ไปพักร้อน..

by ขนมเน่า @9 มิ.ย.47 21.33 ( IP : 203...6 ) | Tags : กระดานข่าว

วันหนึ่งขณะที่เริ่มบ่ายอ่อน ๆ ฉันนอนคิดอะไรเล่นอยู่เพลิน ๆ
คนในบ้านบอกฉันว่าจะพาฉันไปพักร้อนในวันพรุ่งนี้ ฉันแปลกใจที่จะได้ไปพักร้อนอย่างกระทันหัน
ฉันพยายามถามรายละเอียด แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนนัก พวกเขาบอกเพียงว่า ให้เตรียมของใช้ที่จำเป็น
ฉันไม่ค่อยชอบทำอะไรแบบรีบร้อนนัก จึงขอที่จะอยู่เฝ้าบ้าน แต่พวกเขาบอกว่า ได้จองที่พักไว้แล้ว
ไม่สามารถยกเลิกได้ ฉันจึงจำใจต้องไปอย่างเสียมิได้ และมีเวลาเตรียมของเพียงแค่คืนเดียว เช้าวันรุ่งขึ้น คนขับรถช่วยฉันขนกระเป๋าขึ้นรถ ฉันเตรียมกระเป๋าไปแค่สองใบ
มีของใช้ที่จำเป็นและเสื้อผ้า ตอนที่ฉันถามว่าจะไปพักร้อนกันกี่วัน
พวกเขาบอกว่า ให้เตรียมเสื้อผ้าไปให้พอใส่
แต่ฉันคิดว่าไม่น่าจะไปกันหลายวันนัก
เนื่องจากทุกคนต้องรีบกลับมาทำงาน และนี่ไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาวนัก
ฉันนั่งรถไปกับคนขับรถสองคน ส่วนคนอื่น ๆ ไปอีกคันหนึ่ง
เมื่อเดินทางไปสักพัก ฉันไม่เห็นรถอีกคันหนึ่ง
แม้จะสงสัยว่าจะหลงกันหรือเปล่า
แต่เมื่อถามคนขับรถ เขาก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร
ฉันจึงเข้าใจว่าทุกคนคงจะนัดไปเจอกันที่ปลายทาง
ฉันพยายามชวนคนขับรถพูดคุย แต่เขาคงจะต้องใช้สมาธิในการขับรถ
จึงไม่ค่อยพูดคุยกับฉันนัก สักพักฉันจึงหลับไป
มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่คนขับปลุกฉัน
และบอกว่า ให้เตรียมตัว เพราะใกล้จะถึงแล้ว
ฉันมองดูนาฬิกาเป็นเวลาเย็นแล้ว ฉันหลับไปนานทีเดียว
รถเลี้ยวเข้าไปจอดในอาคารหลังหนึ่งคล้ายเป็นสำนักงาน
ด้านหลังมีบ้านพักสีขาวเรียงกันไปเป็นแนวยาว
ฉันลงจากรถ แล้วมองไปรอบ ๆ
ดูแล้วไม่น่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแถวนี้ ทั้งทะเล หรือภูเขา
บางทีอาจจะต้องนั่งรถต่อไปอีก
คนขับรถถือกระเป๋าสัมภาระของฉันเดินขึ้นไปติดต่อเจ้าหน้าที่
ฉันมองดูที่จอดรถ มีรถจอดอยู่เพียงไม่กี่คัน ผู้คนคงจะไม่นิยมมาท่องเที่ยวช่วงนี้กันนัก
ฉันมองไปทางถนนที่ยาวไปไกลสุดตา ไม่มีรถผ่านไปมาสักคันเดียว ที่นี่ดูสงบเงียบจริง ๆ ฉันคิดว่าคนอื่น ๆ
คงยังมาไม่ถึงแน่ จึงเดินตามคนขับรถขึ้นไปบนสำนักงาน ที่ห้องโถงมีที่นั่งรับรองมีแจกันดอกไม้ตั้งอยู่บนโต๊ะสีอ่อน ๆ เข้ากับผนังห้อง
คนขับรถพาฉันไปลงชื่อเข้าพัก แล้วเขาก็จับมือฉันก่อนที่จะเดินออกจากอาคารไป
ฉันคิดว่าเขาคงจะไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างอ้วน พาฉันไปที่ห้องพัก
เธอบอกว่า ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เดี๋ยวหลังอาหารเย็น เธอจะอธิบายกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ฟัง เมื่อมาถึงห้องพัก มีเตียงวางเรียงกันไปสองแถวยาว มีคนนอนอยู่บ้าง คล้ายในโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่หญิงอ้วนพาฉันมาที่เตียงด้านใน บอกว่าที่นี่เป็นเตียงของฉัน ให้วางกระเป๋าไว้ที่นี่
แล้วตามเธอไปที่ห้องอาหาร ฉันกลัวว่าของจะหาย เพราะไม่มีห้องมิดชิด แต่เจ้าหน้าที่หญิงอ้วนบอกว่าไม่ต้องกลัว
ขณะที่กำลังจะเดินกลับออกไป เจ้าหน้าที่หญิงพูดเสียงดังจนคล้ายตะโกนบอกทุกคนว่าได้เวลาอาหารแล้ว
บางคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงก็ค่อย ๆ ขยับตัว อีกหลายคนที่นอนนิ่ง ๆ แต่ลืมตาอยู่ก็ขยับตัว
เหมือนกับรูปปั้นที่อยู่ ๆ ก็มีชีวิตขึ้นมา ส่วนบางคนที่ยังนิ่งไม่ขยับ เหมือนกับไม่ได้ยิน
ต้องให้คนที่อยู่เตียงข้าง ๆ สะกิดเรียกอีกที ฉันสังเกตดูส่วนใหญ่คนที่มาพัก เป็นคนสูงอายุ
ฉันคิดว่า คงเป็นเพราะที่นี่ดูสงบเงียบ และห่างจากตัวเมืองมาก คงจะมีอากาศบริสุทธิ์ พวกเขาจึงนิยมมาที่นี่
ฉันเดินทยอยตามคนอื่น ๆ ไปห้องอาหาร
ถัดจากห้องพักของฉัน มีห้องพักที่เหมือนกันอีกสองห้อง
มีคนเดินออกมาจากห้องพักอีกหลายคนทีเดียว
เมื่อดูจากภายนอกไม่มีรถจอดอยู่เลย ฉันไม่คิดว่าจะมีคนมาพักมากขนาดนี้
เมื่อมาถึงห้องอาหาร ฉันจึงไปเข้าแถวรับอาหาร ในถาดใส่อาหาร มีกับข้าวสีจืดชืดสองอย่าง
คล้ายอาหารคนป่วยไม่มีผิด ฉันคิดว่า เขาคงจะทำมาไว้สำหรับผู้มาพักส่วนใหญ่ที่เป็นคนสูงอายุ
ฉันพยายามมองหาอาหารที่เป็นแบบปกติ แต่ก็ไม่เห็น
เมื่อฉันไปนั่งลงที่โต๊ะจึงถามคนข้าง ๆ ว่า มีอาหารแบบเดียวหรือ
เขาบอกว่ามีแบบเดียว
แล้วถามฉันว่า
เพิ่งมาอยู่หรือ ฉันจึงเข้าใจว่า ที่นี่คงจะมีบางคนที่มาอยู่เลย
เขาคงเข้าใจผิดว่าฉันจะมาอยู่ที่นี่ ฉันจึงตอบเขาไปว่า เพิ่งมาถึงวันนี้ ฉันรับประทานอาหารเย็นชืดไปได้เพียงเล็กน้อย คิดว่า
เดี๋ยวถ้าคนอื่น ๆ มาถึงจะชวนออกไปซื้อหาอะไรที่อร่อยกว่านี้กินจะดีกว่า
ยังดีนะ ที่พวกเขายังไม่มา ถ้ามาแล้วเจออาหารแบบนี้ พวกเขาต้องบ่นกันใหญ่เป็นแน่ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ฉันรีบกลับมาที่เตียง เพราะกลัวว่าของจะหาย
แล้วฉันก็เอนตัวลงพักบนเตียง เพราะว่านั่งรถเมื่อยมาทั้งวัน ขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับไป
ฉันก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่หญิงอ้วนเรียกฉันจากหน้าประตูห้องพัก
เธอบอกว่า จะพาฉันชมสถานที่ ฉันจึงลุกตามเธอไป
บริเวณภายนอกฟ้ามืดลงแล้ว แต่ภายในยังสว่าง เจ้าหน้าที่หญิงอ้วนพาฉันไปที่ห้องดูโทรทัศน์
ในห้องนั้นมีคนนั่งดูโทรทัศน์อยู่หลายคน
เธอแนะนำฉันกับผู้มาพักคนอื่น ๆ  ฉันคิดว่าเธออาจจะเข้าใจผิดว่าฉันจะมาอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน
แต่ฉันก็ยังไม่ได้บอกเธอทันที เพราะเกรงว่าเธอจะเสียหน้าต่อหน้าคนอื่น
แล้วเธอก็พาไปที่ห้องอ่านหนังสือ และห้องนั่งเล่น เมื่อเดินไปตามทางที่ไม่มีคน
ฉันจึงบอกเธอว่า ฉันแค่มาพักร้อน ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ เธอทำท่าเหมือนไม่ได้สนใจ
แต่ฉันคิดว่าเธอคงจะได้ยินและเข้าใจแล้ว
เธอบอกว่า อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบาย ถ้าต้องการอะไรให้บอกเธอได้
แล้วรับประทานอาหารให้ตรงเวลาที่ห้องอาหาร แล้วเธอก็เดินจากไป ฉันคิดว่าคนอื่น ๆ น่าจะมาถึงได้แล้ว เพราะเวลาล่วงเลยมากมาก แล้วฉันก็คิดขึ้นได้ว่า
คนขับรถที่มาพร้อมฉันละไปไหนเสีย ฉันจึงเดินไปถามเจ้าหน้าที่
แต่ว่าที่หน้าสำนักงานไม่มีคนเสียแล้ว เขาคงจะเลิกงานกันหมด
ฉันสงสัยว่าคนขับรถไปพักอยู่ที่ห้องไหนกัน ความจริงน่าจะพักอยู่ห้องเดียวกัน
ฉันรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย จึงเดินมารอที่หน้าอาคารบ้านพัก ฉันเห็นชายคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ม้านั่ง ฉันจึงไปนั่งข้าง ๆ เผื่อว่าจะมีเพื่อนคุย
เขาบอกว่า เขาก็มารอญาติเหมือนกัน ฉันจึงคิดว่า ทางที่มาที่นี่ คงจะเป็นทางที่ซับซ้อน
ผู้คนที่จะมาจึงมาถึงช้ากันไปหมด ฉันคงจะโชคดีที่มาถึงเร็วกว่าคนอื่น
เมื่อฉันเห็นว่าดึกพอสมควร จึงกลับห้องพัก คิดว่าพรุ่งนี้เช้าทุกคนคงจะมาถึงแน่ เมื่อมาถึงที่เตียง ฉันพยายามจะนอนให้หลับ แต่เพราะอาจจะแปลกที่ฉันจึงนอนไม่หลับ
พลิกตัวกลับไปมาหลายครั้ง ฉันเห็นคนที่อยู่เตียงข้าง ๆ เพิ่งมานอน
เขาคงเพิ่งกลับจากดูโทรทัศน์ เขาพูดคุยกับฉัน เขาก็คิดว่าฉันจะมาอยู่ที่นี่เหมือนกัน
ฉันจึงอธิบายให้เขาฟังว่า ฉันเพียงแค่มาพักร้อนเท่านั้น อีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะกลับแล้ว เขาก็พยักหน้า
ดีจริง อีกไม่กี่วันก็จะได้กลับบ้านหรือ ทุกคนที่นี่ก็คงจะคิดแบบนั้นนะ เขาพูดเบา ๆ แต่ฉันก็ได้ยิน

เช้าวันต่อมา ฉันตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ ฟ้ายังไม่ทันสว่าง แต่ก็ยังมีหลายคนที่ตื่นก่อนฉัน
ชายคนที่อยู่เตียงข้าง ๆ ที่คุยกับฉันเมื่อคืน ชวนฉันไปออกกำลังกายที่สนามหญ้า ฉันจึงไปกับเขา ที่สนามออกกำลังกาย มีคนยืนอยู่ห่าง ๆ กัน ออกกำลังกายแบบเบา ๆ เป็นการยืดส้นยืดสาย
ขยับตัวขึ้นลงช้า ๆ ไปทางซ้ายที ขวาที ตามจังหวะเพลงที่มีทำนองประหลาด
วิทยุตัวเล็กวางอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้า คนที่เพิ่งมาถึงหาที่ยืนของตัวเองแล้วเริ่มออกกำลังกาย
ฉันมองคนอื่น แล้วเริ่มขยับตัวตาม ทำท่าทางให้เหมือนพวกเขา
ฉันไม่อยากให้คนคิดว่า ฉันทำไม่เป็น ซึ่งท่าทางการออกกำลังกาย ก็ไม่ยากนัก ฟ้าสว่างมานานแล้ว ทุกคนไม่มีทีท่าทีว่าจะหยุดออกกำลังกาย
ฉันไม่ได้เหนื่อย แต่เริ่มเบื่อกับการขยับไปมายืดแขนไปข้างหน้า และด้านข้าง
แต่ฉันก็ไม่กล้าหยุดแม้จะปวดเมื่อยนิดหน่อยเนื่องจากไม่เคยออกกำลังกายแบบนี้มาก่อน คนที่อยู่ข้าง ๆ ฉันบอกว่า ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักก่อนก็ได้ ค่อย ๆ ทำไป เดี๋ยวก็ชิน ฉันจึงเดินไปนั่งพักที่ม้าหิน มองดูคนอื่น ๆ ขยับร่างกายไปมาพร้อมกัน ดูเป็นระเบียบดี
จ้องมองนานเข้าจนจิตใจฉันเริ่มสงบ พวกของฉันคงจะมาไม่ทันอาหารเช้าอีกเป็นแน่
พวกเขาคงจะมาช้าเช่นเดิมตอนแรกฉันคิดว่าพวกเขาจะมาถึงเช้านี้
แต่ตอนนี้ฉันคิดว่า คงจะมาถึงเย็น ๆ เสียมากกว่า

ที่ห้องอาหารช่วงเช้า อาหารเป็นลักษณะเดิมเหมือนเมื่อวาน เย็นชืด และไม่มีรสชาติอะไร
ฉันนั่งคุยกับคนที่นั่งตรงกันข้าม เขาคงจะเป็นคนที่อยู่ประจำ
ฉันถามว่าเขารับประทานอาหารแบบนี้ทุกวันเลยหรือ เขาบอกว่าใช่
เขาบอกว่ามันมีประโยชน์แถมอร่อยด้วย ฉันจึงเข้าใจว่า
คนที่อยู่ที่นี่ประจำ คงจะชอบอาหารของที่นี่ด้วยนี่เอง ฉันผ่านอาหารเช้า กลางวันและเย็น ของที่นี่ไปอีกหลายครั้ง จนรู้สึกชิน
แม้ฉันจะรอพวกของฉันที่กำลังจะมาถึง แต่ก็ไม่รู้สึกร้อนใจเหมือนวันแรก ๆ
ฉันไม่ทันได้สังเกตว่าวันเวลาผ่านไปนานเท่าไร
พวกคนที่อยู่ที่นี่ก็คงเช่นเดียวกัน ฉันเริ่มมีเพื่อนที่คุ้นเคย ทุกคนมีชีวิตอยู่ไปเรื่อย ๆ
บางวันฉันเห็นคนบางคน ที่เพิ่งมาถึง ร้องโวยวาย
เจ้าหน้าที่หลายคนต้องมาช่วยกันจับตัวเอาไว้ ดูเหมือนเขาจะไม่อยากมาพักร้อนที่นี่
บางคนที่มาถึงก็ร้องไห้อยู่หลายวันทีเดียว
ฉันนึกถึงสมัยยังเด็ก  ครั้งที่ไปโรงเรียนวันแรก จะเห็นเด็กหลายคนไม่ยอมจากพ่อแม่
บางคนร้องไห้เสียงดังและร้องตะโกนโวยวายไม่ต่างจาก คนที่ถูกส่งตัวมาพักร้อนที่นี่ คนที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่มักจะจำไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ที่นี่มานานเท่าไรแล้ว
ฉันเคยเห็นคนนั่งเถียงกันว่า ใครมาอยู่นานกว่ากัน ต่างคนจะบอกว่าอีกฝ่ายอยู่มานานกว่า
ทุกคนไม่มีใครอยากจะจำว่าอยู่ที่นี่มานาน และทุกคนคิดว่า
อีกไม่นานจะต้องได้กลับบ้าน พวกนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกที่หลง ๆ ลืม ๆ
แต่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ดูเป็นพวกหัวก้าวหน้า หลายครั้งที่ได้ฟังกลุ่มพวกนี้พูดคุยกัน
ฉันจะได้แนวคิดใหม่ ๆ มาเสมอ
พวกเขาว่า คนที่ถูกส่งตัวมาที่นี่ เป็นพวกที่ไม่มีค่า ไม่มีความหมาย
เป็นพวกที่ไม่มีใครต้องการ แม้หลายคนจะเคยทำประโยชน์มามากมาย
แต่วันหนึ่ง เมื่อไม่สามารถทำประโยชน์ได้ ก็ถูกมองเพียงว่าเป็นขยะที่กำจัดได้ยาก
เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถทำลายได้ตามกฎหมาย
แต่สามารถจัดที่จัดทางให้อยู่รวมกันอย่างไร้ค่า และเสื่อมสลายไปเองตามเวลา ชายคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่ม
เขาชักชวนพวกที่ดูยังแข็งแรงอยู่ รวมทั้งฉันด้วย เขาว่า "พวกเราน่าจะหนีไปจากที่นี่ได้" "พวกเรายังมีความสามารถ ไม่ใช่พวกที่กำลังจะตายแบบพวกนั้น" เขาชี้ไปที่คนอื่น ๆ  ที่ยังนอนอยู่ หลายคนไม่สบาย พวกเขาตกลงวางแผนว่าจะหนีกัน
จริง ๆ แล้วฉันไม่อยากหนีไปกับพวกเขาเท่าไรนัก
เพราะกลัวว่าจะมีอันตราย และอีกอย่างฉันคิดว่าอีกไม่นานคนที่บ้านของฉันก็จะเดินทางมาถึง
แล้วฉันก็จะรอกลับบ้านพร้อมกับพวกเขาจะดีกว่า แต่หัวหน้ากลุ่มที่จะพากันหนีบอกว่า
มีคนอีกหลายคนที่มัวแต่เพ้อฝันว่าจะมีคนมารับกลับไป แล้วก็รอจนกระทั่งตายไป ฉันไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าฉันไม่กล้า และกลัวอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ฉันจึงตกลงที่จะหนีไปกับพวกเขา พวกเราวางแผนที่จะหนีกันกลางดึกคืนนี้

เมื่อทุกคนเข้านอนกันหมด พวกเรามารวมตัวกันที่ประตูด้านหลัง มีกำแพงรั้วลวดหนามสูง ฉันรับหน้าที่เป็นคนนำ ตอนแรกฉันบอกว่าฉันไม่รู้เส้นทาง
แต่คนอื่น ๆ บอกว่า ไม่มีใครรู้เส้นทางเหมือนกัน พวกเขาบอกว่าฉันดูท่าทางฉลาดที่สุด น่าจะนำทางพวกเขาไปสู่ทางออกได้
ส่วนคนอื่น ๆ ทำหน้าที่ทั้งดูต้นทาง ทำหน้าที่อำนวยความสะดวก
และทำหน้าที่ ส่งสัญญาณ บางคนถามว่าทำไมไม่หนีออกทางด้านหน้า
เพราะทางนั้นโล่งและสะดวก แต่หัวหน้ากลุ่มบอกว่า ยิ่งทางโล่งอาจจะมีคนเห็น ได้ง่าย แล้วพวกเราก็เริ่มหนีออกจากบ้านพักร้อนกัน

ฉันปีนนำทุกคนข้ามกำแพงลวดหนาม แม้จะไม่ยากนัก
แต่ขาฉันก็ไปเกี่ยวกับลวดหนามและตกลงมาจากกำแพง ขาฉันเป็นแผล มีเลือดออกเล็กน้อย และข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อย
อีกหลายคนก็ตกลงมาเหมือนกัน หัวหน้ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลัง ส่งสัญญาณให้ฉันรีบวิ่งนำทางไป ฉันเริ่มออกวิ่งไปในความมืด ไม่เห็นอะไรอยู่ข้างหน้า นอกจากป่าหญ้า
มีต้นไม้ใหญ่เป็นระยะ ฉันจะวิ่งไปหลบที่ใต้ต้นไม้เพื่อพักเป็นบางครั้ง เมื่อหันไปมองคนอื่น ๆ ก็เห็นวิ่งทยอยตามกันมา
ฉันหวังว่าจะไม่มีใครหลงทางไปเสียก่อน เนื่องจากมืดมาก ฉันเริ่มวิ่งอีกครั้ง แม้รู้สึกเหนื่อยและเจ็บแผล
แต่ก็ยังวิ่งต่อไปข้างหน้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจุดหมายอยู่ที่ไหน ฉันได้ยินเสียงดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟสว่างจากด้านหลัง มีเสียงร้องโวยวาย ฉันหันไปมอง เห็นบางคนล้มลง มีเสียงตะโกนบอกฉันว่า
ให้วิ่งต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่น  พวกนั้นยิงพวกเราจากด้านหลังได้ โดยไม่ผิดกฎ ฉันรีบวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต มีเสียงดังจากด้านหลังอีกหลายครั้ง อาจจะเป็นเสียงปืน
มีเสียงพวกที่หนีมา ร้องอย่างเจ็บปวด
ฉันได้ยินเสียงวิ่งตามมาอย่างกระชั้นชิด
ฉันคิดว่าคงเป็นพวกที่หนีมากับฉัน
และเมื่อฉันหันไปมอง
ฉันก็ถูกจับตัวไว้

ฉันถูกพาตัวมานั่งอยู่ที่ห้องพัก ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รุ่งเช้าคนที่บ้านฉันเดินทางมาถึง
บางที่พวกเขาอาจจะมาพาฉันกลับบ้านถ้าเมื่อคืนฉันไม่หนีไปเสียก่อน
เจ้าหน้าที่ดูแลอาจจะแจ้งคนทางบ้านของฉันว่าฉันคิดจะหลบหนีออกไปจากที่นี่
ฉันจึงไม่ได้รับอนุญาติให้กลับบ้านได้ตอนนี้
ฉันไม่มีโอกาสพูดคุยกับคนที่บ้านฉัน
ฉันอยากจะบอกพวกเขาว่าฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่ฉันก็ไม่มีโอกาสได้บอก ฉันมองพวกเขาเดินจากไป อยู่ไกล ๆ
เมื่อพวกเขากลับไป ฉันถามเจ้าหน้าที่ว่า
เมื่อไรฉันจะได้กลับบ้าน เขาตอบว่า
"อีกไม่นาน.."

Comment #1
จสอ.โจ (Not Member)
Posted @10 มิ.ย.47 8.32 ip : 210...117

มันเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ เออร์เนส ฮัมมิ่งเวย์ , โกวเล้ง และอีกหลาย ๆ คน เลือกที่จะยุติเรื่องราว ก่อนที่เวลาของการพักร้อนจะมาถึง รึเปล่า ?

Comment #2
บ.ก.หนวดรูปงาม (Not Member)
Posted @10 มิ.ย.47 16.53 ip : 203...231

งานของขนมเน่าจะแปลกแยกจากคนอื่นในบอร์ดนี้  ทุกชิ้นของขนมเน่าจะเป็นงานอารมณ์กดดัน  ตัวละครอึดอัดในชีวิตประจำวัน  และมักจะเอ่ยถึง "ทางออก" อยู่เสมอ

ในความห้วนของประโยค  อ่านแล้วค่อนข้างอึดอัด  และใช้คำใช้ประโยคซ้ำๆกันจนจับได้นี้  ดูๆไปมันก็เหมาะกันดีกับลักษณะงานเช่นขนมเน่า

นั่นคือให้คนอ่านรู้อึดอัดเช่นที่ตัวละครรู้สึก  ข้อสังเกตุนี้ บ.ก. เพียงเปรยๆคร่าวๆเท่านั้น  เพราะต้องตามอ่านกันอีกนานจึงพอจะสรุปลักษณะอัตตลักษณ์ของใครได้

ไปพักร้อนนี้  สงสัยอยู่เพียงว่า  ตกลงสถานที่พักร้อนนั้นคือะไรกันแน่? โรงพยาบาลบ้า? บ้านพักคนชรา?  หรือคุก?

ถ้าเป็น 2 อย่างแรกนั้น การที่เจ้าหน้าที่ยิงผู้หลบหนี  โดยเฉพาะการยิงจากข้างหลังนั้น  เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิที่จะทำได้เลย  และหากเป็นคุก  มันก็ขัดกับการเข้าไปอยู่ที่มีคนรถไปส่ง  มีเจ้าหน้าที่ต้อนรับ  ตอนแจ้งความจำนงเข้าพักนั้น  คุกคงต่างจากสถานที่อื่นแน่นอน  ซึ่งนั่นตัวละคร "ผม" น่าจะรู้ตัวได้

Comment #3
พี่เฮฮา (Not Member)
Posted @10 มิ.ย.47 19.19 ip : 203...3

พักร้อนแบบนี้... ขอบายฮะ...


(วิ่งเผ่นแน้บออกจากกระทู้... ไปแบบไม่คิดชีวิต)

Comment #4
ผู้มาจากฟ้ากว้าง (Not Member)
Posted @13 มิ.ย.47 15.34 ip : 202...226

พักร้อนแบบนี้ ขอบายเหมียนกัลลล


//วิ่งหูตั้งออกไปจากกระทุ้

Comment #5
คนอยากรู้ (Not Member)
Posted @29 พ.ย.48 15.56 ip : 203...2

นอกจากมีบุญแล้ว ใครบอกได้บ้างว่ามีผลพวงอย่างอื่นอีกมั้ย

Comment #6
Posted @2 ธ.ค.48 4.32 ip : 219...68

บายๆด้วยคับ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 56 user(s)

User count is 2428014 person(s) and 10167452 hit(s) since 15 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).