มองโลกในแง่ดีบนความไม่แน่นอน

by ภัควดี @12 พ.ย.47 11.09 ( IP : 203...34 ) | Tags : กระดานข่าว
photo  , 350x261 pixel , 17,170 bytes.

โฮเวิร์ด  ซินน์ ZNet | Vision & Strategy The Optimism of Uncertainty by Howard Zinn; November 06, 2004

ในโลกร้ายกาจใบนี้  ความพยายามที่จะเกื้อกูลกันมักลางเลือนเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ทำลงไปโดยน้ำมือของพวกที่ครองอำนาจ  แล้วไฉนผมจึงสามารถตั้งมั่นอยู่ในปณิธานและดูเหมือนมีความสุขได้?

ผมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม  ไม่ใช่มั่นใจว่าโลกนี้จะดีขึ้น  แต่มั่นใจว่าเราไม่ควรยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนถึงไพ่ใบสุดท้าย  ผมจงใจใช้คำอุปมาอุปไมยนี้  เพราะชีวิตคือการเดิมพัน  การไม่เล่นคือการปิดโอกาสชนะ  การเล่น  การลงมือกระทำ  อย่างน้อยที่สุดย่อมสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโลก

มีแนวโน้มที่ทำให้คิดไปว่า  สิ่งที่เราเห็นในชั่วขณะนี้จะดำเนินต่อไปไม่จบสิ้น  เราลืมเสียแล้วว่า  มีบ่อยครั้งเหลือเกินที่เราต้องตกตะลึงกับการพังทลายอย่างฉับพลันของสถาบันต่าง ๆ  ตกตะลึงที่จู่ ๆ ประชาชนก็เปลี่ยนแปลงความคิดไปราวปาฏิหาริย์  ตกตะลึงกับการลุกฮือขึ้นก่อกบฏต่อต้านทรราชย์อย่างไม่คาดหมาย  ตกตะลึงกับการล่มสลายอย่างรวดเร็วของระบบอำนาจที่ดูเหมือนไม่มีวันแตกพ่าย

สิ่งที่โดดเด่นขึ้นมาจากประวัติศาสตร์นับหลายร้อยปีในอดีตก็คือความคาดเดาไม่ได้โดยสิ้นเชิง  การปฏิวัติล้มล้างระบอบซาร์ในรัสเซีย  ในประเทศจักรพรรดิกึ่งศักดินาที่ล้าหลังที่สุด  มันไม่เพียงทำให้มหาอำนาจจักรวรรดินิยมที่ก้าวหน้าที่สุดยังต้องสะดุ้งเฮือก  แม้กระทั่งเลนินเองยังประหลาดใจจนต้องตะลีตะลานจับรถไฟไปเปโตรกราด  ใครบ้างจะทำนายได้ถึงจุดหักเหอันพิสดารของสงครามโลกครั้งที่สอง  สนธิสัญญานาซี-โซเวียต  (รูปถ่ายอันน่าอดสูของฟอน ริบเบนทร็อปกำลังจับมือกับโมโลตอฟ)  และกองทัพเยอรมันที่ยาตราทะลวงเข้ามาในรัสเซีย  กองทัพที่ดูเหมือนไม่มีวันปราชัย  บันดาลความตายเป็นกองพะเนินเทินทึก  แต่แล้วกลับแตกพ่ายถอยร่นที่ประตูเมืองเลนินกราด  บนชายขอบฝั่งตะวันตกของกรุงมอสโคว์  ตามท้องถนนของเมืองสตาลินกราด  ตามมาด้วยความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมันทั้งกองทัพ  โดยที่ฮิตเลอร์ต้องไปซุกหัวอยู่ในบังเกอร์ที่เมืองเบอร์ลิน  รอคอยแต่ความตาย?

แล้วจึงกลายมาเป็นโลกหลังสงคราม  โฉมหน้าที่ไม่มีใครเคยคาดคิดล่วงหน้า  ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ของจีน  การปฏิวัติวัฒนธรรมที่ปั่นป่วนและรุนแรง  ตามมาด้วยจุดเลี้ยวหักเหอีกคำรบ  เมื่อจีนยุคหลังประธานเหมาสลัดทิ้งอุดมการณ์และสถาบันที่เคยยึดมั่นถือมั่นอย่างคลั่งไคล้  หันมาบรรเลงเพลงตามตะวันตก  อ้าแขนรับธุรกิจทุนนิยม  ทำเอาทุกคนสับสนงงงวยจนหัวหมุน

ไม่เคยมีใครทำนายถึงการแตกสลายของจักรวรรดินิยมในโลกตะวันตกเก่าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังสงคราม  หรือรูปแบบสังคมแปลกใหม่แบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในประเทศที่เพิ่งได้เอกราช  นับตั้งแต่สังคมนิยมหมู่บ้านแบบอ่อน ๆ ในแทนซาเนียของ (จูเลียส) ไนเยียเร  ไปจนถึงความบ้าคลั่งของอีดี้  อามินในประเทศอูกันดาที่อยู่ติดกัน  สเปนกลายเป็นความน่าพิศวง  ผมยังจำได้ดี    ทหารผ่านศึกคนหนึ่งของกองพลน้อยอับราฮัม  ลินคอล์นเคยบอกผมว่า  เขาวาดภาพไม่ออกเลยว่า  ลัทธิฟาสซิสต์ของสเปนจะถูกโค่นล้มลงได้อย่างไร  โดยไม่ต้องมีสงครามนองเลือดอีกครั้ง  แต่หลังจากนายพลฟรังโกเสียชีวิต  ระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาก็เกิดขึ้น  เปิดกว้างต่อนักสังคมนิยม  คอมมิวนิสต์  อนาธิปไตย  ทุก ๆ คน

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองยุติ  โลกเหลืออภิมหาอำนาจสองประเทศที่แบ่งเขตอิทธิพลและต่างฝ่ายต่างควบคุมบริวารของตน  ต่างแก่งแย่งแข่งขันกันครองอำนาจทางทหารและการเมือง  กระนั้นก็ตาม  สองอภิมหาอำนาจยังไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ดังใจ  แม้แต่ในซีกส่วนของโลกที่อยู่ภายใต้เขตอิทธิพลของตน  ความล้มเหลวของสหภาพโซเวียตที่จะยึดครองอัฟกานิสถาน  การตัดสินใจถอยทัพหลังจากเปิดฉากรุกรานอย่างน่าทุเรศมาเกือบทศวรรษ  คือตัวอย่างอันพึงสังวรณ์ว่า  แม้กระทั่งการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ก็ไม่ใช่หลักประกันที่จะทำให้ได้ชัยชนะเหนือประชาชนที่เด็ดเดี่ยว  สหรัฐอเมริกาเผชิญหน้ากับความจริงนี้เช่นกัน  มันเปิดฉากทำสงครามเต็มพิกัดในอินโดจีน  ทิ้งระเบิดปูพรมบนคาบสมุทรเล็ก ๆ อย่างเหี้ยมโหดที่สุดในประวัติศาสตร์โลก  แต่แล้วก็ยังถูกบีบคั้นจนต้องถอยทัพออกไป  ในพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกเมื่อเชื่อวัน  เราพบเจอตัวอย่างอื่น ๆ ที่สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของฝ่ายที่เชื่อกันว่าทรงอำนาจ  แต่กลับไม่สามารถมีชัยเหนือฝ่ายที่เชื่อกันว่าไร้อำนาจ  อาทิเช่น  ในบราซิล  ขบวนการแรงงานและคนจนรากหญ้าสำแดงพลังเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ที่ปฏิญาณว่า  จะต่อสู้กับอำนาจบรรษัทที่คอยจองล้างจองผลาญ

เมื่อดูรายการยาวเหยียดของเรื่องน่าประหลาดใจที่มีอยู่มากมายมหาศาล  เห็นได้ชัดว่าเราไม่ควรทอดทิ้งการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม  เพียงเพราะอำนาจเปลือกนอกที่ล้นเหลือของคนมีปืนและมีเงินที่ดูเหมือนตั้งหน้าตั้งตายึดเจ้าสองสิ่งนี้ไว้อย่างไม่ยอมละวาง  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ประวัติศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นว่า  อำนาจที่มีแต่เปลือกเหล่านี้เปราะบางแค่ไหน  เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่ชั่งตวงวัดไม่ได้เมื่อเปรียบกับลูกระเบิดและดอลลาร์  ทั้งความยึดมั่นในจริยธรรม  ความเด็ดเดี่ยว  ความสามัคคี  การจัดตั้งองค์กร  ความเสียสละ  ไหวพริบปฏิภาณ  ความปราดเปรื่อง  ความกล้าหาญ  ความอดทน  ไม่ว่าคนผิวดำในแอละแบมาและแอฟริกาใต้  ชาวนาในเอลซัลวาดอร์  นิการากัวและเวียดนาม  หรือกรรมกรกับปัญญาชนในโปแลนด์  ฮังการีและแม้แต่ในสหภาพโซเวียตเอง  การชั่งตวงวัดความได้เปรียบเสียเปรียบของดุลอำนาจไม่สามารถเหนี่ยวรั้งประชาชนที่เชื่อมั่นว่า  ภารกิจของตนคือความชอบธรรม

ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไล่ตามเพื่อนฝูงให้ทันในแง่ของการมองโลกแง่ร้าย  (มีแต่เพื่อนฝูงเท่านั้นหรือ?)  แต่ผมมักพบปะเจอะเจอผู้คนที่ทำให้ผมเกิดความหวังอยู่ร่ำไป  ทั้ง ๆ ที่มีแต่เรื่องร้ายกาจเกิดขึ้นทุกหัวระแหงก็ตามที  โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่อนาคตฝากไว้กับพวกเขา  ไม่ว่าไปที่ไหน  ผมต้องได้เจอคนแบบนี้  และนอกเหนือจากนักกิจกรรมที่มีอยู่น้อยนิด  ดูประหนึ่งยังมีคนอีกหลายร้อยหลายพันคนที่เปิดใจกว้างต่อแนวความคิดใหม่ ๆ    เพียงแต่พวกเขามักไม่รู้ว่ามีกันและกันอยู่เท่านั้นเอง  ดังนั้น  ขณะที่พวกเขายืนหยัดต่อสู้  พวกเขาจึงกระเสือกกระสนไปด้วยน้ำอดน้ำทนสุดชีวิต  เปรียบดังซิซีฟัสที่เข็นหินขึ้นภูเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  ผมพยายามบอกแต่ละกลุ่มว่า  พวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยว  และใครก็ตามที่หมดกำลังใจเพราะการขาดหายไปของขบวนการระดับชาติ  ตัวเขานั่นแหละคือข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพในการสร้างสรรค์ขบวนการขึ้นมา

ความเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากถึงโคนไม่ได้มาพร้อมกับเหตุการณ์สะท้านฟ้าสะเทือนดิน  (จงระวังเหตุการณ์ประเภทนั้นให้ดี!)  แต่มันเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย  มันคือความน่าประหลาดใจที่ต่อเนื่องตามกันมาไม่มีที่สิ้นสุด  มันคือเส้นทางคดเคี้ยววกวนที่นำพาไปสู่สังคมที่น่าอยู่กว่านี้  เราไม่จำเป็นต้องสร้างวีรกรรมยิ่งใหญ่เพื่อมีส่วนร่วมในกระบวนการสู่ความเปลี่ยนแปลง  การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ  ของคนหลายล้านคน  เมื่อรวมเข้าด้วยกัน  สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้  ต่อให้เราไม่  "ชนะ"  มันก็ยังมีความสนุกและความเต็มอิ่มที่ได้รู้ว่า  เราได้ร่วมแรงร่วมใจกับคนดี ๆ อีกมากมายในบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่า  เราจงมีความหวังเสมอ

ใช่ว่าคนมองโลกในแง่ดีต้องเป็นเหมือนนักผิวปากเจ้าสำราญที่ไม่รู้เดียงสาในยุคทมิฬ  การมีความหวังท่ามกลางกลียุคไม่ใช่แค่ความโรแมนติกโง่เขลา  แต่มันตั้งมั่นอยู่บนข้อเท็จจริงที่ว่า  ประวัติศาสตร์มนุษย์คือประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้มีแค่ความป่าเถื่อนโหดร้าย  แต่ยังมีความเห็นอกเห็นใจ  ความเสียสละ  ความกล้าหาญ  ความเอื้ออารี  เราเลือกเน้นด้านไหนในประวัติศาสตร์อันซับซ้อนนี้  นั่นแหละคือสิ่งที่จะกำหนดชีวิตของเรา  หากเรามองเห็นแต่ความเลวร้าย  มันจะทำลายศักยภาพจนเราทำอะไรไม่ได้เลย  แต่หากเราจดจำถึงเวลาและสถานที่ต่าง ๆ ที่ผู้คนปฏิบัติตัวอย่างน่าชื่นชม  --ซึ่งมีอยู่มากมาย--  มันจะทำให้เรามีพลังฝ่าฟันต่อไป  และอย่างน้อยที่สุดก็เปิดโอกาสที่จะปั่นลูกข่างโลกใบนี้ให้หมุนไปในทิศทางอื่น  และถ้าเราลงมือกระทำ  ไม่ว่าเล็กน้อยแค่ไหน  เราไม่จำเป็นต้องรอคอยอนาคตอุดมคติยิ่งใหญ่ให้มาถึงหรอก  เพราะอนาคตคือปัจจุบันที่ต่อเนื่องตามกันอย่างไร้ที่สิ้นสุด  และการใช้ชีวิตในชั่วขณะนี้ให้สมดังที่เราคิดว่ามนุษย์ควรใช้ชีวิต  โดยท้าทายต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เลวร้ายรอบตัว  แค่นั้นก็เป็นชัยชนะที่วิเศษสุดแล้ว

โฮเวิร์ด  ซินน์  เป็นนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน  ผู้เขียนหนังสือชื่อ  A People's History of the United States    ซึ่งเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งในโลกเท่าที่เคยเขียนกันมา

Comment #1
Posted @12 พ.ย.47 20.57 ip : 203...118

อา.....  นาม "ภัควดี" นี้  ช่างเป็นมงคลยิ่งนัก  สำหรับบอร์ดของคนขายหมี่เช่นผม

สวัสดีครับพี่ภัค  เชียงใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?  คงหนาวกำลังพอดีให้พอกอดอกตัวเองอุ่นๆกระมังครับ?    ที่บ้านเราตอนนี้เป็นหน้าฝน  และฝนยังตกหนักประปราย  คงรอโน่นแหละหลังลอยกระทง    ด้วยทุกปีมันจะตกหนักในวันลอยกระทง  แล้วก็หนักไปเรื่อยๆ  วันก่อนที่โรงเรียนศรีนครใกล้บ้านผม  มีป้ายผ้าขนาดใหญ่เขียนข้อความ "ศูนย์อพยพประชาชน  เขต 3 "  เล่นเอาหัวใจหล่นวูบไปอยู่หัวแม่เท้าครับ  แต่อาทิตย์นี้ฝนทิ้งช่วง  เลยมีคนมาปลดผ้าออก 


แล้วมันจะรีบเอามาติดทำไมไม่ทราบ?


โฮเวิร์ด ซินน์  เป็นใครผมไม่เคยอ่านหรอกครับ แต่ทัศนะนับว่าน่าสนใจในวันที่วงการนักเขียนไทยเกิดการแบ่งฝ่ายมองโลกเป็น 2 พวก  ผมคิดและเชื่อเช่นเดียวกับ โฮเวิร์ด ซินน์  แต่ไม่ลึกซึ้งและถ่ายทอดออกมาได้เท่า

เป็นทัศนะให้กำลังใจ  และปลุกความหวังในชีวิตที่ดี  เป็นความคิดมนุษยนิยมที่น่ารักที่สุด    ไม่มีขวาไม่มีซ้าย  เป็นปัจเจกแต่เป็นปัจเจกที่เอื้อต่อกันเกื้อกูลต่อกัน    ด้วยความเชื่อในหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคมจะขยับขับเคลื่อนสังคมทั้งกระบวนไปข้างหน้า 


ขอบคุณครับพี่ภัค  ว่างๆก็เอาอะไรมาฝากอีกนะครับ

Comment #2
ภัควดี (Not Member)
Posted @12 พ.ย.47 21.24 ip : 203...34

สวัสดีเช่นกันค่ะ  (ลูก ๆ ฝากบอกว่าคิดถึงหมี่เป็ดเหลือใจ  อิอิ)

เชียงใหม่ยังไม่หนาวมาก  กลางวันร้อนจัด  กลางคืนเย็นถึงเย็นมาก  อากาศน่าทำให้ไม่สบายอย่างยิ่ง

ปีนี้หวังว่าน้ำคงไม่ท่วมอีก  ทางใต้ชอกช้ำมากพอแล้ว

แหะ แหะ  แต่โฮเวิร์ด  ซินน์นี่ถือเป็น  "ซ้าย"  ค่ะ  แต่ไม่ใช่ซ้ายแบบยึดคัมภีร์  หนังสือประวัติศาสตร์เล่มที่ว่า  เขาเขียนสนุกมาก  เล่าประวัติศาสตร์อเมริกันจากจุดยืนของคนเล็ก ๆ  เช่น  คนอย่าง  Mother Jones  ผู้หญิงผิวดำที่เดินทางไปทั่วสหรัฐฯ เพื่อปลุกระดมคนงานให้เรียกร้องสิทธิของตน  ฯลฯ  อ่านแล้วมันส์กว่าประวัติศาสตร์ของเจ้า  ประธานาธิบดีหรือนายกฯ เยอะ

Comment #3
Posted @14 พ.ย.47 15.45 ip : 203...117

น้ำคงยังไม่ท่วมหรอกครับ  แต่โจรนี่สิ เยอะมาก  พวกกระชากกระเป๋านี่กะลังฮิต  เมื่อเช้านี้เอง  6 โมงเช้ามันกระชากเป๋าผู้หญิงมาเลย์  รถมันล้ม  แต่ตุ๊กๆบังหน้าผมอยู่  มองจากในร้านก็เหมือนวัยรุ่นตีกันน่ะ  เห็นมีผู้ชาย 3-4 คนกรูเข้าไปในวงที่รถมันล้ม  แต่มันก็ไวครับ  ลุกขึ้นก็บึ่งหนีไป

พยาบาลบอกว่ามีคนเจ็บวันละหลายรายจากกรีแบบนี้ ตร. บอกว่าแจ้งความกันวันละไม่ต่ำกว่า 30-40 ราย

ไม่มีใครหวังพึ่ง ตร. หรอกครับ  แค่แจ้งความไปแกนๆยังงั้นเอง  ไม่มีความหมาย


วิธีคิดแบบโฮเวิร์ด ซินน์นี่  ว่าไปแล้วก็สอดคล้องกับโลกปัจจุบันอยู่นะครับ  โลกปัจจุบันที่ปัจเจกเป็นเรื่องธรรมดา  ไม่ได้ถูกครอบงำด้วยระบบใดใดอย่างดิ้นไม่หลุด  แต่สงสัยเหลือเกินว่า  หากอยู่ในยุคคอมมูนิสต์  เขาจะถูกหาว่าเป็นพวกลัทธิแก้  หรือ ซ้ายไร้เดียงสา  หรือเปล่า?

ผมว่าไอ้การละเมียดละไมสรรหาคำมาบลัฟคนที่พยายามคิดต่างจากระบบของพรรคคอมมูนิสต์นี่แหละ  ที่ทำให้ลัทธิคอมฯล่มสลายเอาง่ายๆ  นอกจากตัวของมันเองที่ค่อนข้างจัดทำให้เป็นรูปธรรมได้ยากยิ่งแล้ว  ก็นี่แหละครับ  การจับผิดวิธีคิดของคนอื่นอย่างเอาเป็นเอาตาย

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 28 user(s)

User count is 2427142 person(s) and 10162055 hit(s) since 15 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).