ลาบนก
แดดเช้าส่องสูงอายแดดเริ่มแผดแสงกล้า เหนือยอดก่อไผ่ริมห้วยแห้ง เฒ่าสียังคงนั่งใต้ร่มมะม่วงใบหลุด เพ่งดวงตาชรามัวผ่านเปลวแดดไปยังทุ่งโล่งเบื้องหน้ายอดหญ้าน้ำตาลหม่นไม่ไกวก้าน เฒ่าสีหยิบห่อยาเส้นพื้นบ้านซอยเส้นใหญ่หยาบที่เหน็บชายพกผ้าขาวม้าขึ้นมามวนด้วยใบตองคล่องมือ ไฟแช็ครุ่นเก่าใช้นุ่นยัดไส้อาศัยน้ำมันเบนซินเป็นเชื้อนานโขกว่ามันจะติดไฟพรึบเป็นประกายเพิ่มร้อน แกจ่อสูบด้วยความบรรจงราวการสลัดปลายพู่กันของศิลปิน ควันสีขาวลอยกำจายย้ายเยื้องและเซื่องซึมในบรรยากาศผสานเป็นเนื้อเดียวกับท้องฟ้าในเวลาไม่นาน
นกคุ่มเลี้ยงในกรงไม้ไผ่สานเลิกร้องไปนานแล้วมันร้องอืดๆ จนคอแห้งแลกกับเมล็ดข้าวและปลวกเดนตายสองสามตัว มันยื่นคอออกมานอกกรงจิบน้ำในรางน้ำไผ่เน่าส่งกลิ่นจากดินจอมปลวกที่แช่ขังยามมันคุ้ยเขี่ยหาอาหารในกรง มันคุ้ยเพื่อจะหากินประทังหิวจนเล็บฉีกก็เจอแต่ก้นกรงที่เป็นไผ่สานนั่น นกคุ่มอาจแปลกใจที่ผืนดินของมันมีจำกัดเพียงกรงแคบๆ เท่าบาตรพระ ข้างบนกรงเล่ายอดสาบเสือกองสุมโรยใบเฉาปกคลุมกันแดดรั่ว กรงของมันอยู่เหนือผืนดินสูงขึ้นระดับเอว ด้วยไม้ไผ่ลำเท่าปลายนิ้วโป้งแต่มั่นคงยันยืนเอาไว้สามขา รอบนอกคือกำแพงหญ้าที่เกี่ยวเอามากั้นเป็นวงกว้าง มีเพียงตรงตาขายหรือซิงดักเท่านั้นที่ถอนหญ้าไว้โล่งเตียงเป็นทางเดินนกคุ่มป่า หากมันผ่านเข้ามาย่อมติดตาข่ายเส้นเล็กบางตาแต่เหนียวเนื้อค่อมบนไม้ไผ่เหลาลนไฟยาวประมาณศอกปักโค้งเป็นครึ่งวงกลมเหนือผืนดินระแหง
ชั่วระยะแดดร่มลมพักล้า นกคุ่มป่าก็อืดร้องส่งเสียงเป็นเชิงบอกผู้รุกรานว่านี่ถิ่นมัน หากินตัวเดียวก็ลำบากเหลือหากเพิ่มพวกที่ไม่ใช่ญาติตนเข้ามาย่อมยากต่อการแบ่งปันอาหาร นกคุ่มต่อเมื่อได้ยินก็อืดร้องเสียงกังวานเย้ยโต้ตอบ ขนคอสีดำของมันขยายตามจังหวะแห่งเสียงร้องที่ทุ้มใหญ่เกินตัว มันพองเหมือนอึ่งคล้ายอวดลำคองาม ขนตามตัวของมันแซมน้ำตาลสลับเทาปนดำ เมื่อมันอืดร้องเสร็จก็เปลี่ยนมาเป็นร้องกระชั้นสั้น คุ้ยเขี่ยดินเหมือนไก่ยามจะชนวิ่งรอบๆ กรง นกป่าวนอยู่รอบเพนียดหญ้าหาทางเข้ามันเห็นทางที่โปร่งหญ้า ศักดิ์ศรีทำให้มันไม่สนใจตาข่ายดักนั่น วิ่งพรวดเข้ามาตาข่ายรูดหลุดคุมร่าง มันดิ้นทุรนตาข่ายยิ่งรัดแน่นเป็นทวีคูณ
ยาเส้นหมดมวนไปนานแล้ว เฒ่าสีนั่งฟังเสียงนกจนใจเคลิ้ม นานๆ มันจะร้องจะร่ายรำกันพักหนึ่ง แต่นกต่อตัวฉกาจของแกมันก็ร้องยั่วนกป่าได้ดีแท้ เปิดฝากระติกน้ำมันเครื่องที่ถูกล้างจนเกลี้ยงกลิ่นมาเป็นที่หุ้มน้ำสะอาดไว้หยาดลงคอยามหิว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทางคณิตศาสตร์ขีดพาดผ่านเป็นล่องลึกนับเส้นไม่ถ้วนบนแก้มเกรียมนั้นเผยยิ้ม ค่อยๆ พยุงร่างที่พยศต่อหัวใจขึ้น หลังของแกค่อมโค้งเพราะวันเวลาที่ผ่านมาอยู่กับการทำงานหนักมาค่อนชีวิต พอถึงวัยเจ็ดสิบมันก็โค้งลงซบดิน ทุกอย่างในตัวแกคล้ายเกี่ยวข้องกับคณิตฯ ต่างกันที่ว่าแกเป็นทศนิยมที่รู้จบ&.
เฒ่าสีเดินไปที่กรงนก บนลานหญ้ากว้างของทุ่งที่ไร้ต้นข้าวทุกอย่างเหมือนปราศจากชีวิตมันเป็นภาพเศร้าหม่นของกาลเวลาที่ระบายด้วยโทนสีทึบทึม ทุ่งหญ้าแห้ง ชายชรา นกต่อ ใบไม้เศร้า และแผ่นดินซึม แกนั่งลงเก็บตาข่ายดักนกเงอะงะทีละหลัง พอผ่านมาถึงตรงที่นกคุ่มป่านอนตาเหงาดิ้นเพื่อหาอิสรภาพยิ่งมันเห็นเฒ่าสีแล้วมันยิ่งฮึดกระโดดทั้งๆ ที่ปีกไม่อาจฉีกบินเหนือน่านฟ้าใดได้ แกยิ้มเห็นช่องว่างของฟันโย้บนริมฝีปากแตกระแหง มือโปนด้วยเส้นเลือดคว้าจับนกคุ่มป่าอกมันคมแทบบาดมือ
เอ็งก็อดอยากเหมือนกันนี่หว่า นึกว่ามีแต่ข้าที่หิวเป็น
แกปลดนกจากตาข่ายมัดขามันด้วยเครือย่านาง ถอนขนปีกเด็ดความฝันที่จะบินของมันเสียสิ้น นกไม่อาจบินมีความหมายใด? แกปลดกรงนกจากขาตั้งไม้ไผ่ประณีตและบรรจงราวการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กทารก วันนี้เสียงเอ็งดีใสยิ่งกว่าหยาดน้ำค้าง ต่อให้นกทั้งประเทศไม่มีทางร้องสู้เอ็งได้ดอก
แกชมนกต่อไม่ขาดปาก เก็บขาตั้งที่คล้ายขาตั้งกล้องต่างกันเพียงมันเป็นไม้ไผ่พื้นบ้านเท่านั้นเอง แกพลาดขาตั้งบนไหล่หลุบ หิ้วนกไว้ปลายไม้เดินกลับมายังต้นมะม่วงใบเหนื่อยแดด นั่งลงที่เก่าดูเหมือนเหงื่อชุ่มอกโรย เฒ่าสีวางนกลงข้างๆ เปลี่ยนน้ำให้มันใหม่ พร้อมหยิบปลวกสองก้อนมาบิแยกเทปลวกตัวเล็กๆ ลงไปในกรง นกต่อหิวมาแต่เช้าตรู่พึ่งได้กินก็จิกเสียลืมเจ็บ ปลวกที่ให้นกย่อมเลือกเฉพาะปลวกที่มาจากต้นไม้เท่านั้น หากเป็นปลวกที่ขึ้นเป็นโพนดินใหญ่ตามท้องทุ่งหรือตามป่าโคกแถววัด ตัวปลวกมันใหญ่ไม่แน่เคาะลงไปมันอาจกินนก ปลวกต้นไม้ตัวเล็กพอดีคำ
รางวัลของเอ็งมีไม่บ่อยนักหรอก เหมือนข้านั่นแหละนานๆ จะได้กินลาบนกเสียที กินให้อิ่มพรุ่งนี้อาจไม่มี
แกปลดนกคุ่มผอมออกมาจากผ้าข้าวม้า ถอนขนบนตัวมันทีละขน บางทีถอนแรงหนังหุ้มเนื้อบนตัวของมันลอกเหวอะออกเป็นแผ่นกว้าง เผยเห็นเนื้อสีแดงขยับเต้นตามลมหายใจรวยริน
เอ็งตายอย่างมีเกียรติรู้ไหม ตายเพื่อเลี้ยงคนจน พวกข้าไม่มีวันลืมบุญคุณเอ็ง
เฒ่าสียังบ่นพึมพรำกับนก ดวงตาของนกยังใสวาวหากมีน้ำตาคงไหลพรากจ้องมองเฒ่าสี
อย่ามองข้าอย่างนั้นสิว่ะ บาปกับความหิวเป็นคนล่ะอย่างกัน ข้าบาปเพราะฆ่าเอ็งแต่ข้าได้บุญเพราะเลี้ยงหลายชีวิตที่บ้าน พระท่านจะให้พรเสียงดังต่อเมื่อข้าเอาลาบนกไปถวาย
นกคุ่มมันก็แปลกหากมันตายขนจะถอนยากและติดหนังออกมาเป็นกระจุกไม่น่ากิน ตอนนี้เนื้อตัวมันเกลาเกลี้ยงเผยเห็นอกคมปานมีดและซีกโครงผอมของนก
เอ็งผอมเกินไป ข้าจะลาบใส่ก้านกล้วยสักห้าก้าน ให้ได้ถ้วยโตๆ แบ่งกันให้ทั่วญาติ พี่น้องข้าจะได้กินและข้าจะอิ่มในอกมากกว่าในกระเพาะ เมื่อทุกคนได้กินดีอยู่ดีแม้เพียงค่ำคืนเดียวก็ตาม
เฒ่าสีถอนขนเสร็จแล้ว นกไม่มีขนเหมือนคนขาดความฝัน แกเอากระติกน้ำแขวนไว้บนกิ่งมะม่วง ได้เวลาแล้วที่แกจะกลับบ้าน กลับไปพร้อมเนื้อนก แกเห็นรอยยิ้มของเมียคู่ทุกข์ หลานคนยาก ญาติคนจน ในตอนนั่งล้อมวงข้าว ยิ้มในดวงหน้าเส้นยับพลอยเขยื้อนเหนือริมฝีปาก
ตกเย็นหลังโรงเรียนเลิก หลานชาย-หลานสาววัยซน 3 คนกลับมาบ้านพร้อมเนื้อตัวมอมแมมเสื้อผ้าเปลี่ยนสีมันเก่าจนเส้นด้ายผุ ยกมือสวัสดียาย หลานคนโต
ยายหิวข้าวมีอะไรกินหรือเปล่าครับ
เด็กน้อยลูบพุงโร หลานสาววัยหกขวบก็บ่นเช่นเดียวกัน
อย่าพึ่งกินเลย ค่อยรอเวลาเย็น ปู่เอ็งได้นก จะลาบให้กินอดใจรอสักหน่อย พาน้องไปเก็บยอดใบสาระแหน่ หอมเป เด็ดยอดกระถินริมทางนั่นมาด้วย ฝนไม่ตกนานแล้วยายกระถินไม่กล้าแทงยอด
ผักอะไรก็เก็บมาเหอะ มาแกล้มกับลาบ ไอ้แก้วส่วนเอ็งไปตัดก้านกล้วยมาให้ยายสักห้าก้าน
หลานตัวน้อยต่างแยกทางกันหาเครื่องปรุงนานแล้วที่ไม่ได้กินลาบ กินแต่น้ำพริกปลาร้าแจ่วบอง เอาข้าวเหนียวจ้ำจนหนอนในถ้วยตาลาย พอปลาร้ามันแห้งติดถ้วยก็เทน้ำอุ่นใส่อีก วันนี้จะได้กินลาบ ลิ้นจะสัมผัสเนื้อนก หมาบักมอมอีลายเหยาะร่างผอมตามเด็กน้อย มันวิ่งเซเพราะท้องกิ่วแต่หมามันก็หวังว่าจะได้กินเศษลาบนก มันจึงประจบนายเป็นพิเศษ ยายพาก่อไฟจากไม้ฟืน ยกหม้อก้นดำขึ้นวางบนเตาแตก พอน้ำเดือดตักปลาร้าตัวโตโยนลงไปปลาตายว่ายวนเพราะแรงเดือดน้ำ หนอนตัวโตตายลอยเหนือน้ำร้อน พอได้ที่คว้าผ้าขี้ริ้วยกหมอลง ตั้งหม้อนึ่งข้าวเหนียวแทน ข้าวคั่ว พริกป่น หัวหอมแดง ข่าอ่อน เครื่องปรุงต่างๆ วางอยู่รอบตัว แกปลดนกคุ่มจากหัวเสามันยังไม่ตาย ดวงตามันจ้องมองเขม็ง
อโหสิให้ข้าเถอะ ความจนต่างหากที่ฆ่าเอ็งเจ้านกเอ๋ย หากมีเงินข้าจะซื้อเนื้อหมูสามชั้นจากตลาดและจะไม่ฆ่าสัตว์ วันพระจะไปจำศีลแทนการออกหากบหาเขียด ชาติหน้าข้าจะได้เกิดมาพร้อมเงินถุง
ยายพาเดินไปถึงต้นเสาเรือนแกกระชับมือจับขานกแน่นฟาดหัวนกกับต้นเสา นกคุ่มดิ้นพรวดปีกมันพยายามบิน มันกระตุกอยู่หลายทีหัวมันน่วมสมองมันปริ เลือดสายเล็กสาดกระเซ็นแต้มเสาเป็นด่างดวง นกคุ่มตายยายพาเศร้า
ชาติหน้าเห็นทีกูจะเกิดมาจนอีก อย่าให้กูถูกเลขเป็นเด็ดขาดจะทำบุญใหญ่สร้างศาลาให้พระท่านกวาด-ถูเสียให้เหนื่อย ยายพาวางนกไว้บนเขียง แกสาละวนหามีดมาฟักเนื้อนก
แมวหง่าวเอวกิ่วหมอบเชื่องไร้พิษสง มันมองดูยายด้วยดวงตาของผู้รู้คุณนบนอบและกตัญญู มันไม่ไหวติงบิดตัวขี้เกียจราวไม่สนใจใครในโลกนอกจากตัวมันเอง พอยายพาหันหลังความกตัญญูถูกเก็บเอาไว้บนหิ้งพระ มันย่องเงียบและตะครุบนกไว้ในปากกระโดดเผ่นออกมาจากในครัวดวงตาของแมวสำนึกผิดหากมันพูดได้มันคงบอกทุกคนว่า
ข้าไม่อยากแย่งอาหารของนายแต่ข้าหิว ความหิวต่างหากมันแย่งอาหารมาจากนาย
แมวเคี้ยวนก มันฉีกเนื้ออย่างประณีตกินอย่างผู้ดีแมวต่างจากหมาตรงที่ว่ามันเป็นผู้ดีมีมารยาทในการกินการใช้ชีวิต แต่ละคำที่มันเคี้ยวทำร้ายความรู้สึกของยายพา นางเห็นนกในปากแมว นางเห็นความหวังของหลานต่ออาหารมื้อนี้ นางเห็นผัวผู้ชราตากแดดไปต่อนก นางเห็นความยากจนและนางเห็นความหิวอย่างแจ่มชัด คว้าไม้ขัดหม้อข้าวฟาดที่เอวแมว มันสะดุ้งร้องเงี๊ยว แต่ปากยังคาบเนื้อนก กระโดดหลบลี้หนีหาย มือยายสั่น หัวใจยายวิตก น้ำตาของยายเหมือนจะไหล เมื่อหลานโผล่หน้ามอมมาพร้อมก้านกล้วยในมือตาแววใสฉายความหวัง ยายผมจะลนขนนกให้ ผมทำได้
ไม่ต้องยายทำเอง ไปเล่นกับเพื่อนเถอะกลับมาค่อยมากินลาบนก
หลานผละจากไป ก้านกล้วยในมือไหวระริก แววตาหวั่นด้วยน้ำตาคลอ แกจะเข้าครัวลาบนก&.
ทุกคนล้อมวงกินข้าวกันพร้อมหน้า ในกระด้งถูกเรียงวางด้วยผักหลากชนิด ในถ้วยสังกะสีใบโตมีลาบนก เนื้อมันข้นกลิ่นปลาร้าต้มหอมอ่อนกว่าแก้มสาวกรุงฯ
แบ่งไปให้บ้านข้างๆ หรือยังยาย
ตาถามขึ้นขณะปากเคี้ยวลาบนกละเมียด
แบ่งไปให้แล้ว กินเถอะไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอก แซบบ่บักแก้ว บักกล้า อีกุ้ง
นางถามหลานด้วยรอยยิ้ม แซบหลาย หล้าจะบอกเพื่อนทั้งโรงเรียนว่าได้กินลาบนก
นกของปู่มันเก่งโตขึ้นผมจะไปต่อนกมาให้ยายลาบหลายๆ ตัว จะเอาไปโรงเรียนให้ครูกินด้วย ปู่หัวเราะ ปั้นข้าวเหนียวกระชับในมือ ต่อไปนกไม่มีให้เอ็งต่อหรอก ตัวที่ปู่ต่อได้นี่ตัวสุดท้ายของทุ่งแล้ว ปู่พยายามอยู่เกือบสองอาทิตย์มันถึงยอมแพ้
เมื่อท้องทุกคนอิ่มยายเก็บถ้วยชามไปกองไว้ข้างโอ่งขอดน้ำ ส่วนตายังคงนั่งมวนยาเส้นแล้วจุดจ่อกับตะเกียงน้ำมัน หลานๆ ล้อมตะเกียงทำการบ้าน เขียนตัวหนังสือโย้เอียง
ปู่ตัวนี้อ่านว่าอะไร
กล้า ป. 2 ถามขึ้นใช้ดินสอเกาหัวไปพราง
ปู่ไม่รู้หนังสือ ถามพี่เอ็งสิ
ยายเดินผ่านเข้ามานั่งลงหยิบห่อหมากขึ้นมา ใบพลูนึ่งแต้มปูนแดงผสมแก่นคูน เปลือกต้นสีเสียดรวมเข้าด้วยกัน นางส่งคำหมากเข้าปากเคี้ยวจนน้ำหมากแดงค่อยพ่นลงกระป๋อง
เอ่อวันนี้อีนางเขียนจดหมายมาอยู่ข้างๆ หมอนนะตา เอามาให้ไอ้แก้วมันอ่านหน่อย เผื่อมันส่งเงินมาซื้อน้ำปู น้ำปลา
ตาหยิบจดหมายส่งให้หลาน
อ่านให้ถูกทุกตัวนะไอ้แก้ว จะได้สมกับเรียนมาสูง
ไอ้แก้วเรียนอยู่ ป. 4 เริ่มสะกดคำจากจดหมายของผู้เป็นแม่ รู้สึกดีใจในจดหมายมีชื่อตัวเอง ชื่อของทุกคนที่สำคัญจดหมายมาจากกรุงเทพฯ แม่เคยบอกจะซื้อเสื้อใหม่ๆ ซื้อของเล่น ซื้อกระเป๋านักเรียนให้ แต่พออ่านมาถึงบรรทัดสุดท้าย ความหวังของทุกคนก็สลาย
หนูคงไม่ได้ส่งเงินมาให้แม่ ช่างรับเหมาก่อสร้างโกงเงินพวกเราทุกคน ตอนนี้หนูรองานใหม่อยู่ อีกไม่นานหนูจะส่งเงินกลับบ้านพร้อมซื้อของมาฝากทุกๆ คน เสียงอ่านของแก้วได้ยินถ้อยคำชัดเจน
ยายพามองหน้าทุกคนผ่านตะเกียงจางแสง และนางมองดูแมวมันหมอบอยู่ไม่ไกลนักบนฟูกเก่าที่ทุกคนนอน เลียริมฝีปากแผล็บ หลับตาพริ้มไม่สนใจใคร มีแต่มันกับแกเท่านั้นที่รู้ว่าวันนี้ลาบก้านกล้วยมิใช่ลาบนก&..