ริมฝั่งชลถ้อยสนทนาธรรมศิลป์

by ปุถุชน @31 ส.ค.47 15.05 ( IP : 202...6 ) | Tags : กระดานข่าว
photo  , 530x495 pixel , 41,788 bytes.

กูคงไม่บวชเป็นพระดอก
ไอ้หอกมึงไม่เห็นหรือไร กิเลสตัณหาสารพัดจัญไร
บานตะไทในจิตกูคิดคำนึง

กูไม่ได้สวดธรรมะแก่มึง
เพียงตะลึงในความงามวิจิตรซึ้ง เมาชีวิตแล้วพิศเพ่งดูคนึง วัฒนธรรมไทยตรึงสถิตย์คู่ฟ้าอมร

แต่กูได้ยลได้ยินถึงครรลอง ทิศทางมองศาสตร์ศิลปอักษร ไม่เรเนอซองส์กาลเรืองรอง
ก็คลาสสิคยุคทองฝรั่งตาน้ำข้าว

ปัญญาชนไฉนถึงเป็นฉะนี้
สิ้นศักดิ์ศรีสิ้นคิดช่างปวดร้าว ตะวันตกงำความคิดดุจทาสบ่าว เหลือเพียงซากร่างนั้นที่เป็นไท


ป.ล.ภาพจาก www.tosit.com

Comment #1
ame (Not Member)
Posted @31 ส.ค.47 17.33 ip : 203...9

บางซาก ก็อาจตกเป็นทาสด้วยเช่นกัน

Comment #2
ฟอสซิล (Not Member)
Posted @31 ส.ค.47 17.45 ip : 202...6

ซากอารมณ์ไหม?

Comment #3
ผักเสี้ยว (Not Member)
Posted @31 ส.ค.47 21.39 ip : 203...101

อ่านแล้ว งง หน่อย ๆ
จะบอกว่าไม่บวชเพราะกิเลสหนา แต่ชอบวัดสวย  แบบนี้รึเปล่า?? แหะ ๆ

บ่เข้าใจจ้ะ...

Comment #4
ต่อเพื่อนซาก้า (Not Member)
Posted @1 ก.ย.47 15.36 ip : 168...182

; ] บทกวี ที่ดีนั้นมีมาก อยากจากฝากถึงเพื่อนยา หน้าตาหรอย กินอิ่มแล้วอย่ามัวตัวคอย ประดิษประดอย กลอนสด หมดจดสวยงาม
อัสลามัวไรกุม

Comment #5
บ.ก.หนวดรูปงาม (Not Member)
Posted @1 ก.ย.47 16.16 ip : 203...7

นานๆจะเห็นมุสลิมเอ่ยถึงสิ่งที่นับเป็นพุทธสักครั้ง


มันมีความแตกต่างของศาสนาจนกลา่ยเป็นเรื่อง "ต้องห้าม"ไปเสียแล้ว    ยิ่งในประเทศที่มีศาสนาอื่นเป็นศาสนาประจำชาติ  ด้วยชนส่วนใหญ่นับถือ  ชนกลุ่มน้อยในศาสนาอื่นก็ยิ่งจะมีโอกาสวิพากษ์และพูดถึงได้น้อยมาก    ยิ่งเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่รัฐพยายามอย่างยิ่งยวดว่าเป็นเรื่องแตกต่างของศาสนาอันดับมอดไปนานแล้วนั้น  ยิ่งทำให้เกิดความประหวั่นพรั่นพรึงต่อความละเอียดอ่อน    ยิ่งเห็นรัฐพูดปาวๆว่ามิใช่เรื่องความแตกต่างของศาสนาในเหตุการณ์หมาดๆ  แต่นั่นยิ่งเป็นการตอกย้ำจากรัฐเองว่า-ใช่! และทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้คนศาสนาอื่นที่ร่วมแผ่นดินเดียวกัน  มีโอกาสพูดถึงพุทธได้ยากยิ่ง  แม้บางทีการพูดถึงจากคนนอกศาสนาพุทธ  มันจะเป็นดั่งกระจกกรอบทองคำก็ตามที


งานชิ้นนี้ของปุถุชนมาแปลก  มีฉันทลักษณ์กำกับอยู่  แม้ไม่เคร่งอะไรมากมาย  แต่ก็เห็นได้ถึงสัมผัสบังคับ  การใช้ฉันทลักษณ์จึงเป็นการนำมารับใช้เนื้องานได้เหมาะเจาะ

กวีมุสลิมในประเทศนี้  เท่าที่รู้มาจะเขียนแต่กลอนเปล่าทั้งสิ้น    จะด้วยเพราะเหตุผลใดก็ตามที  มันเป็นการบอกเราว่า  เขาคิดถึงฉันทลักษณ์ในแง่ของ "ขนบ"  ไปแล้ว  และมันเป็นขนบในทางวัฒนธรรมเสียด้วย

การเขียนด้วยฉันทลักษณ์ในชิ้นนี้  จึงเป็นการนำมารับใช้เนื้อหาที่มีวัฒนธรรมแตกต่างจากที่ปุถุชนเป็นอยู่  เรามองได้สองทาง หนึ่ง-เขากำลังเสียดเย้ยกับวัฒนธรรมอื่น  สอง-เขากำลังพยายามทำความเข้าใจกับความเป็นศาสนาอื่น


องค์รวมของเนื้องาน  บ่งบอกชัดเจนว่าไม่ได้พูดถึงในเชิงแรกเลย  ดูได้จากบทแรก...

"กูคงไม่บวชเป็นพระดอก
ไอ้หอกมึงไม่เห็นหรือไร กิเลสตัณหาสารพัดจัญไร
บานตะไทในจิตกูคิดคำนึง"

"กู" กำลังบอกว่า เขาบวชเป็นพระไม่ได้แน่  เพราะในใจเขายังคงสิเนหาอยู่กับกิเลสทั้งปวง  หนาเกินกว่าจะขัดเกลาได้  เมื่อย่างเข้าบทที่สอง  เขาก็ใช้ "กู" ในความหมายของ "พระ"  ที่กำลังสวดเทศน์ธรรมะแก่ญาติโยม  โดยไม่ได้เข้าใจหลักธรรมลึกซึ้ง  และสรุปในสองบทสุดท้ายว่า  สถูปเจดีย์  พัทธสีมา  โบสถ์วิหาร  ซุ้มประตู  และจิปาถะที่ประกอบขึ้นมาเป็นวัดนั้น  เป็นวัฒนธรรมที่เราเข้าใจเอาเอง  โดยใช้หลักการของปรัชญาเรเนซองด์  ปรัชญาคลาสสิคที่ชาติตะวันตกได้ถ่ายเทมาให้เราเรียนรู้


แต่เมื่อดูทั้งหมดของเนื้องาน    ยังพบว่าปุถุชนยังขาดความเข้าในในเรื่องของ"วัฒนธรรม"ของ "ศิลปะ"  และขาดความเข้าใจในวิถีพุทธอยู่พอสมควร


มุสลิมจะพูดถึงพุทธได้ไหม?  คำตอบคือ ได้แน่นอน  เช่นที่เราพูดถึงอิสลาม  ฮินดู  คริสต์    พุทธนี่แหละที่ควรหันมาตรวจสอบดูสังคมพุทธว่าจริงดั่งที่คนศาสนาอื่นพูดถึงหรือไม่    และคนศาสนาอื่นก็ควรจะทำความเข้าใจในศาสนาอื่นที่ตนจะพูดถึงเสียก่อน  มันจึงจะกลายเป็นเรื่องดีงาม

Comment #6
ปุถุชน (Not Member)
Posted @1 ก.ย.47 16.43 ip : 202...6

-: อ่าวันนี้กูอ่านอย่างจริงๆ นะ เพราะมึงชงมา
รู้สีกว่าแต่ละบาทนั้นมึงให้เป็นสองคนสลับกันคุยใช่ไหม ประเด็นบทแรกหากอ่านผ่านแบบไม่สนใจนัก
อาจตีความโยงไปด่าพระได้ง่ายๆ อันนี้กูคิดนะ
แต่อ่านจริงๆ ตามคำ แม่งไม่เกี่ยวแน่

:)ใช่ ไม่เกี่ยวกัน

-:กูลองแต่งเรื่องนะ :)อืม -:ก่อนขึ้นวรรคแรก :กากกกกกกกก -:สองคนนี้คุยกันให้วรรคแรกเป็น 1 วรรคสองเป็น2 :คืออยากให้คนอ่านจินตนาการตามไง -:ประมาณว่า มันอาจนั่งแดกเหล้ากันคุยกันจิบชาริมน้ำ ไอ้สองเนี่ยมองวัดวาแล้วคิดไปเรื่อย อาจตะลึงในความสวยอลังการ คิดย้อนถึงรากเหง้าความงามของวัฒนธรรมไทย แล้วจู่ๆ ก็รำเพยว่า "ไปบวชกันเหอะ"อย่างไม่มีเหตุผลจริงจังนัก :)ใช่ประมาณนั้นเลย


-:แล้วไอ้หนึ่งก็ตอบมาเป็นวรรคหนึ่งที่มึงแต่ง แต่แท้จริงมันไม่ได้ด่าใครมันด่าตัวเอง ประมาณว่ามันคงยังไม่พร้อมหรอก มันยังกิเลสหนา
บวชไปศาสนาพาลเสื่อมเพราะมัน(เช่นเดียวกันกู) :)กากกกกกกกกก -:ไอ้สองก็ตอบตามเนื้อผ้าตรงๆ :)เอาละเว๊ย ตีบทจนแตกซ่านเซ็น -:ก็นี่กูเองนะโว้ย คิกๆๆๆ สองไม่ขยายนะ มันไม่มีไร

:)เอาให้ขำก้อได้ -:ที่นี้ระหว่างบทสองกับสามนี่มันมีสูญญากาศทางความคิดไง

คือคนอ่านต้องจินตนาการตาม -:เข้าทางทฤษฎีไอ้โหน่งเลยงั้น "ช่องว่างในอากาศ"

:)อิอิ -:ว่าก่อนจะถึงวรรคสามนั้น(สองกับสามระหว่างนั้นบทสนทนาคือสิ่งใด) ที่นี้วรรคสามเนี่ย ไอ้หนึ่งมันตอบว่า...เออ...ก็รู้ว่าสวยวัดสวยวัฒนธรรมดี
แต่เห็นหลายคน(ปัญญาชนเสียด้วย) หลงใหลตะวันตก ที่มึงใช้คำเรเนครวยยยกับคลาสสิคมาเป็นสัญญะสื่อถึง... -:ความเป็นต.ต. :)ใช่แล้วครับ -:ประมาณว่าของตัวมีดีไม่มองไปหลงของฝรั่งประมาณนั้น :)ใช่ -:ก็แค่นี้บทสี่ไม่มีไรซับซ้อน


หมายเหตุ-เป็นบทสนทนากับสหายผู้หนึ่ง

Comment #7
กวีของเมื่อวาน (Not Member)
Posted @1 ก.ย.47 17.00 ip : 203...67

เออ..ท่านบ.ก.หนวดงามครับ
วรรคแรกโอเคครับ แต่วรรคสองที่ท่านตีความนั่นอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะครับ จากที่รู้จักพี่ปุ...เขาไม่ได้ไปไกลขนาดนั้นนะครับท่านบ.ก.ครับ เขาไม่ได้พูดถึงหรือพูดผ่านพระครับ เขาพูดถึงคนสองคนคุยกันธรรมดาครับ คนหนึ่งว่าวัดสวยเจดีย์สวย อีกคนว่าเออ...แต่ก็เห็นคนส่วนมากยังหลงใหลได้ปลื้มกับวัฒนธรรมต.ต.มากกว่านี่...(คำว่าเรเนซองซ์กับคลาสสิคเป็นเพียงsymbolicที่อ้างถึงความเป็นต.ต.เท่านั้นครับ) เออ...บทนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการจาบจ้วงศาสนาอะไรแต่อย่างใดครับ แต่ก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมสำหรับการตีความอันเปิดกว้างซึ่งเป็นสเน่ห์ของกวีอยู่แล้ว แสดงความคิดเห็นด้วยมิตรนะครับท่านบ.ก.

Comment #8
หมี่เป็ด ไอ้รูปหล่อ (Not Member)
Posted @2 ก.ย.47 16.02 ip : 203...13

เอาละสิ บ.ก.หนวด  มีคนโต้ความเห็นเข้าแล้วสิท่าน  555555


ดีครับดี  มาถกกันเยอะๆ  มาคุยกันมากๆ  น่ารักออก  บอร์ดยิ่งเงียบเหงาอยู่ด้วย  มา "สำแดงความเห็นทัศนะ" ตามที่ บ.ก.หนวดแกชอบพูดถึงบ่อยๆกัน

ความเห็นของกวีของเมื่อวานน่าสนใจยิ่ง  แต่ของ บ.ก. ก็น่าสนใจไม่น้อยในแง่ของการตีขลุมไปถึงภาพใหญ่


รอ บ.ก. แกมาอธิบายดีกว่าครับ  เมื่อวานผมคุยกับแกเรื่องนี้อยู่หน่อยๆด้วย

Comment #9
ครึ่งบก. (Not Member)
Posted @15 ส.ค.49 9.18 ip : 210...230

กวีมุสลิมที่เน้นฉันทลักษ์ก็หลายคนนา อาจมากกว่านิยมในกลอนเปล่าด้วยซ้ำ

มะเนาะ ยูเด็น วันเนาว์ ยูเด็น พจนาถ พจนาพิทักษ์ มูฮำหมัดฮารีส กาเหย็ม

Comment #10
กบ (Not Member)
Posted @31 ส.ค.51 11.53 ip : 118...118

ไอ้น่าทุเรศๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆถ้อย

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 53 user(s)

User count is 2427408 person(s) and 10163105 hit(s) since 15 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).