เพลินเพลงลูกทุ่ง : สาวกลางน้ำใส (ภาคเพลงละพันวันละเพลง)
พบกันอีกครั้งครับ สำหรับวันจันทร์อันสวยงาม วันนี้เรามาฟังเพลงตามคำขอจากคุณ จสอ.โจ ผู้ซึ่งน่าจะมีวัยสูงอายุพอควรนะครับ มิตรรักแฟนเพลงทรานซิสเตอร์ท่านใดมีจดหมายเข้ามา อย่าใจร้อนนะครับ ผมจะพยายามอ่านและตอบให้ได้ทุกฉบับ ไม่ว่าจะจากคุณหนุ่ม กางเกงหลวม , คุณแฟนดำเนิน ,คุณแนท และอีกหลายๆคุณนะครับ
อย่าลืม-แชลนอลเอทางลำโพงด้านซ้าย แชลนอลบีทางลำโพงด้านขวา นะครับ
สาวกลางน้ำใส
เมื่อยามน้ำเหนือไหลหลั่งหลากนอง ทั่วบึงหนองเจิ่งทั่วไปในหัวใจแสนจะฉ่ำชื่น เมื่อมองน้ำ ใสไหลเชี่ยววน สุขใจฉันจนเต็มตื้นยามน้ำขึ้นล้นนอง ทั่วบึงหนองคลองเห็นแต่น้ำใส
ได้มองเห็นสาวสาวหนุ่มเล่นน้ำ ผุดดำโผว่ายแหวกธารพาสำราญแสนสุขไฉน ได้มองสาว น้อยลอยเล่นน้ำ โบกตัวโผดำเวียนว่ายเมื่อมองแล้วให้วาบหวาม สาวยามอาบน้ำสวยงามยั่วใจ
โอ้โอ่โอโอ๊โอละเน้อ โอ๊โอโอ้โอละเน้อ โอ๊โอโอ้โอละเน้อ แม่นุ่งกระโจมอกรัดทรง
แล้วเล่นน้ำบ่า คลื่นซัดมาพาวาบหวาม งามแสนงามยั่วจิตหวั่นไหว อยากเป็นปลาน้อยลอยเคียงข้างชิดนางใกล้ใกล้ หลับตาหลับใจคิดไปสาวอาบน้ำใสนี้ช่างงามเหลือ
เหลือบมองเห็นสาวน้อยนุ่งห่มน้ำแวบแวมหวามวาบทรวงใน กลางน้ำใสแทบจะเห็นเนื้อ
ได้มองแลเห็นใจเต้นตะลึง ภาพงามซึ้งใจไม่เบื่อ สุขตาแท้เมื่อได้มอง เมื่อยามน้ำนองแสนจะสุขใจ
หาก สุรพล ไม่เกิดการ ปีนเกลียวกับ เบญจมินทร์ คาดว่าผู้ที่จะเป็นศิษย์รักของเบญจมินทร์ก็ คือสุรพลนี่นั่นเอง เพลงของสุรพลไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยกับเพลงของเบญจมินทร์ ไม่ว่าด้านดนตรี-เนื้อร้อง อารมณ์ขันในเพลง แม้กระทั่งการสอดใส่เสียงหัวเราะลูกคอลงในเพลงขณะร้อง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอิทธิพลของเบญจมินทร์ทั้งสิ้น สุรพลเป็นศิษย์ที่ไม่เคยอยู่ร่วมวงดนตรีของเบญจมินทร์มาก่อนเลย
ยุคสมัยที่เพลงรำวงยิ่งใหญ่ครอบครองคลื่นวิทยุและตลาดแผ่นเสียง ท้าทายและสบตาเพลงลูก
กรุงอย่างชนิดที่ศักดิ์ศรีไม่มีด้อยกว่า นักร้องมากมายขฯะนั้นก็ก้าวล่วงมาจากวงรำวงงานวัด เป็น กองเชียร์ รำวงคอยขับเพลงจังหวะสามช่าและบีกินมห้หนุ่มสาวร่ายรำในงานเทศกาล แม้ ชาย เมืองสิงห์ , เบญจมินทร์ จะเป็นนักร้องรำวงที่ยิ่งใหญ่หาผู้ใดเสมือเหมือน แต่การก้าวมาถึงของ ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย ก็คล้ายประหนึ่งว่าเป็นการเข้ามาสอดรับกับยุคนสมัย เช่นที่ นิยม มารยาท , กุศล กมลสิงห์ ได้เข้ามาแล้ว
จังหวะ บีกิน สนุกๆ เทมโป้พอให้คลอนหัวตามจังหวะ และเสียงกรับนั้นก็เร้าใจเหลือแสนใน
สาวกลางน้ำใสนี้ จึงส่งให้ยงยุทธดังเป็นพลุแตกยิ่งขึ้น หลังจาก ขันหมากมาแล้ว , สัจจะของชาวนา ได้ประกาสศักดาเพลงรำวงไปก่อนหน้า ยิ่งเนื้อเพลงแอบอิงอยู่กับ อีโรติก อย่างชนิดที่ฟังไปน้ำลายไหลยืดไปด้วย พาให้จินตนาการเคลิบเคลิ้มเอาง่ายๆ ในภาษาสวยๆของเพลง น่าเสียดายที่เราพบว่ามันกลับวนไปเวียนมาอยู่แต่คำว่า วาบหวาม
เพลงของหนุ่มโรคจิตที่ชอบมองสาวแก้ผ้าอาบน้ำในคลอง เป็นเสน่ห์ยิ่งอย่างหนึ่งของลูกทุ่ง
ไม่ว่าจะเป็นกว๊านพะเยา ของ สุรพล หรือในเพลงตระกูลแม่น้ำโขง ของ ปอง ปรีดา ก็มีฉากแบบนี้อยู่ แต่ทั้งกว๊านพะเยา และของปอง นั้น ภาษาที่ใช้กลับสวยงามชนิดที่ฟังแล้วไม่ได้รู้สึกเคลิบเคลิ้มเห็นเนื้อหนังมังสาสาวน้อยเลย แม้ใจลึกๆพยายามจินตนาการอยู่ก็ตาม
เจ้าแต่งตัว ยามเล่นน้ำเจ้านุ่งกระโจม เด็ดดอกไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปกลางเพื่อนหมู่สาว (กว๊านพะเยา)
สวยงามไหมล่ะ
ก็ไม่ทราบว่าเมื่อจ่าแกฟังแล้ว แกจะจินตนาการมองเห็น ปุถุชน อยู่กลางน้ำใสไหมหนอ?