก็แบบนี้แหละครับ กินนอน รับแขก หรือนั่งเล่นก็ห้องเดียวกัน เด็กน้อยดูท่าทางจะสนุกกับการวาดรูปด้วยดินสอสีไม้ จนแทบไม่ได้ยินเสียงตอกปังๆของพ่อในครัวเลย&
อืมม์&ต้องเขียนบากตำแหน่งบนวงกบตู้ไม้ ก่อนเปลี่ยนบานพับใหม่& ด้วยปากกาหัวกุดๆที่แกมีอยู่ เขียนเท่าไรก็มองไม่ชัด มองไปทางซ้ายทางขวา หาอะไรมาขีดเขียนให้พอเห็นได้ดีเนี่ย จ่าโตนุ่งผ้าขาวม้าสีจืดจางตามกาลเวลา เดินอวดพุงออกไปที่ห้องนั่งเล่น ก้มลงมองลูกชายสุดที่รักด้วยความเอ็นดู&
เหลือบไปเห็นดินสอสีไม้หลายแท่ง ที่ดูแล้วน่าจะใช้ได้&
ไม่รอช้าจ่าโตเอ่ยปากทันที วาดอะไรอยู่ เดี๋ยวพ่อขอยืมสีแท่งนึงนะลูกนะ& ด้วยอารมณ์ของศิลปินน้อยที่ถูกกวนใจ น้องปอสวนกลับทันที อะไรกัน!!!&ไม่อาวๆ& สีของปอ& วู้ยยย& จะอะไรกันนักหนาคุณลูกบังเกิดเกล้า เอ้างั้นเอาปากกาของพ่อไปแทน& จ่าโตส่ายหน้าไปมาแบบพยายามเข้าใจอารมณ์เด็ก&
เอาน่าๆ& แลกกันน๊ะ&
พูดจบ ไม่รอฟังเสียงอนุญาตจากลูกชายตัวน้อย จ่าโตโยนปากกาหัวกุดลงในกล่องสีไม้หลากหลายสี หยิบดินสอสีเหมาะมือแท่งหนึ่ง ติดมือกลับเข้าไปซ่อมงานต่อในครัวทันที
&ปอมองพ่อที่หันหลังเดินไป& แบบพยายามเข้าใจ&
ซ่อมเสร็จเสียที ต่อไปนี้ไม่ต้องฟังเสียงบ่นจากคุณเธอ จ่าโตรีบแต่งตัว มือคว้าเข็มขัด และซองปืน Beretta .357 สีดำเงาวับ คาดเอวอย่างลวกๆ เดินออกมาลูบหัวศิลปินน้อยก่อนที่จะเดินออกไปเข้าเวรกะดึกที่แสนจะน่าเบื่อ&
บ่ายแก่ๆวันต่อมา จ่าโตตื่นขึ้นมาแบบยังมึนๆง่วงๆ จากเวรกะดึกตลอดเดือน ช่วงนี้นโยบายกำจัดมือปืนคนดัง ทำเอาแกหลับนอนน้อยลง เป็นธรรมดาตามคำสั่งจากเบื้องบน ประมาณว่าเข้าฤดูไล่ล่า จับตายมือปืนเก่าใหม่ รองรับหมายกำหนดการโยกย้ายตำแหน่งนาย&
โป้งๆ& โตขึ้นปอจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อ เป็นตำรวจจับผู้ร้าย& โป้งๆๆ& เสียงลูกชายจอมยุ่งถือปืนพลาสติกสีดำวาว วิ่งหลบผู้ร้ายในจินตนาการอยู่ในห้องนั่งเล่น เหลือบเห็นจ่าโตกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ น้องปอรีบเอ่ยปากถามทันที พ่อคับๆๆ& ปอขอยืมปืนของพ่อเอาไปเล่นกับพี่โต้งห้องข้างๆได้มั๊ยคับ& ด้วยความรีบเร่งที่จะต้องไปเข้าเวร จ่าโตตอบแบบไม่ได้คิดอะไร อะไรกัน!!!& ไม่เอาๆ ปืนที่พ่อซื้อให้ปอก็เหมือนกันนี่ลูก& พูดเสร็จก็เดินไปเข้าห้องน้ำห้องเล็กๆในแฟลตแคบ จ่าโตส่ายหน้าไปมาแบบพยายามเข้าใจอารมณ์เด็ก&
&ปอมองพ่อที่หันหลังเดินไป แบบพยายามเข้าใจ&
จ่าโตรีบแต่งตัว มือคว้าเข็มขัด และซองปืนสีดำเงาวับ คาดเอวอย่างลวกๆ เดินออกมาลูบหัวตัวแสบตัวน้อยก่อนที่จะเดินออกไปเข้าเวรกะดึกที่แสนจะน่าเบื่อ&
&&&&&&&&&&&&&&..
&&&&&&&&&&&&&&..
ดึกขนาดนี้แล้ว คำสั่งที่เพิ่งได้รับ ทำเอาจ่าโตเตรียมตัวแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่เป็นไร เป็นแค่คำสั่งเข้าคุมพื้นที่สนับสนุนหน่วยปราบปราม 3 ทีมที่เข้า จับกุม สองมือปืนหนีตาย ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะเรียกว่า จับตาย สองมือปืนหนีเป็น ซะมากว่า&
จ่าโตกับคู่หู เข้าไปซุ่มรออยู่มุมตึกด้านหลังโรงงานเก่าๆย่านพระประแดง ทีมล่าวิสามัญฆาตกรรม 3 ชุดเริ่มงานตามหมายกำหนดการทันที เสียงคำสั่งของนายยังก้องอยู่ในหัว ล้อมพวกมันไว้สามทางแบบนี้ ถ้ายังรอดออกไปได้ ก็ต้องถือว่าพวกมันมีปีกแล้วละว่ะ ฝากทางเอ็งด้วยนะไอ้โต ด่านที่สี่ เผื่อมันมีปีก เอ็งคอยสอยมันเป็นด่านสุดท้าย&
ซุ่มกันอยู่นานจนแทบหลับ ก็ไม่ปรากฏเรื่องระทึกใจใดๆ ในใจของจ่าโตกำลังลอยนึกไปถึงบ้านแสนสุข ที่มีเตียงนุ่มๆ เมียขี้บ่น และลูกจอมกวน& ทันใดนั้นเองเสียงปืนรัวดังสนั่นขึ้นด้านหน้าของตึกโรงงาน ไล่มาจนถึงทางเข้าด้านข้าง เสียงปืน และเสียงเอะอะโวยวายดังอยู่สักพักก็เงียบลง
เงียบจนเหมือนคืนเหงาวันปกติที่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น&
สักพักก็มีเสียงฝีเท้าคนวิ่งตามทางเดิน มาจนถึงด้านหลังโรงงาน จ่าโตกับคู่หนุ่มหันหน้ามามองกัน ไม่รอช้า วิ่งขึ้นไปที่ประตูโรงงานด้านหลังทันที ร่างท้วมพองามของจ่าโต อุ้ยอ้ายตามคู่หูขึ้นไป บันไดไม้เก่าลั่นเสียงเอี๊ยด ทันทีที่ถึงประตู คู่หูหนุ่มหันกลับมาถามความเห็นเป็นครั้งสุดท้าย บุกเข้าไปเลยมั้ยพี่โต&ต& ยังไม่ทันขาดคำ เสียงปืนดังรัวขึ้นจากด้านในของโรงงาน ร่างของคู่หูหนุ่มกระเด็นตามแรงปะทะของลูกปืน ร่างนั้นร่วงทะลุแนวระเบียงไม้เก่าๆ ลงไปกระแทกพื้น นอนสงบนิ่งบนสนามหญ้า ที่ถึงจะนุ่มก็ไม่มีประโยชน์&
ทันใดนั้น ก็มีร่างโชกเลือดร่างหนึ่ง ถือปืนผลุนผลันออกมาจากโรงงาน แน่นอนร่างนั้นไม่ใช่ตำรวจแน่ๆ ในจังหวะของเวลาที่แทบจะหยุดนิ่ง หัวใจของจ่าโตสูบฉีดเลือดพุ่งแรงขึ้นโดยทันที พลังแรงของมันเหมือนจะดันเอาความรู้สึกหวาดกลัว ความรู้สึกรักชีวิต ความรู้สึกถึงความตายทะลักล้นออกมาจนหมดร่าง ชั่วขณะเสี้ยววินาที ที่สายตาของคนทั้งสองมองประสานกัน เค้าทั้งสองรู้ได้โดยทันทีว่า&
จะมีคนรอดออกไปจากที่นี่ได้เพียงคนเดียว&
ร่างนั้นยกปืนขึ้นมาเล็งที่เป้าหมายอย่างไม่รีรอ จ่าโตเอี้ยวตัวปลดสายรั้งซองปืนข้างตัวโดยสัญชาตญาน& หยิบปืนคู่ใจขึ้นมากำแน่นในมือที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เพียงชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ภาพในหัวถึงครอบครัว ถึงคนที่เค้ารักผ่านเข้าไปในความคิดนับล้านภาพ& แต่แล้ว&ความรู้สึกใจหายก็พวยพุ่งขึ้นมาจุกที่หน้าอกในทันที&
&เมื่อรู้สึกถึงความไร้น้ำหนักของปืนในมือ&
&&&&&&&&&&&&&&..
&&&&&&&&&&&&&&..
เด็กชายปอนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม กับผ้าห่มลายการ์ตูนอย่างอารมณ์ดี ของเล่นที่ไม่เล่นแล้วถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบภายในกล่องใบใหญ่ใต้เตียง ที่ข้างกล่อง มีสีไม้เขียนเป็นลวดลายการ์ตูนสวยงาม มีลายมือเด็กๆเขียนไว้ขยุกขยิกว่า& ก่องของเล่นของน๊องปอ&
ในกล่อง ที่มีของเล่นมากมาย มีปืน Beretta .357 สีดำเงาวับ ถูกวางเก็บเอาไว้อย่างดี ปอนึกในใจ พรุ่งนี้ปอจะเล่นโปลิสจับขโมยกับพี่โต้ง เป็นตำรวจจับผู้ร้าย โป้งๆๆ&เอ๊ะ& ว่าแต่พ่อจะดุรึเปล่านะ คิดวนไปวนมาจนหลับผล็อยไปโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ได้คำสรุปถูกใจว่า&
เอาน่าๆ& แลกกันน๊ะ&
วันนี้กำลังจะผ่านไปอีกวันแล้วครับ&
ป.ล. โห... ผมคิดถึงน้าหมี่มากเลย ดีใจครับที่บอร์ดนี้ยังเหลืออยู่