เรื่องเล่าจากเงาไม้ " วันเวลาที่ผันผ่าน "
" มีลวดแขวนกระถามมั้ยครับ ? "
ผมเงยหน้าจากแป้นหมุนงานปั้นดินขึ้นตามเสียงเรียก
ชายสูงวัย ที่ผมบนศีรษะขาวโพลน ยืนยิ้มตามคำถามเมื่อครู่อยู่ที่หน้าร้าน
" มีครับ .. เชิญด้านในก่อนครับ "
ผมรีบล้างมือในถังน้ำพลาสติก ก่อนจะลุกขึ้นต้อนรับลูกค้าอาวุโส
ในทุกย่างก้าวที่ท่านเดินเข้ามาภายในร้าน ดูจะเชื่องช้า สายตาทอดมองไปใน
หมู่มวลกระถางใหญ่น้อยรูปทรงแปลก ๆ ซึ่งนั่นมันเป็นคอนเซ็ปต์ของทางร้านผมอยู่แล้ว
" ของธรรมดา ร้านเราไม่มีครับ "
บางทีผมก็นึกขำ กับลูกค้าบางคน ที่เห็นกระถางหินทรายแนวเซน ที่ดูเคร่งขรึม
สง่างาม มิใยที่ผมจะบอกว่า การจัดสวนในแนวโมเดิรน์สไตล์ กำลังเป็นที่นิยมนะครับ
ลูกค้าวัยป้ามักจะสวนคำตอบที่ได้ยินบ่อย ๆ ว่า ..
" กระถางดินเผาแบบเดิม ๆ ... ไม่มีเหรอ ? "
ร้านผมถึงต้องมีของรองรับลูกค้าทั้งสองแบบ ถ้าเป็นคนอายุไม่เกิน 30 เราก็แนะนำของอีกอย่าง
ถ้าลูกค้าสูงวัย ที่นิยมของแบบเก่า ๆ เราก็มีไว้รองรับ ..
" จัดร้านสวยนะครับ .. กระถางแปลก ๆ แบบนี้ ผมไม่ค่อยเห็น "
ชายอาวุโส ก้มลงมองดูกระถางทรงสี่เหลี่ยมที่ทำจากหินทรายเทียม สไตล์โมเดิรน์
ผมยังยิ้มกับคำชม พลางนึกในใจว่า ลุงครับ .. ลุงช่างสายตาช่างกว้างไกล ร่วมสมัยจริง ๆ ครับ ..
" ลวดแขวนกระถาง เส้นละ 5 บาทครับ รับกี่เส้นดีครับ ? "
" เอา 3 เส้นก็พอ ผมจะเอาไปเปลี่ยนกระถางกล้วยไม้ ของเดิมมันจะขาดอยู่แล้ว "
ผมหันไปดึงลวดผูกกระถางมามัดเชือกฟาง ก่อนจะส่งให้คุณลุง
" มีดอกขจรมั้ย ? .. "
ลุงแกถามผมขณะที่กำลังล้วงเงินให้ผม
มันเป็นคำถามที่ทำให้ผมอึ้ง ...
ต้นขจร เป็นไม้ดอกที่เคยแพร่หลายอยู่ในเมืองไทย ดอกขาวเล็ก ๆ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ชอบอยู่ในที่ ๆ แสงแดดไม่จัดนัก กลิ่นจะหอมจัดยามเย็น
เช่นเดียวกับ ราตรี และลั่นทม ..
ผมเปิดร้านขายต้นไม้ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รู้จักต้นขจร แต่ทว่า...
มันแทบจะสูญพันธ์ไปจากสังคมเมืองกรุงแล้ว คุณจะไปหาดอกขจรจากที่ไหนในกรุงเทพ ฯ
จากแหล่งที่เพาะชำต้นไม้ขาย สวนจตุจักร บางใหญ่ ... มันกลายเป็นไม้โบราณ
เฉกเช่นจำปี หรือจำปา ที่ผมไม่เคยพบเห็นในเมืองหลวง
" ลุงครับ .. ไม่มีใครเขาเพาะขายกันแล้วครับ "
ผมต้องบอกความเป็นจริง คุณลุงดูผิดหวังกับคำตอบของผม
" ผมถามหามาหลายร้านแล้ว เขาก็ตอบแบบคุณนี่แหละ .. "
ในแววตาที่ผิดหวัง ผมมองเห็นความหลังบางอย่าง ไหลทะลักออกมา
มันเป็นความผูกพันธ์ ที่พิสดาร ระหว่างคนกับต้นไม้ ที่แม้วันเวลาจะผ่านไปนานสักปานใด
มันไม่ลดความเข้มข้นของความรู้สึกลง ..
" ลุงครับ ... อยากได้ต้นขจร จริง ๆ เหรอครับ "
ชายชราหันตามเสียงคำถามของผม สายตาส่งประกายเจิดจ้า
" ครับ .. ผมอยากได้ "
" ลุงต้องรอนิดนึงนะ .. ผมจำได้ว่า ที่บ้านคุณปู่ผม มีต้นขจร ผมจะไปตอนกิ่งมาให้
คงสัก 2 เดือน ต้องรอให้รากมันออกเยอะ ๆ ก่อน ผมจะเอามาให้ "
วัยกว่า 60 ก็ไม่อาจปิดบังความลิงโลด ปนสุขใจ ที่กำลังจะได้ของที่ต้องการ
เด็กที่ได้ของเล่นสมใจ กับชายสูงวัยที่ได้ของที่ปราถนา
ผมว่า.... สายตาไม่ต่างกัน
เราอำลาจากกันในวันนั้น พร้อมด้วยสัญญา ว่าถ้าผมได้กิ่งตอนของต้นขจรมาเมื่อไหร่
ให้โทร.บอกคุณลุง ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมเดินเข้าบ้านตอนเกือบ 2 ทุ่ม
กิ่งตอนของต้นขจร อยู่ในถุงหูหิ้ว ที่เอามาจากสระบุรี ค่ารถไปกลับ
ค่าดำเนินการทั้งหลายแหล่ ( ค่าเบียร์ ) ล้วนแล้วแต่ผมควักตังค์ทั้งสิ้น
มิไยที่ภรรยาสุดที่รัก จะกล่าววาจา เป็นปริศนาธรรมให้กับผมว่า
" เอามาขายก็จะไม่ว่าสักคำเลย นี่บอกว่าเอามาให้เขาเฉย ๆ
ก็อีแค่กิ่งตอน ต้องถ่อขึ้นไปตอนเอง ไหนจะค่ารถ เอามาให้เขาเฉย ๆ ซะอย่างนั้นแหละ
ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่ ทำมาค้าขายแบบนี้ มันคงจะ ................ "
ผมยังยิ้ม .. พลางเดินเอากิ่งตอนของต้นขจรไปเก็บหลังบ้าน
บางที เรื่องของสัญญาลูกผู้ชาย มันก็อธิบายอยากนะ โดยเฉพาะ .. อธิบายกับเธอ
ผมยกโทรศัพท์มือถือ โทร.หาคุณลุงตามสัญญา พรุ่งนี้วันจันทร์ คุณลุงคงไม่ได้ไปไหน
แกคงจะดีใจ ที่ผมหาต้นขจรมาให้แกได้แล้ว
" สวัสดีค่ะ .. "
" ครับ .. ขอสายลุงเอนกหน่อยครับ บอกแกว่าจากร้านต้นลม ผมหาต้นขจรให้แกได้แล้ว "
เสียงปลายสายเงียบไป .. เงียบจนผมผิดสังเกตุ
" ฮัลโหล .. ตกลง ลุงเอนก อยู่มั้ยครับ "
" แกเสียได้ 5 วันแล้วค่ะ .............. "
เสียงที่แผ่วเบา ลอดจากโทรศัพท์มือถือมาถึงหูของผม
...
ผมกดปุ่มวางสาย
กิ่งตอนของต้นขจร ดูจะยังชูช่อล้อสายลมอ่อน ๆ ที่พัดโชยผ่านหลังบ้านทาวน์เฮ้าส์ .......................
ผมจ้องมองดอกสีขาวเล็ก ๆ ที่ดูเหงาหงอย อย่างเงียบงัน