ระยะห่าง ระหว่างผม กับพ่อ [ The Space ]
ข่าวการจากไปของพ่อเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง
ก่อให้เกิดกระแสความคิดหลายอย่างในห้วงสำนึกของผม
ตลอดหลายชั่วโมงของเช้าวันนี้
ความจริงแล้ว ผมก็พอทราบข่าวการใช้ชีวิตเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล
ของพ่อตุ๊ยมาหลายหน ตุ๊ยเป็นเจ้าของร้านขายต้นไม้ที่ผมเข้ามาเซ้งต่อกิจการ
ด้วยเหตุผลที่ว่า ตุ๊ยต้องไปดูแลร้านขายต้นไม้ร้านใหญ่แทนพ่อที่ไม่ค่อยสบาย
ผมคุ้นเคยกับพ่อของตุ๊ยพอสมควร
เหตุผลที่สำคัญนอกเหนือจากการที่ผมเป็นเพื่อนสนิทของลูกชายแกแล้ว
ผมกับพ่อของตุ๊ยพูดภาษาเดียวกัน ... เรื่องต้นไม้
ก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามารับช่วงต่อกิจการร้านขายต้นไม้ของตุ๊ย
ผมเคยไปนั่งคุยกับพ่อตุ๊ย ที่ร้านขายต้นไม้ร้านใหญ่ของแกเสมอ ๆ
มันเป็นการส่งผ่านประสพการณ์ตรง ของคนที่ใช้เวลาไปกว่าค่อนชีวิต อยู่กับต้นไม้
ปัญหาบางอย่างที่ผมเคยสงสัย กับสิ่งมีชีวิตสีเขียว ๆ จะได้รับคำตอบที่ดีจากพ่อตุ๊ย
ความการุณย์ที่ถ่ายทอดมาทางสายตา
ทำให้ผมอบอุ่น จนบางครั้ง ...
ผมเผลอคิดไปว่า ผมเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของแกด้วยซ้ำ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมกลับมาคิดถึง ... พ่อของผมเอง
ปีนี้ พ่ออายุ 65 แล้ว ชีวิตปัจฉิมวัยที่อยู่กับการดูแลกิจการห้องเช่าย่านบางพลีใหญ่
ในขณะที่ผมอยู่ดอนเมือง
ดูจะถ่างให้ผม กับพ่อ มีระยะห่างกันอยู่ช่วงหนึ่ง
มันเป็นพื้นที่ว่างทางกายภาพ ถ้าวัดกันถึงระยะทางข้ามกรุงเทพ ฯ ทั้งจังหวัด
แต่ลึก ๆ ในใจ ผมไม่ปฏิเสธตัวเองหรอก
ว่าจริง ๆ แล้ว ผมมีช่องว่างทางใจระหว่างผม กับพ่อของผม อยู่ระยะหนึ่ง
ผมไม่แน่ใจหรอกว่า ระยะห่างนี้ มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ความทรงจำในวัยเด็กของผม ...
ผม กับพ่อ ใกล้ชิดกันมาก
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมยังจำตอนที่พ่อ พาผมไปดูการแข่งขันฟุตบอลภายใน ระหว่างหน่วยงานของ
องค์การอุตสาหกรรมทหาร กระทรวงกลาโหม
พ่อผมลงเตะด้วย ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาลฟ์ ขององค์การแก้ว
ภาพผู้ชายผิวคล้ำแดด ในชุดนักฟุตบอลที่มีเบอร์ 7 อยู่กลางหลัง
วิ่งสกัดบอลจากปีกขวาขององค์การฟอกหนัง
สะกดความรู้สึกของเด็กผู้ชายอายุ 6 ขวบคนนั้น ให้ตื่นตะลึงกับภาพของชายที่เขาเรียกว่า พ่อ..
พ่อที่เข้มแข็ง พ่อสวนเข้าหาฝ่ายตรงข้าม ...
พ่อ .. เก่งที่สุด
...
แบ๊คซ้ายทีมองค์การฟอกหนัง โยนลูกเข้ามาจากทางริมเส้น
พ่อกระโดดขึ้นเบียดแย่งบอลกลางอากาศกับผู้เล่นอีกคนหนึ่งของทีมองค์การฟอกหนัง
...
ลูกลอยออกไปทางขวา พร้อมทั้งพ่อที่ตกลงมาทรุดกับพื้นสนาม
หูผม ... ได้ยินเสียงนกหวีดยาวของกรรมการ
ตาผม ... มองเห็นเลือดไหลทะลักออกมาจากหางคิ้วซ้ายของพ่อ
...
ผมวิ่งแซงหน้าอากำพลเพื่อนของพ่อ ที่หิ้วกระเป๋าปฐมพยาบาล
ผมวิ่งเข้าไปหาพ่อ ทั้ง ๆ น้ำตานองหน้า
...
น่าแปลกที่เรื่องราวนี้ ผ่านชีวิตผมมาเป็นเวลานานมากแล้ว
แต่ผมกลับจำเหตุการณ์วันนั้นได้ เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
จะได้แม้กระทั่ง ตอนที่ผมชี้หน้าผู้เล่นทีมองค์การฟอกหนังคนนั้น
" มึงศอกพ่อกู ..... มึง ............ ไอ้ .. #@$&*! .................."
ก่อนที่อากำพล จะอุ้มผมออกมาที่ข้างสนาม
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ถึงจะใกล้ชิดกันแค่ไหน มันก็ยังมีช่องว่าง ระหว่างเราสองคนพ่อลูกเสมอ
และยิ่งเด่นชัดขึ้น เมื่อผมพยายามพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่า
ผมโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้แล้ว
ด้วยการเดินออกมาจากบ้าน มาอยู่กินกับผู้หญิงที่ผมรัก โดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน
ผมคงเป็นเด็กดื้อคนเดียว ที่หนีออกจากบ้านตอนอายุ 24 และทำงานเป็นข้าราชการ
พ่อไม่แม้แต่จะโทรศัพท์หาผม
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน
ผมเองก็เลือกที่จะไม่โทรศัพท์หาพ่อ
ทั้ง ๆ ที่เบอร์พ่ออยู่หน้าแรกในสมุดจดเบอร์โทรศัพท์ในกระเป๋าตังค์
2 ปีเต็ม ๆ กับการขาดการติดต่อกับพ่อ มีเพียงการส่งข่าวคราวไปถึงแม่บ้าง ผ่านทางน้องสาวของผม
เขาว่ากันว่า .. เด็กผุ้ชาย มักจะติดแม่ แต่พยายามทำตัวเป็นคู่แข่งกับพ่อ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จนกระทั่ง ผมตัดสินใจซื้อบ้านทาวน์เฮาส์หลังเล็ก ๆ
เพื่อลงหลักปักฐาน และเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับผู้หญิงที่ผมรัก ( ยังเป็นคนเดิม และยังเป็นมาตราบทุกวันนี้ )
ผมถึงกลับบ้าน ... ไปหาพ่อ
เพราะเมื่อรวมรายได้ต่อเดือนของผม กับเธอแล้ว มันยังไม่พอที่จะยื่นขอกู้ซื้อบ้านกับแบ๊งค์
ผมกลับไปขอให้พ่อ .. กู้ซื้อร่วมกับผม
พ่อยังมองผมในสายตาแบบเดิม เหมือนกับตอนที่ผมอายุ 9 ขวบ
แววตาที่มองเด็กดื้อคนนั้น ที่เดินเข้ามาหา แล้วขอให้พ่อซื้อวงล้อรถจักรยาน BMX ให้เขา
ด้วยเหตุผลที่ว่า ความอดทน ในการอดค่าขนมเกือบ 3 เดือน เพื่อเก็บเงินไปซื้อส่วนประกอบ
ของรถจักรยานมาทีละชิ้น ทีละชิ้น มันหมดลงพร้อมกับจานดูดชิมาโน่ ( สเตอร์หน้า )
ทุกอย่างถูกประกอบเข้าด้วยกัน เป็นรถจักรยาน BMX ที่เต็มคันแล้ว ขาดเพียงแต่ล้อ
รถ BMX คันสวยที่ไม่มีล้อ .. ความฝันที่วิ่งไม่ได้
...
พ่อลงชื่อในสัญญากู้ซื้อบ้าน
เหมือนกับตอนที่พ่อกลับมาเติมความฝันของผม
ด้วยการหิ้ววงล้ออลูมิเนียมเงาวับที่ซื้อมาจากวรจักร มาส่งให้ผม
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
จนบัดนี้
ผมยอมรับความจริงบางอย่างของชีวิต
ผม กับพ่อ มีระยะห่างกันเสมอ ไม่ว่าผมจะพยายามวิ่งไล่ให้ทันพ่อสักเท่าไหร่ก็ตาม
มันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว และมันจะเป็นอย่างนี้ต่อไป
ตราบเท่าที่ลมหายใจของเราสองคนยังมีอยู่
มันเป็นระยะห่าง .... ที่ติดตัวผมมา ตั้งแต่เกิด
...
พอผมเกิด พ่ออายุ 32
พอผมอายุ 5 ขวบ พ่ออายุ 37
ตอนนี้ ผมอายุ 33 พ่อไปรออยู่ที่ 65
ถ้าวันไหนที่พ่อจากผมไปนั่นแหละที่อายุของพ่อจะหยุดนิ่งอยู่กับที่
แล้วผมก็จะเข้าใกล้พ่อเข้าไปเรื่อย ๆ .. เรื่อย ๆ ...
ถ้ามันเป็นเช่นนั้นแล้ว
ผมจะภูมิใจมั้ย ... ถ้าวันหนึ่ง ผมวิ่งไล่พ่อทัน
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ผมอยากให้มันมีระยะห่างระหว่างผม กับพ่อ ต่อไปอย่างนี้อีกนาน ๆ .. จะดีกว่า
พรุ่งนี้.. ผมว่า
ผมจะไปหาพ่อ ...