บทกวีเขียนจากภาพของ Van Gogh

by ปุถุชน @24 ก.ย.47 15.19 ( IP : 202...6 ) | Tags : กระดานข่าว

ถนนสายนั้นเรากำลังย่ำเท้าสาวก้าวเดิน
อาจเป็นทางที่จะนำพาเราไปสู่สรวงสวรรค์
รองเท้าคู่นั้นเก่าผุพังรอมร่อจวนขาดแล้ว
แต่ก็ยังรับภาระแบกร่างอันทรุดโทรม
ซึ่งวิญญาณได้บาดเจ็บบอบช้ำปางตาย
บนถนนที่ดูราวสายน้ำอันหลั่งไหลไปชั่วกาลนาน
หมู่มวลพฤกษชาติชอุ่มเขียวระบัดชูช่อใบสล้าง
เฉกเช่นเปลวเพลิงที่ลุกไหม้โชติช่วงชัชวาลตลอดกาล
แล้วต้นไม้ของโมเสสเป็นดุจเดียวกับต้นไซเปรสต้นนั้นไหมหนอ

เราเดินไปด้วยกัน เราเดินไปข้างหน้า
ใต้ฟ้านภากาศอันแจ่มจรัสเรืองโรจน์ผืนนี้
ระยิบระยับพร่างพราวแพรววับงามด้วยแสงดาว
แสงจันทร์ยามราตรีกาลสลัวทอประกายนำทาง
และเชิดฉายด้วยแสงตะวันยามทิวากาลเมฆเบาบาง

น่าอัศจรรย์ไหมเล่า น่าสนเท่ห์ไหมเล่า
ถึงแม้มิผยองกล้าเอื้อนเอยได้ว่าเราคือพระเจ้า
ผู้เสกสรรสร้างเอกภพและสรรพสิ่งทั่วสกลจักรวาล
แต่หาญบอกท่านได้ว่าเราคือผู้รวมเอาความงามวิจิตร
แห่งสุริยา จันทราและหมู่ดาริกาเข้าด้วยกัน


*ภาพนี้ ชื่อภาพ Road with Cypress and Star

Comment #1
หมี่เป็ด ไอ้รูปหล่อ (Not Member)
Posted @24 ก.ย.47 21.43 ip : 203...118

อือม.....

Comment #2
Posted @15 ต.ค.47 9.30 ip : 203...120

๏ ราตรีศศิงาม.................และอร่ามนภาพราว
คราเขียนอุระราว...............ผิว์ทะท้าวละเลงสี -
ฟ้าเทาขณะป้าย................สิระบายระทมมี
มองด้วยศมนีย์*.................อรดี ณ คิมหันต์ ๚

๏ แสงเงารุจิรา..................กระจะตา ณ ไพรวัลย์ ทอดผ่านคิริอัน.................ฐิติยั้งตระหง่านคง
ร่างเส้นผิว์พินิจ.................และลิขิตวนาพงษ์
มาลาจะประจง..................จิตคงละเลงไป ๚

๏ งานศิลปะนี้..................มิจะมีวิธีใด
อ้างอิงนิติใคร..................ดุจให้ประหลาดฤๅ
เขียนลมขณะพัด...............และนิทัศน์ขยับมือ
ป้ายสีมติคือ....................มุติสื่อสนองตน ๚

๏ เขียนรูปฤตุหนาว............อุระร้าวและอับจน แต่งแต้มมหิดล.................และสกลสะอ้านงาม
คลุมด้วยหิมะมวล..............ขณะง่วนระบายความ
เป็นภาพปริณาม................และนิยามนิรันดร ๚

๏ มองภาพ มน เพ่ง...........สิเชลงนิพนธ์กลอน-
กาพย์ฉันท์ขณะตอน..........อุระร้อนหทัยครวญ
เข้าใจนยะนี้.....................และวิธีสิสื่อมวล-
เรื่องราวนิติถ้วน................สิคระหวนคะนึงนาน ๚

๏ คุณคล้ายดุจทุกข์...........มิสนุกเกษมศานต์
ว้าวุ่นทรมาน....................จิระกาลสะท้านทรวง
จึ่งคิดวิธิคลาย.................สิสลายระทมปวง-
อ่อนล้าสละยวง................และระลวงสยบลง ๚

๏ เพียงอิสระนั้น...............บ่มิหวั่นฤทัยคง-
หมั่นขีดและผจง...............ดุจบ่งประสงค์จริง
หากมีทุรชน....................สิวิจลวิจารณ์ชิง-
ชังว่า นรศฤงค์*...............มิวิจิตรตระการตา ๚

๏ พวกเขาบ่มิฟัง..............จรคั่ง*ทุวาจา
ไร้ซึ่งสติมา-...................จะวิเคราะห์และไตร่ตรอง
ตราบสิ้นบริคนห์ ..............อนุชนประสงค์มอง
เป็นแบบนิติต้อง-..............สิสนองและบูชา ๚

๏ ราตรีศศิงาม.................ชุติวามสบายตา
ไม้ดอกผลิ ฤ ว่า...............สิประภาประดุจไฟ
มวลเมฆ ณ นภา...............ผิว์ถลาละลิ่วไกล
แปลกตาคละประไพ..........สิสลับละไมคง ๚

๏ มวลภาพบ่มิเลือน...........ดุจเหมือนสถิตตรง-
ปรากฏมุติบง...................คติตรง ณ ดวงตา-
วินเซนต์ ฯ ขณะเขียน.........และมุเพียรละเลงครา-
รุ่งโรจน์รวิจ้า....................สิสว่างกระจ่างครัน ๚

๏ ทุ่งข้าวกระจะนัก............ดุจลักษณ์ ณ อำพัน
โศกเศร้า ตม นั้น..............สรพัน ณ หทัย
เคยทุกข์และระทม............บ่มิสมระเริงใด
กลับชื่นรติใคร่.................ณ ทิวากระไรมี ฯ

๏ โอ้ว่าจิตรกร..................ฤ ฉะอ้อนและโศกี
แม้ไร้รติที่-......................นรชนสิให้มา
หากแม้นมตินั้น.................ดุจมั่นนิรันดร์นา
ปราศสุข ณ อุรา...............มิมล้างและเปลี่ยนไป ๚

๏ ราตรีศศิงาม.................ระดะวามนภาไกล
ฆ่าตนเพราะอะไร..............ฤ หทัยมิไตร่ตรอง
เปรียบผัวภริยา................รติมาสลายกอง
ฤาคุณสิคะนอง................วิเคราะห์ผอง มิ ตรองดี ๚

๏ ฉันควรอธิบาย...............และขยายระบานี
บอกว่าปฐพี....................มิเหมาะที่สิควรคุณ-
ผู้ซึ่งมนงาม....................มุจะข้ามนิยามดุลย์
เขียนรูปและพิธุร
.............ผิว์สลดและวุ่นใจ ๚

๏ ราตรีศศิงาม.................และอร่ามนภาไกล
ภาพเขียนระดะไป.............ณ นิวาสและปราศชน
ภาพเขียนสิริลักษณ์...........และวิจักขณ์คละรูปตน
ไร้ชื่อสิฉงน.....................ดุจคนปะปนกัน ๚

๏ สายตามิผละหนี............ผิว์ฤดีมิลืมวัน
โลกหล้าสรพัน.................มิสลายมลายเลือน
คล้ายมวลนรชน................และวิกลจริตเบือน
เสื้อผ้าดุจเหมือน..............สติเฟือนคละเกลื่อนตา ๚

๏ แปลกหน้าขณะพบ.........ฤ ประสบอนาถา
โปรดจงกรุณา.................มุทุตาและเกื้อกูล
ดุจไม้ศุจิแย้ม...................ผิว์กุหลาบและแหลมบูรณ์
ถูกบีบสิกระลูน*...............มิเสถียรจรูญใด- ๚

๏ ยังเกลื่อนหิมะขาว..........อุระร้าวและร่ำไร
ยามนี้ระบิใด....................ดุจะได้กระจ่างจริง
รู้ว่าขณะนี้.......................มุติที่สิอ้างอิง
คุณบอกมติสิ่ง.................ผิว์พะพริ้ง*ณ ผลงาน ๚

๏ คุณคล้ายดุจทุกข์..........มิสนุกเกษมศานต์
ว้าวุ่นทรมาน...................จิระกาลสะท้านทรวง
จึ่งคิดวิธิคลาย................สิสลายระทมปวง-
อ่อนล้าสละยวง...............และระลวงสยบลง ๚

๏ เพียงอิสระนั้น..............บ่มิหวั่นฤทัยคง-
หมั่นขีดและผจง..............ดุจบ่งประสงค์จริง
หากมีนรชน....................สิวิกลวิจารณ์ชิง-
ชังว่า นรศฤงค์*..............มิวิจิตรตระการตา ๚

๏ โอ้ว่าจิตรกร.................ฤ ฉะอ้อนและโศกา
แม้ไร้รติครา-..................ทุรชนประณามใด
หากไร้มุทิตา-.................มติพาระทมใจ
บางทีรติใฝ่....................ดุจไร้นิรันดร ๚ะ๛

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 63 user(s)

User count is 2427342 person(s) and 10162837 hit(s) since 15 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).