บางขณะแห่งบทละคร
มือน้อยๆ ของเธอเอื้อมไปที่รีโมทนิ้วน้อยคลิกปุ่มแดง จอภาพที่นิ่งงันของโทรทัศน์สี 14 นิ้ว ก็วูบไหวขึ้น เธอยิ้มที่ตัวเองมาทันเวลาละครหลังข่าว ซึ่งวันนี้เป็นตอนอวสานของละคร รักเหนือเมฆ
ตอนแรกของละคร
ฉันจะฆ่าแก พี่วิฑูรย์ต้องเป็นของฉันคนเดียว แก...แกแย่งคู่หมั้นฉัน
แววจันทร์ตบฉาดเข้าที่หน้าของประกายดาว กลิ้งคว่ำไม่เป็นท่า
ฉันเปล่าแย่งน๊า วิฑูรย์มาเอง ฉันเปล่าชวนน๊า เค๊ามาเอง ประกายดาวบอกเพื่อนด้วยแววตาที่น่าสงสาร
หญิงแพศยา นางมารไร้สังกัดนรก อีนกไม่มีรังคอน
แววจันทร์ตบอีกฉาด ประกายดาวเลือดปริ่มริมฝีปาก
ฉันไม่เคยแย่งใครนางเอกอย่างฉันไม่ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงอย่างนั้นเด็ดขาด
ประกายดาวน้ำตาไหลพรากเต็มสองตาอาบสองแก้ม เธอสะอื้นเห็นน้ำตาไหลได้เด่นชัด หล่นแหมะพื้นสะท้อนกระจายวาว
ดีละวันนี้ฉันจะให้แกตกเป็นเมียของพวกคนงานในไร่
แววจันทร์หัวเราะลั่นอ้าปากกว้างเห็นลิ้นไก่และเม็ดพริกที่ติดไรฟัน เดินไปเปิดประตูกระท่อมร้าง
ฉันจะให้แกมีราคีคาว ต่อให้พี่วิฑูรย์รักแกขนาดไหนก็เถอะ พอรู้ว่าแกไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องอีกต่อไปแล้ว ไม่มีวันซะละที่เขาจะรักแก ฮ่าๆๆๆๆราคาของแกก็จะตกจากการเปิดประมูล
เธอหัวเราะอีกจนน้ำตาไหล ดวงตาฉายแววดุดันและครุโชนด้วยความโกรธเกลียด รั้งเชือกที่มัดประกายดาวดึงขึ้นสูง ประกายดาวไม่อาจทำอะไรได้เพราะเชือกพันธนาการแขนขาของเธอเอาไว้แน่นหนา คนงานในไร่กล้ามโต 4 คนเดินเข้ามามันแสยะยิ้ม ยกมือเลียริมฝีปากวันนี้หมาขี้เรื้อนจะได้กินเนื้อหงส์
จัดการมันได้เลย ฉันยกให้เป็นรางวัลโบนัสพิเศษแต่อย่าให้มันตายละ อยากรู้นักพี่วิทูรย์ยอดรักของฉันจะทำยังไงเมื่อมาเห็นสภาพมันตอนโดนข่มขืน ฮิๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ โฮ่ๆๆๆๆหรือไม่แน่อาจมาไม่ถึง
เธอหัวเราะราวคนบ้า เดินเอามือกุมท้องออกไปนอกกระท่อมและงับปิดประตูลงอย่างผู้ชนะในเกมนี้
ภาพโฆษณาสบู่นกแร้งวูบขึ้นเหนือจอ
ใช้สบู่นกแร้งสิค่ะ ดับกลิ่นกายได้ถาวร ออนซอนกันทั้งบาง
หญิงสาวหน้านวลในโฆษณา ถูสบู่สุดแรงเกิดจนฟองล้นจอ เธอโผล่หน้าออกมาจากฟองสบู่สีขาว
หอมละมุนเนื้อ กลิ่นล่อเพศตรงข้าม ลองใช้สิค่ะ แล้วจะติดใจ
พอฟองสบู่จางเผยเห็นผู้ชายเต็มห้องแล้วภาพก็ตัดไป...เห็นผู้ชายอีกคน
เรารับประกันคุณภาพ ซื้อวันนี้หนึ่งก้อนแถมคนอาบน้ำให้หนึ่งคน ด่วนสิ้นค้าของเรามีจำกัด โทร... ภาพโฆษณาอันอื่นก็ตามมา
สาวน้อยนั่งลุ้น เมื่อกี้เธอแอบหลั่งน้ำตาให้นางเอกประกายดาว เธอเกลียดชังแววจันทร์เข้าลำไส้ใหญ่ออกทางทวารหนัก และรู้สึกว่าโฆษณามันช่างยืดยาวเสียจริงในเวลาสำคัญเช่นนี้ วิฑูรย์พระเอกหล่อร่างสูงเพรียวลมจะมาช่วยทันหรือเปล่านะ เธอครุ่นคิด ถ้าประกายดาวถูกขมขื่นเธอจะโทรไปด่าผู้กำกับทันที หรือไม่ก็ชวนแม่ค้าในตลาดเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งให้ผู้กำกับเจ๊งตลอดรายการ เธอหยุดคิดดวงตาถูกตรึงไว้กับจออีกครั้งหนึ่ง
ตอนที่สองของละคร
วิฑูรย์ขับรถด้วยความสบายใจ แหวนแต่งงานอยู่ในกระเป๋าเสื้อราคาแพงของเขา ไหนจะชุดเจ้าบ่าวที่เขาสั่งตัดพิเศษอีก รวมไปถึงการ์ดวันแต่งงานที่พิมพ์ไว้เพื่อมาแจกญาติมิตรเพื่อนฝูง คนรู้จัก อีกหลายกล่องวางซ้อนกันอยู่เบาะหลัง ความฝันเขาเป็นจริงเสียทีหลังจากทุ่มใจจีบประกายดาวอยู่แรมปี เขาจำได้ถนัดตาภาพนั้นฉายซ้อนเข้ามาในความทรงจำอีกครั้งหนึ่ง...
ในคืนพระจันทร์ฉีกยิ้มและนั่นจูบแรกของเขาและประกายดาวก็ผสานเข้าหากันมันหวานกล่อมและนุ่มละมุน ราวกับร่างของทั้งสองหลอมรวมกันเป็นร่างเดียว ขณะที่มือของเขาจะโอบรอบเอวของเธอ ประกายดาวก็ผลักอกเขาอย่างแรง...พร้อมตบหน้าเขาฉาดใหญ่เสียงดังได้ยินทั่วประเทศข้ามประเทศไปยังเขมรและลาวด้วย คุณเอาเปรียบประกายดาว คุณคงคิดว่าประกายดาวใจง่ายใช่ไหม๊
เขากำลังขยับปากที่จะพูด เอ่อ
คุณคงคิดสินะผู้หญิงทุกคนในบริษัทของคุณจะง่ายเหมือนกันไปหมด คุณดูถูกผู้หญิงเกินไปแล้ว เอ่อ
คุณไม่ต้องมาแก้ตัวและแก้ผ้าฉันไม่มีวันให้อภัยคุณเด็ดขาดคุณวิฑูรย์ คุณก็เหมือนผู้ชายทั่วไปเห็นแกได้ ฉันไม่ใช่ดอกไม้ริมทางสำหรับใครพอที่จะเด็ดดมแล้วทอดทิ้ง
เอ่อ...คือผมจะขอประกายดาวแต่งงานนะครับ
วิฑูรย์มองหน้าประกายดาวด้วยแววตาฉาบรักซึ้งลงไปถึงหัวใจและไหลเวียนกันทั่วร่าง ประกายดาวตะลึงงันเธอไม่คิดเลยว่าเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่จะขอแต่งงานกับสาวเสมียนเช่นเธอ เธอยิ้มทั้งน้ำตาและน้ำใจก็เอ่อนอง
ฉันรักคุณที่สุดในโลกค่ะวิทูรย์คุณเป็นผู้ชายที่วิเศษสุดเท่าที่ดาวเคยพบมา ฉันรักคุณค่ะ
แล้วประกายดาวก็โน้มคอเขาลงมาประทับจูบลืมคำพูดเมื่อแรกของตัวเองหมดสิ้น...เธอจูบหนักและหน่วงก่อนทั้งคู่จะล้มตัวลงในสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์...
วิฑูรย์สลัดความคิดเมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่พอดี เขาบีบแตรอยู่หลายครั้งแต่บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบ คนใช้ทั้ง 7 ไม่ปรากฏตัว เขาบีบแตรจนมือช้ำ ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตู เขาเดินลงไปเปิดประตูคฤหาสน์เองเป็นครั้งแรกในชีวิต เสียงเลื่อนล้อเหล็กบดรางแสบแก้วหูทั้งสองข้าง เขารู้สึกโกรธที่คนใช้ไม่ทำงานแต่อยากเพิ่มเงินเดือน ขับรถเข้าบ้านด้วยความหัวเสีย ไม่มีใครออกมาต้อนรับเขาเหมือนเคยทุกอย่างยังตกอยู่ในความเงียบ....และเงียบจนหน้าตกใจ ใบหน้าเขาถอดสีและเปลี่ยนสีขาวซีดเข้าไปแทน ปากรูปกระจับของเขาเผย ประกายดาว!!! วิ่งแจ๋นเข้าไปในบ้านในมือยังกุมแหวนแต่งงาน ภาพสะโลเส้นผมของเขาปลิวสลวย ฝีเท้าของเขาผสานเข้ากับเสียงจังหวะเต้นของหัวใจ ในมุมกล้องคฤหาสน์หมุนคว้าง
นายยอด โอ้ไม่... นางเยี่ยม โอ้ไม่.... นายสอน โอ้ไม่.... นางสร้อย โอ้ไม่.... นายก้อน โอ้ไม่... นางแก้ว โอ้ไม่... นั่นนายช้อย โอ้ไม่
วิทูรย์มองร่างที่ไร้ลมหายใจของคนใช้ทั้งเจ็ดนอนตายเลือดสาดเต็มพื้นด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด นาย...นาย...นายครับ
ช้อยคนใช้ผู้ซื่อสัตย์จากบุรีรัมย์ยกมืออันสั่นพร่าให้นายเห็นขณะเลือดเหนือริมฝีปากไหลเป็นทาง เขาไอกระอักเลือดสดออกมาหลายช้อนโต๊ะ
นายผู้หญิงถูกพวกมันจับตัวไปแล้วครับ
มือของช้อยร่วงพื้นและราวฟาดเข้าหัวใจวิทูรย์
ใครมันจับตัวประกายดาวไปช้อยบอกฉันมาช้อย บอกฉันมา
วิฑูรย์เขย่าร่างช้อยอยู่หลายครั้ง ช้อยถึงกลับมีลมหายใจอีกครั้งแต่กระนั้นดวงตาของเขาก็อ่อนล้าเต็มทนกลั้นลมหายใจเฮือกสุดท้าย เปล่งถ้อยคำอันแผ่วเบาออกมา
คุณแววจันทร์ครับนาย เธอจับคุณหญิงไปที่ไร่ เกียรติยศเหนือภูผา
วิฑูรย์สะดุ้งเฮือกปล่อยร่างของช้อยลงพื้นดังโครมใหญ่
ภาพตัดไปที่โฆษณาอีกครั้ง
คุณลองแล้วหรือยังยาสีฟันตราดอกบัวคลี่ ใช้แล้วฟันของคุณจะขาวกว่าแสงแดด นอกจากนั้นยังผสมสมุนไพรเจ็ดป่าช้า เมื่อคุณมีอาการปวดฟันเพราะฟันผุละก็ ขอแนะนำ...ยาสีฟันของเราสามารถใช้อุดฟันผุแก้อาการปวดได้ชะงักนัก
หมอหนุ่มใส่แว่นตาหนาเตอะไปหยุดที่กระจกเงา หยิบแปรงขึ้นมาบีบยาสีฟันใส่เต็ม แล้วเขาก็เริ่มแปรงฟัน หันหน้ากลับมาอีกครั้งหนึ่งแสงเจิดจ้าจากประกายฟันเขานั้นขาวเต็มจอทีวี และโฆษณาชิ้นอื่นๆ ก็ตามมา
เธอยังคงนั่งลุ้นให้วิฑูรย์ไปทันช่วยประกายดาว และต่อสู้กับเหล่าโจรร้ายด้วยมือเปล่า เธอหยุดคิดอีกครั้งเมื่อภาพวิฑูรย์ปรากฏบนจอแก้ว
รีบหน่อยสิพี่วิฑูรย์ ไปช่วยประกายดาวให้ทันนะจ๊ะ ส้มจะเอาใจช่วย
เธอบีบมือเข้าหากัน ดวงตาเป็นประกาย
ละครตอนที่สาม
วิฑูรย์ขับรถด้วยความเร็ว พุ่งตรงเข้าไปยังไร่ เกียรติยศ เหนือภูผา แต่รถต้องเสียหลักพุ่งออกนอกทางเหยียบเบรกกระทันหันชนโครมเข้ากับต้นฉำฉา ตามมาด้วยเสียงปืนเอ็มสิบหก อาก้า ลูกซอง ปืนกล ลูกกด อาพีจี วี๊ดบรึม...รถราคาหลายล้านระเบิดเป็นจุล วิฑูรย์กระโดดออกจากรถทันท่วงทีกลิ้งตีลังกาสามรอบ หลบห่ากระสุนปืนต่างชนิดและแรงระเบิดที่พวยพุ่งโขมงควันแดงวาบทาบฟ้าโฉบราวนกอีแอ่นเข้าบังต้นไม้อีกต้น คว้าปืนที่เอวให้ตายสิปืนเขาอยู่ในรถ เขาไม่มีอาวุธอะไรสักอย่างนอกจากมือเปล่า... เหล่าร้ายย่างสามขุมกันเข้ามาในมือของมันชูปืนและยิงกราดไม่กลัวต่ออำนาจของรัฐ...
วิฑูรย์ค้นตัวอีกครั้งมีเพียงแหวนเพรชวงเดียวเท่านั้น เขาหยิบแหวนเพชรขึ้นมาดูประกายเพชรสาดแสงแรงสะท้อน วิฑูรย์ยิ้มประกายเพชรทำให้เขาคิดอะไรออกจนได้ เขากุมแหวนไว้แน่นจนเส้นเลือดเหนือผิวหนังเขาโปนขึ้นพองามตา ไอ้คนแบกอาพีจีเล็งมาที่เขาพร้อมที่จะระเบิดต้นไม้ ในขณะที่มันจะเหนี่ยวไกปืนนั่น วิฑูรย์กระโดดลอยตัวออกมาจากหลังต้นไม้ดีดแหวนในมือออกไปทันควัน ประกายเพชรสาดจ้าเข้าตาเหล่าร้ายอย่างจังงังเจ้าข้าเอ๊ย...และแหวนก็ปะทะกับลำกล้องอาพีจี ไอ้คนแบกถึงกลับตกใจมันยิงขึ้นไปบนฟ้า เหนือหัวตัวเอง ราวจิวยี่ถมน้ำลายรดฟ้า เหล่าร้ายทั้งสิบเหลียวมองตามลูกอาพีจีคล้ายต้องมนต์สะกดก่อนจะคิดอะไรได้ มันก็หล่นลงมากลางวง บรึมมมมมมมมม......
ภาพในจอตัดไปที่ประกายดาว เหล่าร้ายล้อมร่างหอมกรุ่นของเธอเอาไว้ มืออันหยาบกร้านของคนไร่แกะกระดุมเม็ดแรกของเธอเบามือเผยเห็นเนินอกขาวนวลชวนชิม เธอถุยน้ำลายใส่หน้ามัน มันกลับยิ้มแสยะแยกเขี้ยวใช้เศษผ้าอุดปากอันจิ้มลิ้มของเธอ มือที่หยาบกร้านลูบไล้ไปตามลำคอขาวผ่องระหงส์ของเธอ พลิ้วเหนือใบหูและคลึงแก้มของเธอแผ่วเบาแต่เร่าร้อน เธอไม่อาจเปล่งเสียงใดๆ ได้ มีเพียงน้ำตาของเธอเท่านั้นที่ไหลอาบสองแก้ม กระดุมเสื้อเม็ดที่สองของเธอถูกละเมิด มือของมันสั่นระริกสัมผัสทรวงสะท้อนอย่างไม่ตั้งใจ ลมหายใจของประกายดาวขาดห้วงและเคว้งคว้างในอารมณ์ร่างของเธอร้อนผ่าวความรู้สึกแปลกใหม่ไหลผ่านเข้ามา......
ทันใดประตูก็เปิดออกแสงจากภายนอกสาดผ่านเข้ามาเยือน เธอหรี่ตามองไปยังประตู นั่นไม่ใช่วิฑูรย์แต่เป็นชายแก่ร่างท้วมเดินตรงเข้ามาในห้อง มันถอดเสื้อผ้าเสียล่อนจ้อน หนูขอดูละครจบก่อนได้ไหมน้า ส้มเด็กหญิงวัยสิบสามปีบอกต่อชายผู้นั้น
ละครน้ำเน่ามาให้ป๋ากอดดีๆนะจ๊ะหนู ป๋าจะกำกับละครให้หนูเอง อิๆๆๆ
ชายแก่ร่างท้วมโถมทับลงไปยังร่างของส้มมือมันแกะกระดุมเม็ดที่หนึ่งที่สองจนครบทุกเม็ดคล่องมือ และอีกมือหนึ่งก็ปิดโทรทัศน์
ไม่อยากให้เสียงใครมารบกวนสวรรค์ของเราจ๊ะ มีเพียงเสียงของหนูกับป๋าก็พอ อย่าให้ป๋าเสียตังค์ฟรี มืออันซุกซนซอกซอน.....
หนูขอดูละครตอนจบได้ไหมน้า เสียงนั่นปนสะอื้น
อีกสักสิบนาทีก็จะจบแล้วจ๊ะ
ส้มมองที่ประตูห้องของตัวเองน้ำตาของเธอไหล เธอเพียงคิดหวังให้วิฑูรย์มาช่วยประกายดาวได้ทันเวลาเท่านั้นก็สุขใจแล้ว ไม่อยากให้ประกายดาวต้องตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับเธอ เธอเข้าใจถึงความเจ็บปวด และเธอก็มุ่งหวังว่าใครสักคนที่จะมาเปิดประตูห้องนี้และพาเธอออกไปสู่อิสรภาพ...ใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องวิฑูรย์..
ละครตอนที่สี่ ไร้ผู้กำกับ ทุกคนต่างเล่นบทของตัวเองอย่างอิสระบ้างไม่อิสระบ้าง จบไม่บริบูรณ์.....