เพลินเพลงลูกทุ่ง : ราคาคนสวย(ภาคยุคกลาง)
ราคาคนสวย
คนอื่นกินเนื้อเหลือแต่ก้างแต่กาก เอ็งยังเก็บเอามาฝากข้าคนซื่อกระบือบ้านนา ข้าเซ่อข้าเซอะ
อย่าสะเออะมาเที่ยวตบตา สีสวยสวยของเสื้อและผ้า แต่งตบตาได้เพียงบางคน
ข้าอ้อนงอนง้อขอร้องเอ็งแต่แรก เอ็งยังกำลังใจแตกด่าข้าแหลกหน้าหนาหน้าทน ข้าโง่ข้า เขลาผิวงูเห่าแต่ใจเป็นคน ผิวเหลืองเหลืองเอ็งเหมือนส้มหล่น ราคาคนเอ็งอยู่ตรงไน
เนื้อแท้แท้ที่พ่อแม่ท่านให้เอ็งมา เมื่อครั้งทำไร่ไถนาสวยสะดุดตาน้อยเสียเมื่อไหร่ เอ็งไปบาง กอกลอกคราบออกจะเอาเนื้อใหม่ ข้าดูเอ็งนานไม่ได้ มันปวดหัวใจปวดลูกนัยน์ตา
ให้ใครกินเนื้อเหลือแต่ก้างแต่กาก เอ็งหอบสังขารมาฝากลูกผู้ชายไอ้ควายบ้านนา ข้าเซ่อข้า
เซอะอย่าสะเออเมาเที่ยวตบตา สีหลายสีที่เอ็งพอกหน้าตบตาข้าไม่ได้ดอกเหวย&
เราข้ามมาฟังเพลงในยุคกลางกันเลยสักเพลง ด้วยแฟนๆจำนวนมหาศาลเรียกร้องเพลงที่ใกล้เคียง กับยุคสมัยของเขาบ้างน่ะครับ เมื่อกล้าขอ เราก็กล้าพอที่จะจัดให้อย่างไม่มีเกรงใจกันล่ะ
เพลงในยุคกลางนอกจากดนตรีจะมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นวงคอมโบ เน้นเครื่องเป่าและเพอร์คัส
ชั่นแล้ว ยังก่อกำเนิดหางเครื่องที่ตะละนางมักจะดำๆไม่ก็กรนะดำกระด่าง รูปทรงแปลกตาหน้าตาแปลกใจ ผมเคยปีนดูหางเครื่องวงสายัณห์ สัญญา เปลี่ยนชุดหลังฉากเมื่ออยู่ประมาณ ม.๓ หล่อนทั้งหลายไม่มีสะทกต่อสายตาหื่นๆของเด็กหนุ่มหล่อๆอย่างผมแม้สักนิด หางเครื่องวงสายัณห์นั้นจัดเป็นหางเครื่องที่ครบเครื่องและยิ่งใหญ่สุดในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว นอกจากเป็นวงคอมโบและหางเครื่องแล้ว เพลงยุคกลางยังปรับเปลี่ยนสำนวนภาษาถ้อยคำให้เข้ากับยุคสมัยนั้นด้วย จากเนื้อเพลงสวยๆไม่ก็พิถีพิถันในการเลือกเฟ้นถ้อยคำ เพลงยุคกลางก็ใช้ภาษาธรรมดาๆแต่มองเห็นภาพ อันเป็นอิทธิพลของครูไพบูลย์ บุตรขัน ในยุคคลี่คลายทางภาษาแล้ว และสืบเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบันที่เพลงลูกทุ่งไทยยังดิ้นไม่หลุดจากแนวทางครูไพบูลย์ โดยเฉพาะในเรื่องของทำนอง
หากเอ่ยชื่อ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง หลายคนอาจทำหน้าเป็นหมาสงสัย แต่หากเอ่ยชื่อเพลง ทหาร
อากาศขาดรัก , ขันหมากเศรษฐี ,โสภาใจดำ , รักพี่เสียดายน้อง แล้วคงต้องร้องอ๋อกันยาวเหยียด เสกศักดิ์เป็นนักร้องที่ยอดโฆษกชื่ออะไรแล้วผมจำไม่ได้ (ที่เคยเป็นโฆษกรายการ ถนนดนตรี ของช่อง 5 เมื่อสัก 20 ปีก่อน และเป็นผู้บุกเบิกการ ปิดถนนเล่นดนตรี ) ปลุกปั้นและส่งเสริมขึ้นมาจนโด่งดัง
เพลงลูกทุ่งที่ ก่นด่า ผู้หญิงเจ็บแสบนั้นมีมานานแล้ว โดยเฉพาะเพลง มึงมันเลว ของ เมือง
มนต์ สมบัติเจริญ หรือ มึงมันชั่วนัก ของ ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย หรือ จดหมายแค้นสีเลือด ของ คำรณ สัมบุณนานนท์ แต่ก็ยังคงมีกระปริบกระปรอยมิได้เอิกเกริกเหมือนอย่างยุคกลาง ที่แม้กระทั่ง ชาย เมืองสิงห์ ที่ยืนยงจนยุคกลางก็ยังต้องมีเพลง เมียพี่มีชู้ จนมีอีกมากมายหลายเพลงที่เกี่ยวกับชู้ออกมารองรับความต้องการของตลาด
ยุคกลางที่ด่าสาวๆได้แสบทรวงก็คงจะหนีไม่พ้นกลุ่มแคมป์จีไอ เปล่าหรอก-ไม่ได้หมายความว่า
นักร้องกลุ่มนี้อันประกอบด้วย ระพิน ภูไท , จีระพันธุ์ วีรพงศ์ ,ชายธง ทรงพล เป็นหลัก จะเป็นนักร้องในแคมป์มาก่อน แต่เป็นเพราะนักร้องเหล่านี้โด่งดังในยุคสมัยที่จีไอมาตั้งแคมป์ในเมืองไทยเยอะแยะ เพลงที่ก่นด่าผู้หญิงเมียเช่า เพลงที่ก่นด่าผู้หญิงเห็นดอลลาร์ดีกว่าเงินบาท สรุปรวมก็คงได้ความว่าเป็นเพลงที่ก่นด่าผู้หญิง
ในยุคสมัยสับสนของการเมืองและเศรษฐกิจ โดยมีทหารอเมริกันเข้ามาเป็นตัวเร่ง เจ็บแสบเลือดสาด และสะใจสำหรับคอซาดิสต์
ราคาคนสวยก็เช่นเดียวกัน ต่างกันนิดก็ตรงที่ราคาคนสวยใช้วิธีก่นด่าตนเองเพื่อกระทบคราด แต่ที่สุดก็คือเพลงพูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่หลงระเริงเมืองกรุงจนเสียท่า แล้วกลับมาบ้านนอกเพื่อหาคนรักเก่า เพลงลักษณะนี้มีเยอะ ไม่ว่าจะเป็น อีลุปตุบป่อง ของ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ , จะทำอีท่าไหน ของ ดำ แดนสุพรรณ และอีกมากมาย
กระนั้นก็ตาม มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาร้องเพลงเพื่อแก้ต่างให้ผู้หญิงด้วยกัน และโต้ตอบทัศนะผู้ ชายในเรื่องเกี่ยวกับเพศ หล่อนคือ บุปผา สายชล
๒๐ สิงหาคม ๒๕๔๗