วันนั้น ... ผมบอกตัวเองว่า ... ผมเมา ..........
ผมว่า ... ผมยังมองเห็นชัดนะ
แสงไฟตัดหมอด สีออกทางวอร์มโทน
สาดลงมาตรงหน้า .. หน้าเลย ตรงหน้าผมเลย
วิศวกรเขาคิดมาดีแล้วแหละ ว่า ความสว่างขนาดกี่ลูเมน มันถึงจะส่องสว่าง
สร้างความปลอดภัยให้กับยวดยาน ที่จะสัญจรผ่านถนนช่วงนี้
มันสว่างมาก จนส่องมองเห็นเรื่องในใจผมเลยแหละ
ผมเมา ...
เอ๊า ... แหง๋สิ มีแต่คนเมาเท่านั้นแหละ ที่มานั่งมองไฟข้างถนน
ตรงป้ายรถเมล์เก่า ๆ แถว ๆ สี่แยกวัดพระศรีมหาธาตุ ตอนตี 3 แบบนี้
คุณเคยเมา ... บ้างมั้ย ?
มันไม่ได้หมายความว่า มันต้องเป็นผลพวงของการที่ระดับแอลกอฮอลล์
ในกระแสเลือด ถีบตัวพุ่งสูงขึ้น ตามอัตราการยกแก้วเบียร์ไฮเนเก้นจรดปาก
แล้วปล่อยให้น้ำสีเหลือง ๆ นั่น ไหลวะวาบลงคอ
อานุภาพของแอลกอฮอลล์ จะทำให้ระบบประสาทสัมผัสของคุณ ผิดเพี้ยน
ลดทอนประสิทธิภาพการตัดสินใจ ...
แต่ให้ตายเหอะ
มันไม่ลดทอนความเป็นตัวของคุณเองลงเลยแม้แต่นิดเดียว
มันกลับผลักดันความเป็นคุณ ออกมาตีแผ่ให้คุณเห็น
คนหัวรั้น เอาแต่ใจตัวเอง พูดมาก แรงปราถนาทางต่ำสูง ....
ผมมองเห็นตัวตนของผมเองหมดเลย เวลาผมเมา
แปลกตรงที่ ผมไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด เวลาผมเมา
เวลาที่ผมทำอะไรแผลง ๆ ...
ผมไม่ปฏิเสธตัวเอง ในด้านมืดที่ผมมีหรอก แต่ว่า ผมมักจะควบคุมมัน
ด้วยสิ่งที่เรียกกันว่า " สำนึก "
" สำนึก " ทำให้ผม ทำงาน ไปจ่ายค่าผ่อนบ้าน ซื้อข้าวสาร ล้างจานที่กินเมื่อคืน
แต่
" สันดาน " ทำให้ผม ยกแก้วเบียร์ สูงเหนือริมฝีปาก ปล่อยให้น้ำสีเหลือง
ไหลวะวาบปานท่อแตก ผ่านลงกระเพาะ
แล้วก็มานั่งยิ้มกับสภาวะการ " เมา "
ไม่สนใจด้วยซ้ำ ว่าพรุ่งนี้จะมีเงินซื้อนมให้ลูกหรือเปล่า เมียผมจะกลับมาหาผมมั้ย
...
ผมยังนั่งพิงเก้าอี้คอนกรีตสี่เหลี่ยม ตรงป้ายรถเมล์ หน้าการไฟฟ้าบางเขน
ผมบอกแล้ว ว่า ... ผมยังมองเห็นชัดนะ
ผมเห็นสุนัขตัวนั้น เดินตรงมาที่ผม ..
ใกล้เข้ามา .. ใกล้เข้ามา .....................
เขาจ่อจมูกดมฟุดฟิดที่รองเท้าผม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของรองเท้า
สายตาของเรา ประสานกัน
ในช่วงวินาทีที่แสนสั้น ผมมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง ในแววตาของสุนัขจรจัดตัวนั้น
ภาพของผู้ชายคนนึง ที่นั่งเมาที่ป้ายรถเมล์ .. กับสายตาที่หมดหวังกับชีวิต
แล้วมันก็ผ่านไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มันมาอย่างรวดเร็ว และไปอย่างรวดเร็ว
มันบอกกับผมว่า ... ผมเมาแล้ว
ผมยิ้มออกมา
สุนัขตัวนั้น ยกขาหลังขึ้น แล้วเยี่ยวรดขาผม
ปัสสาวะของสุนัข .. มันอุ่น ๆ
มันไหลเนืองนองที่ขาของผม ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ขับถ่ายราดรดลงบนขาของผมทุกวินาที
แต่แปลก ที่ผมยังนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น
ผมยังยิ้ม
แล้วพยายามบอกตัวเองว่า ........... ผมเมาแล้ว
เฮ้อ .. ถ้าผมไม่เมา ผมจะรู้มั้ยเนี่ย ว่า เยี่ยวหมา มันอุ่น ๆ ขนาดไหน
เอ ..................... แล้วเยี่ยวเราล่ะ
ผมยังยิ้ม ตอนที่ปล่อยให้ปัสสาวะของตัวเองไหลราดรดนองท่วมกางเกง
เออ ... เนอะ มันก็อุ่น ๆ เหมือนกันนี่หว่า
................................................................................................................
ตีสามคืนนั้น ถ้าใครผ่านไปทางย่านอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญบางเขน
หน้าการไฟฟ้าย่อย คุณจะเห็นผู้ชายคนนึง นั่งพิงเก้าอี้คอนกรีตบริเวณป้ายจอดรถเมล์
ช่วงปลายขากางเกงยีนส์สีซีด ๆ เนืองนองด้วยเยี่ยวสุนัข
พอ ๆ กับช่วงเอวที่เปียกชุ่มไปด้วยปัสสาวะของตัวเขาเอง
และรอยยิ้มที่เนืองนองอยู่เต็มใบหน้า
..........................................................
เขาแค่เมา ... เขาไม่ได้บ้า ขอบอก ...