เรื่องเล่าจากเงาไม้ " ความทรงจำของฤดูร้อน 1979 "
. . . . . . . . . . . .
ยามที่มันแยกตัวออกจากัน มันส่งเสียงครางเบา ๆ ..
เส้นใยหยาบ ๆ แยกออกจากกันเป็นเส้นทางเดินที่ประหลาด
รูปทรงที่แตกต่าง รูปแบบที่ปราศจากการควบคุม
เคยนั่งฉีกกระดาษเล่นมั้ยครับ ..
มันเป็นพฤติกรรมของเด็กซะเป็นส่วนใหญ่ กระดาษที่ใช่ฉีกเล่น มักจะไม่เลือกประเภท
บางทีมันเป็นหนังสือ หลายครั้งมันเป็นแม๊กกาซีน บางทีมันเป็นรูปดารา บางหนมันเป็น ..
บิลค่าไฟ
ผมอายุ 30 กว่าแล้ว ยังมานั่งฉีกกระดาษเล่น ใจลอยไปที่ไหนก็ไม่รู้
มือยังคงฉีกไป ... ฉีกไป
ที่ต่างไปก็คือ กระดาษที่ผมฉีก เป็น .... กระดาษสา
มันเป็นกระดาษแบบโบราณ ผลิตด้วยกรรมวิธีแบบโบราณ ผลผลิตที่ได้ .. ยังคงความรู้สึก
โบราณ ..
การทำอะไรก็แล้วแต่ แบบไม่ตั้งใจ ผลที่ออกมา มันก็มักจะเป็นแบบไม่ตั้งใจ
ขอบกระดาษย่นยู่ ริ้วใยของเส้นกระดาษสาโผล่ออกมาเหมือนขอบผ้าขี้ริ้ว
บางหน ชีวิตของผมก็ไม่ได้ตั้งใจ ขาดวิ่น ริ้วรอยบางอย่างของการฉีกอนาคต
ยังปรากฏผลงาน .. ตามแรงฉีกทึ้งของเจ้าของ
บางทีผมดื้อรั้น หลายครั้งผมปล่อยให้อารมณ์นำทางชีวิต บางทีก้าวกระโดดของความ
เปลี่ยนแปลงมันก็น่าเร้าใจ
บางหนมันพังยับเยินไม่เป็นท่า
ผมอายุ 30 กว่าแล้ว ยังมานั่งฉีกอนาคตเล่น ปล่อยให้ชีวิตลอยไปทางไหนก็ไม่รู้
มือยังคงฉีกไป ... ฉีกไป
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
พู่กันสง่ามะยุระ เบอร์ 4 ที่ชุ่มไปด้วยกาวน้ำ ลากผ่านโครงสร้างอย่างรวดเร็ว
โครงสร้างของไม้ไผ่ กับสายใยของด้ายว่าว
น่าขำ .. ที่บางครั้ง คนเราก็เลือกที่จะใช้ของที่บอบบาง มาเป็นสิ่งที่สำคัญ
ในการดำเนินชีวิต
โครงสร้างที่มั่นคง เหมือนโครงหลังคาเหล็กมุงกระเบื้อง ย่อมสร้างความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
ให้ผู้ที่ยืนอยู่ข้างล่าง มากกว่าโครงไม้ไผ่มุงจาก
แต่เงื่อนไขบางอย่างก็ทำให้เราเลือกของที่บอบบาง ยามที่ความรู้สึกบางอย่างหนักแน่นกว่า
ผมออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 22
มาอยู่กับความรักใต้หลังคาสังกะสี และลมทุ่งที่พัดโชย
แต่ทำไมมันช่างอบอุ่นในความรู้สึกซะจริง ๆ ...
สิบกว่าปีที่ผ่านไป ผมมานอนอยู่ใต้ฝ้ายิบซั่มบอร์ด ของบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ
คนที่นอนเคียงข้างผม ยังเป็นคนเดิมกับที่บ้านหลังคาสังกะสี
และลมทุ่งสายเดิมที่พัดโชยผ่านบานเกล็ด ...
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมปิดแผ่นกระดาษสาลงไป
กาวน้ำที่ชุ่มเหนียว ดึงแผ่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ไว้แทบจะทันที
ผมปิดกระดาษสาอีกแผ่นตามลงไป กาวน้ำในแนวที่เหลือดูดกระดาษตามลงไปอีก
ผมปิดลงไปแผ่นแล้ว แผ่นเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
ผมนึกถึงเสียงคีย์บอร์ด หน้าเครื่องแพนเทียมโพร์ ที่มันแทบจะเป็นเพื่อนสนิทของผม
มันส่งเสียงดังก๊อกแก๊ก ก๊อกแก็ก ในยามที่สองมือระรัวพร่างพรมไปตามปุ่มที่เรียงราย
มันจะส่งเสียงแบบนั้น ตั้งแต่เวลา 8 โมงครึ่งเช้า ไปสิ้นสุดลงตอน 5 โมงครึ่งเย็น
มันเป็นแบบนั้นวันแล้ว วันเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
หลายหนที่ผมพยายามปิดชิ้นกระดาษสาชิ้นต่อไปให้เร็วขึ้น
...
แต่มันไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่ต้องปิดชิ้นที่เหลือ
...
หลายหนที่ผมพยายามระรัวนิ้วใส่ลงบนคีย์บอร์ดเพื่อเร่งงานให้เสร็จ
...
แต่มันไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่ต้องทำงานชิ้นต่อไป
วันหนึ่ง ที่ผมเดินจากคีย์บอร์ดของบริษัท
แต่ผมกลับต้องมานั่งปิดกระดาษสา ... ลงบนโครงไม้ไผ่
มันจะต่างกันตรงไหน ...
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมนั่งมองชิ้นงานที่แขวนอยู่ที่ฝาผนัง
องค์ประกอบของความไม่ตั้งใจ กรรมวิธีที่ซ้ำซาก
แต่ ...
มันถูกเรียบเรียงผ่านกระบวนการคิดที่เป็นระเบีบยต่างหาก
งานเปเปอร์มาเช่ มันก็คืองานตัดแปะ
แต่ตัดยังไง .. แปะยังไงนี่มันอีกเรื่องนึง
ถ้าเราเอาเรื่องราวในอดีต มาปะติดปะต่อ แบบไม่ตั้งใจในวิธีการแปะ
ทว่าแน่วแน่นในทิศทางการแสวงหา
ศรัทธาในความดีงามของชีวิต
และมองโลกในมุมของปัจเจกชน ที่ส่องทะลุความงามจากภายใน
ดุจแสงสว่างจากหลอดประหยัดไฟ ที่ผมกำลังนั่งมอง
ชีวิตมันก็น่าจะเป็นสุขพอแล้ว
...
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ชื่องาน : ความทรงจำของฤดูร้อน 1979
ประเภท : ประติมากรรมโคมไฟนูนสูง
เทคนิค : เปเปอร์มาเช่
ขนาด : 1 x 1 เมตร
ราคา : 700 บาท
หมายเหตุ : ขอร้อง อย่าต่อ ราคานี้ขายพร้อมหลอดตะเกียบประหยัดไฟ และสายไฟยาว 8 เมตร
แค่ค่าหลอดก็ปาเข้าไป 160 บาทแล้ว ไม่ส่งทางไปรษณีย์ครับ เพราะของใหญ่โตมาก
มาเอาเองที่ร้านนะครับ ชื่อร้านต้นลม อยู่แถว ๆ ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง
มาไม่ถูก โทร.ถามนะครับ 06 - 0208608 แล้วรับรองว่า มีแค่ชิ้นเดียว
เพราะจะไม่ทำงานชิ้นใหญ่โตปานนี้อีกแล้ว ส่วนความหมายที่แท้จริงของงาน " ความทรงจำของฤดูร้อน 1979 "
ผมจะบอกเฉพาะคนที่ซื้องานชิ้นนี้คนเดียวเท่านั้น .... ^___^