M-e-e P-e-d

สายัณห์  สัญญา  ร้องเอาไว้เมื่อเกือบๆ 30 ปีก่อน

เข้าใจว่าน่าจะอยู่ร่วมกับเพลง  ไอ้หนุ่มรถไถ ,  รักคนชื่อเจี๊ยบ  พวกนี้นะ


//ไม่เคยรักใครเท่าติ๋ม พี่รักติ๋มแทบบ้า ติ๋มเปรียบเสมือนดวงใจ ติ๋มนั้นคล้ายดวงตา สวรรค์ส่งมาประดับชีวี

เขตแดนแคว้นใดเที่ยวถึง    แต่ไม่ซึ้งใจพี่ เคยผ่านเคยพบนับพัน  แต่ไม่หวานซ่านฤดี  ไม่ซึ้งใจพี่เหมือนที่เจอติ๋ม

พี่เคยรักต๋อยต้อยตุ้มตุ๊ยต่าย    ก็ยังลืมได้เมื่อมารักติ๋ม  เคยขื่นระทมขมฤทัย  หัวใจโดนทิ่ม    ได้ติ๋มเป็นยารักษาแผลใจ

จงคอยพี่หน่อยเถิดติ๋ม  เชื่อว่าติ๋มคงคอยได้ หากพี่มีพร้อมเงินทอง    จะมาขอน้องเคียงกาย คอยพี่ให้ได้นะคนชื่อติ๋ม


เนื้อเพลงธรรมดามาก  และพูดให้ตรงคือไม่มีความสวยเอาเสียเลย    แต่เ้พราะเสียงของ สายัณห์ ที่สมัยนั้นเชื่อกันว่าพี่เป้าสักยันต์ตรงลูกกระเดือก  เสียงจึงได้แหบเสน่ห์จากไปที่เคยเป็นในยุคแรก


ไม่เคยรักใครเท่าติ๋มเป็นเพลงในยุคกลางของลูกทุ่ง  ที่สายัณห์ กับ  ยอดรัก  สลักใจ  ครองความยิ่งใหญ่เกินใครเทียม  เป็นยุคที่ภาษาคลี่คลายจากภาษากวีมาเป็นภาษาพูดมากขึ้น  และมักจะเป็นภาษาที่ไม่ได้กลั่นกรองมาเลย  อาศัยท่วงทำนองและเสียงนักร้องเท่านั้นที่ทำให้เพลงดัง


เพลงนี้น่าจะเป็น  ชลธี  ธารทอง แต่ง  เพราะชลธี กับ สายัณห์ คือคู่ที่แยกกันไม่ออก  ต่างหนุนกันและกันให้ดัง

พี่ชอบเมียชาวบ้านจ้ะ

ส่วนนักร้องลูกทุ่งนั้นชอบ ชาย  เมืองสิงห์  ยืนพื้น  นอกนั้นก็แล้วแต่เพลงๆไป ถ้าทางดุชอบ คำรณ  สัมบุณณานนท์  ทางหวานชอบ ปอง  ปรีดา มากกว่าทูน  ทองใจ  หน่อยๆ

นักร้องปัจจุบัน  นับ 20 ปีมานี้นะ  ไม่ค่อยชอบใครเป็นพิเศษ  เหตุหนึ่งเพราะเขาไม่มีเสียงเฉพาะของตน    แล้วโปรดิวเซอร์ก็ไม่สามารถดึงความพิเศษที่เขามีออกมาให้เข้ากับงานได้    ยิ่งครูเพลงแต่งเพลงแล้วเหมือนจะเอาไว้ร้องเอง  โดยไม่คำนึงว่านักร้องแต่ละคนนั้นควรให้ร้องเพลงไหนอย่างไร  แนวไหนทางไหน  มันก็ไม่ต่างกันเลยกับนักร้องแต่ละคน  เพลงหนึ่ง  หากเอาไปให้คนหนึ่งร้อง  ผลที่ออกมาก็จะเหมือนกันเด๊ะๆกับอีกหลายๆคนร้อง  เพราะเพลงถูกแต่งมาโดยระบบคัดแยกส่วน  มีโต๊ะสำหรับคนแต่งเพลง  มีโต๊ะนั่งสำหรับคนหานักร้อง  มีโต๊ะนั่งสำหรับคนทำดนตรี  ซึ่งทุกโต๊ะมีสิ่งร่วมเดียวกันนั่นคือ ทำเพลงให้ขายได้ที่สุด  ฉะนั้นนักร้องที่เขามี  จึงเพียงแค่ร้องเพลงเป็น - หน้าตาดี - เอนเตอร์เทนด์ดี  แล้วเอามาจับให้เต้นไปตามที่อีกโต๊ะคิดท่าทางเพื่อออกทีวี

นักร้องเป็นเพียงผลิตผลจากโรงงาน  เป็นโรงงานก็อปปี้มาจากพิมพ์เดียวกันทั้งสิ้น  มันเข้าสู่ระบบธุรกิจเพื่อขายเต็มตัว    ศิลปะจึงถูกทำให้เป็นสินค้าตัวหนึ่ง  ที่ไม่จำเป็นต้องมีสุนทรียรสใดใดเป็นลักษณะเฉพาะ

ปัจจุบันเรามีนักร้อง 2 แนว  1 นั้นคือนักร้องเสียงกะเทย  เช่น  ไชยา  มิตรชัย , กุ้ง  สุทธิราช  เป็นต้น  2 นั้นคือนักร้องเงาครูสล่า  คุณวุฒิ

และพูดได้ว่า  สล่า  คุณวุฒิ  คือผู้ทำลายลักษณะเด่นของเพลงลูกทุ่งอย่างยับเยินที่สุด  ภาษาของสล่าคล้ายๆจะสวย  แต่แท้แล้วไม่เลย  ไม่สอดรับสอดคล้องกับวิถีแท้ๆของลูกทุ่งอันเป็นเพลงของชนชั้นล่าง  เพลงส่วนมากจะเน้นให้เป็นนักบริโภคโง่ๆตามอย่างเพลงสตริง    ให้มีรสนิยมแปลกๆที่แตกต่างจากชาวบ้านอย่างที่ชนชั้นกลางชอบประพฤติ    ไม่มีความแตกต่างในเนื้อเพลง  เหมือนๆเอาเพลงเดียวมาขยายต่ออีกร้อยเพลง

สล่าออกเทปชุดแรกเมื่อประมาณ 2530    เป็นเพลงเพื่อชีวิตที่มีกลิ่นอายลูกทุ่ง  อันเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น  ความประดักประเดิก  สะเทินน้ำสะเทินบกเช่นนี้ยังคงปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง  เด่นชัด  และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงในปัจจุบันเมื่อผันตนมาทำลูกทุ่ง

และลูกทุ่งปัจจุบันคงฆ่าตัวตายตามแน่นอน  หากวันใดสล่าตายลง  ด้วยไม่มีใครกล้าทวนกระแสสล่า  ด้วยเกรงว่างานออกมาแล้วจะขายไม่ออก  การมีชื่อ สล่า การันตี  นับเป็นตราประทับที่เชื่อได้ว่าขายได้แน่นอน

การร่วมมือของสล่า กับค่ายเพลงนี้แหละ  ที่ทำให้ลูกทุ่งไร้สิ้นซึ่งความเป็นลูกทุ่งไปอย่างน่าใจหาย

และน่าเศร้า    ที่เรายังยอมจำนนต่อการสิ้นไร้หนทางออกไปจากตรอกทึบ  ที่เขาโบกปูนปิดขังเรามิดเสียแล้ว

นี่ เธอ แล้วเพลงไอ้หนุ่มตุ้เพลงน่ะ ชอบรึเปล่า ชั้นล่ะ ช๊อบ ชอบ

มันร้องไงน๊า ลืมเนื้อ

เป็นเพลงสะท้อนยุคเลยนะนั่น

มันขึ้นว่า "ผมจีบสาวไม่เก่ง ต้องใช้ตู้เพลงเป็นสื่อ"

เด็กๆ ไม่รู้จักหรอกนะ ตู้เพลง รู้จักแต่ไอ้พ่อด เอ็มพีสาม กร๊ากกกกกกกกกก

ผมว่ายุคนี้ต้อง ตั๊กแตนชลดา สุดยอด....