ป า น สี แ ด ง ! ! ๕ ( แ ป้ ง ใ น ถั ง น ว ด )

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @8 ธ.ค.47 10.16 ( IP : 203...111 ) | Tags : นิยาย

๔).

สำหรับเด็กๆ    โลกดูเหมือนแต่ละวันแต่ละคืนพ้นผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ    วันก่อนพวกเขาอาจคลานต้วมเตี้ยมอยู่บนพื้นบ้าน    มาพบเจอกันอีกครั้งเขาอาจอยู่ในชุดนักเรียนเสียแล้ว    โลกของพวกเขามีแต่กลางวัน    สนุกสนานโลดเต้นร่าเริง  เพื่อยามราตรีจะได้นอนหลับสนิท    ความเหนื่อยจากความสนุกร่าเริง    ความมีชีวิตชีวาจากความเบิกบานของวัย    จะเป็นความว่างเปล่าเต็มอิ่มเมื่อยามหลับตา    ร่างกายทุกส่วนพักผ่อนอิริยาบท    มีเพียงเสียงหัวใจเต้นที่บอกความมีชีวิต    การนอนหลับของพวกเขาเป็นสิ่งที่น่าพิศวงสำหรับผู้ใหญ่    ที่การข่มตานอนแต่ละคืนเต็มไปด้วยเรื่องราวสารพัดก่อนจะหลับ    แขนที่ก่ายหน้าผากค้างเติ่งเมื่อยล้าจนต้องเปลี่ยนแขนอีกข้าง    มองอยู่ในความมืดที่เห็นแต่ความมืดดำไปทุกทิศ    เสียงถอนหายใจหนักหน่วงถูกระบายรุนแรงเป็นระยะ    แล้วก็จะเหนื่อยเพลียหัวใจจนหลับไปอย่างอ่อนล้าในที่สุด    ฝันร้ายกำลังรออยู่ในนิทราอันแสนวังเวง  และเนิ่นช้านัก


โฉมใหม่ของเมือง      ตระหง่านทะมึนแข็งกระด้างไปทุกหย่อมทุกแห่ง    ดวงอาทิตย์ที่เคยสาดแสงอัสดงสีทองอร่ามลงมาทาบทาถนน    ก็ถูกบดบังด้วยแท่งตึกสูงใหญ่มหึมาสุดคอแหงนมอง    เสาไฟฟ้าเพิ่มจำนวนต้นรองรับสายไฟที่เพิ่มจำนวนมาหลายๆเส้น    เด็กๆตื่นจากการหลับฝันอันสงบสุขที่คุ้นเคย    เพื่อมาพบว่าที่กว้างที่เคยวิ่งเล่นสูญหายไปเพียงชั่วหลับฝัน  กลายเป็นอาคารปูนสีขาวจัดอย่างน่าตกใจในการงอกเงยรวดเร็วของมัน    ผู้คนมากขึ้น    รถยนต์มากขึ้น    ตลาดที่เคยแออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คน      ก็ยิ่งอัดแอเยียดยัดผู้คนเพิ่มเข้าไปอีกเท่าตัว    คนหลั่งไหลกันมาจากทุกสารทิศ    เมืองเล็กลงไปในพริบตา

ตี๋ใจหายวาบ  เมื่อแปลงผักและเล้าหมูละแวกโรงเรียน    กลายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่    ที่มีเสาปูนตอม่อตรึงหยัดพื้น


ขนหน้าแข้งที่เริ่มงอกยาว    ลูกกระเดือกที่แหลมโผล่จากลำคอ    หลังการแตกพานได้ไม่กี่วัน  เสียงก็เริ่มแตกพร่าแปร่งแปลก    ตี๋ส่องกระจกมองไรหนวดบางๆอย่างมีความสุข  ไม่นานมันคงดกครึ้มลามลงมารอบปาก    เคราที่เชื่อมจอนกับคางจะเป็นตอแข็งๆสั้นๆเมื่อโกนได้สองสามวัน    จะเป็นเหมือนเช่นที่เตี่ยเป็น  มีเหมือนเช่นที่เตี่ยมี    ขนคิ้วของเตี่ยห้อยปลายย้อยลงมาเป็นทาง    ตี๋เชื่อว่าขนคิ้วของตี๋ในอีกไม่นาน  มันจะเป็นแผงหนาดกดำ  พอที่จะบดบังปานสีเลือดแดงคล้ำอันน่าอับอายนี้ได้  ตี๋ลูบแป้งฝุ่นเบาๆ  สิวหัวช้างสามสี่เม็ดปรากฏอยู่บนดวงหน้า  รอให้มันสุกก่อนเถิด    เมื่อกดเล็บลงไปแล้ว  มันก็จะแตกระบิดฉีดหนองสิวพุ่งทะลักไปติดกระจกเหมือนเม็ดก่อนๆ  ตี๋ลูบไปบนเม็ดสิว ลองกดมันเบาๆ  มันก็เจ็บจี๊ดตามแรงบีบ


แม่หมดความหวังที่จะได้บ้านสักหลัง    ไฟที่กินกลืนบ้านเมื่อสองปีก่อน      แม้มันจะเป็นเพียงบ้านเช่า  แต่มันก็เป็นที่เก็บเงินทองทุกบาททุกสตางค์ทั้งสิ้น    เป็นเงินออมที่มีจำนวนพอจะซื้อบ้านใจกลางเมืองได้เลยทีเดียว โชคดีที่แม่แอบเก็บเงินจากลิ้นชักวันละนิดละน้อยก่อนหน้า    จนซื้อที่ดินแปลงเล็กๆชานเมืองไกลออกไปทางฝั่งตะวันออกได้ผืนหนึ่ง    เถอะถึงมันจะเป็นแปลงที่ไร้ราคาไร้ค่า  ไม่สามารถประกอบอาชีพอะไรได้เลยก็ตามที    อย่างน้อยมันก็ยังเป็นอะไรสักสิ่ง    ที่พอจะบอกให้รู้ว่าแม่ยังมีมัน  มันที่เป็นผลจากการงานอันหนักหน่วงมานับสิบสิบปี


หลังจากชุดนอนติดตัวคนละชุด  เตี่ยก็พาแม่กับตี๋เข้าไปอยู่บ้านที่เช่า เอาไว้ขายของ    และที่ให้น้าๆอาศัยอยู่    บ้านแออัดยัดเยียดจนแทบปริ  น้าๆบางส่วนทยอยกันออกไปตั้งหลักปักฐาน    ประกอบอาชีพมีครอบครัวกันไปตามทางตน    แม่รับคนงานใหม่มาแทนที่เมื่อน้ารูญแต่งงานออกเรือน    และเปิดร้านขายหมี่เล็กๆบนถนนสายเดียวกันอีกปลายถนน    หาคนงานผู้ชายมาช่วยทำหมี่เมื่อเห็นว่าเตี่ยอายุมากแล้ว  แม่ขึ้นไปยืนเป็นเถ่าชิ่ว  ลูกค้าขาประจำร้านยังมีอยู่    เช่นเดียวกับขาจรที่ยังแวะเวียนเปลี่ยนหน้ามาอุดหนุน  แต่เมืองมันโตขึ้นอย่างรวดเร็ว  ผุ้คนมากมายที่มุ่งเข้ามาแสวงหาความมั่งคั่งมั่นคง  ต่างช่วงชิงกันทุกวิถีทางในการให้ตนเองเป็นหนึ่งที่กลมกลืนกับเมือง    บริษัทห้างร้านผุดขึ้น  โรงแรมโรงหนังผุดขึ้น  ห้างสรรพสินค้าใหญ่โตโอ่อ่าผุดขึ้น    ร้านอาหารจึงผุดขึ้นตามมาอย่างไม่ขาดสาย    ผุดขึ้นมามากมายจนดูเหมือนจะมากเกินจำนวนผู้บริโภคไปเสียแล้ว

ความพยายามครั้งใหม่ของแม่คือการเก็บออมเงินซื้อบ้านสักหลังให้ได้    แม่รู้ว่าการจะเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ให้ได้นั้น    เตี่ยจะต้องไม่เป็นผู้เก็บหรือยุ่งเกี่ยวการเงินอย่างเด็ดขาด  และธนาคารเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด  หากต้องการให้เม็ดเงินทุกเม็ดยังอยู่ในสภาพเดิม  เตี่ยไม่พอใจที่แม่ให้เงินพกคราวละห้าร้อยหกร้อยบาท  เงินจำนวนนี้เตี่ยต้องใช้ให้ได้ภายในเวลาสิบห้าวัน

เตี่ยเริ่มมีปากเสียงกับแม่    ในขณะที่แม่ยืนยันขันแข็งปฏิเสธความคิดของเตี่ยในหลายๆเรื่อง  แม่เห็นว่านั่นเป็นวิธีคิดแบบชาวจีนโบราณ  เป็นวิธีคิดแบบลูกผู้ชายมากจนเกินไป    โลกปัจจุบันไม่ต้องการวิธีคิดเช่นนั้น  แต่ต้องการอำนาจ    อำนาจที่มีอยู่เฉพาะผุ้มีเงินอยู่ในมือมากกว่าคนอื่นเท่านั้น    หัวใจใหญ่โตกว้างขวางแบบเตี่ย  ไม่มีทางจะก้าวตามทันโลกที่รุดไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็วได้

การถูกแม่ต่อว่าเรื่องไม่ยอมซื้อบ้านสักหลัง    ทำให้เตี่ยฉุนเฉียวเอาง่ายๆ    น้อยอกน้อยใจในวัยที่อายุเพิ่มมากขึ้น  ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่    แม่จะเถียงกันอยู่ในห้องนอน  แต่เสียงนั้นดังลั่นล้นออกมาจนได้ยินชัดเจน  เตี่ยอายุมากกว่าแม่ยี่สิบปีเต็มๆ  อายุ ๕๒ ของแม่ยังคงทำงานหนักได้อยู่    เตี่ยแม้จะแข็งแรงแต่ก็ถดถอยแรงเรี่ยวไปตามวัย    บรรยากาศในบ้านอึดอัดเสียจนคนงานได้แต่มองหน้ากันเลิกลัก    ความตกต่ำของฐานะทางบ้านทำให้เพื่อนฝูงของเตี่ยหายหน้าไป    นี่ยิ่งตอกย้ำวิธีคิดของเตี่ยว่าผิดพลาดมโหฬาร  ยิ่งทำให้เตี่ยปวดร้าวอย่างใหญ่หลวง  การต้องเริ่มต้นครั้งใหม่ในยามที่เตี่ยอายุมากเกินจะกอบกู้ฐานะ    แม่กลายเป็นหางเสือเรือแทนที่    งานยิ่งหนักรายได้ยิ่งลดน้อย-แม่ยิ่งแกร่ง  แม่ต้องพาเรือลำนี้ให้พ้นกระแสน้ำวนไหลเชี่ยวนี้ให้ได้

เตี่ยรักแม่    นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง    เช่นเดียวกับแม่ที่ยัง มอบชีวิตให้อยู่ในอาณาจักรรักของเตี่ย    หากแต่การไหม้ของบ้านที่มีเงินออมจำนวนโขนั้น    มันหนักหนาสาหัสและใหญ่โตเกินกว่าจะนั่งทอดอาลัย    ความรักเป็นสิ่งเดียวที่ยังเป็นไออุ่นในท่ามกลางความหนาวเหน็บ    เถียงกันบ้างทะเลาะกันบ้าง    นั่นก็คือการปะทะกันของวิธีคิด  วิธีการดำรงชีพให้ได้  ซึ่งที่สุด-แม่มักทำให้เห็นว่าเหลุผลของแม่ถูกต้อง    และคุ้มค่าเหลือเกินในการทุ่มเถียงกับเตี่ย

ตี๋มองสภาพบ้านอย่างงุนงง    หลายครั้งในการเข้าไปพูดคุยกับแม่ในห้องอันเคยกระทำเป็นปกติ    ต้องพบกับเสียงเอ็ดตะโรทุ่มเถียงดังลั่นขึ้นมา    หลายครั้งที่หมายจะเดินไปเกาะแขนเตี่ย  กลับพบกับคิ้วที่ขมวดหน้าตาบูดบึ้ง    ตี๋เริ่มเบื่อบ้าน


เด็กหนุ่มส่องกระจกอีกครั้ง    สำรวจไรหนวดบางๆหรอมแหรมอย่างพึงพอใจ    โปะน้ำมันใส่ผมของน้าที่ทิ้งเอาไว้ก่อนย้ายออก    หันซ้ายนิดขวาหน่อย    ขยับเสื้อให้เข้าที่    สร้างความมั่นใจด้วยการโปะแป้งฝุ่นที่ใบหน้า    พยายามจะให้สีขาวของแป้งลบความแดงคล้ำของปานทีเลือด    ตี๋มองมันอย่างเกลียดชัง  มันเป็นปมด้อยที่รังแต่จะถูกคนหัวเราะเยาะ  ความผิดปกติแปลกประหลาดจากชาวบ้าน    นำมาซึ่งความขมขื่นไม่น้อยสำหรับเด็กหนุ่ม    ทุกครั้งที่มีสายตาจับจ้อง  ตี๋รู้ว่าเขากำลังมองดูสัตว์ประหลาดสองขา  โดยการนิ่งเงียบสังเกตุ  ตี๋เห็นเด็กสาวหลายคนซุบซิบนินทาแล้วมองมาขำๆ  ตี๋โกรธที่เธอเหล่านั้นรังเกียจปมด้อยที่เขาไม่เคยปารถนาจะมี  ตี๋หลับตาหน้ากระจก    สลัดก้อนแค้นขื่นที่ไล่ขึ้นมาจุกคอหอยออกไป  แล้วเดินออกจากบ้าน

โฉมหน้าใหม่ของเมืองทอดทางให้ตี๋ก้าวไปเรื่อยๆ  ในบ่ายวันหยุดที่แดดร้อนจัดของเดือนเมษา    ถนนดำร้อนระอุด้วยอายแดดที่เต้นเป็นตัว  รถยนต์วิ่งผ่านกดล้อทับบดถนนแล้วผ่านเลยไป    ไม่มีร่องรอยใดใดให้รู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นมีการผ่านไปมา    ตี๋แวะหยุดที่ศูนย์การค้า    มองดูผู้ใหญ่ทอยโบว์ลิ่งผ่านหน้าต่างกระจกทึบ    แนบหน้ากับกระจกก็รับรู้ถึงความเย็นของแอร์ภายใน    พอถอนหน้าออกมาก็เกิดฝ้าบางๆปรากฏอยู่    ไม่รู้จะไปไหนดี    นึกถึงเพื่อนๆที่รวมกลุ่มกันมาตั้งแต่มัธยม ๑ ถึงมัธยม ๓    แต่ละคนก็อยุ่ห่างไกลเกินเดินได้ถึง    จรัญ-บ้านอยู่ในสวนยางชานเมือง    ที่ที่มีกระรอกกระแตมากมายให้ดักจับ  ตี๋เคยขอกระแตจากพ่อของจรัญมาตัวหนึ่ง    ผูกเชือกคล้องคอแล้วให้มันเกาะบนบ่า  มันกัดใบหูตี๋จนเป็นเลือด  แล้วมันก็กัดเชือกจนขาดวิ่งหายลับไป  โดยมีแมวที่เฝ้ามองตามด้วยดวงตาลุกวาววิ่งกวด    ลิ่ม-บ้านอยู่ละแวกถนนโลกีย์    เป็นถิ่นที่ผู้หญิงหากินอาศัยอยู่ในบ้านไม้สองชั้น    หล่อนจะสวยเป็นพิเศษในเวลากลางคืน  รอรับลูกค้าขี้เมาไม่เลือกหน้า  ในยามกลางวันพวกหล่อนจะตื่นเกือบเที่ยง    ด้วยใบหน้าซูบซีดไร้เลือดเสื้อผ้าชิ้นน้อย    มาออกันซื้อส้มตำเป็นอาหารเช้า  ในยามบ่ายเช่นนี้พวกหล่อนจะนั่งจับกลุ่มกันพูดคุย  รอเวลาเย็นย่ำที่ค่ำคืนจะตามมา      บ่าว-เด็กหนุ่มฟันหลออยู่กับพ่อแม่อีกฟากมุมเมือง    ในดงแห่งยาเสพติดและนักเลงสารพัดรุ่น      ด้วยบุคลิกเงียบๆ    คนที่ไม่เคยคบหาจึงมักจะเข้าใจว่าบ่าวเป็นคนดุ    บ่าวดุจริง    แต่บ่าวก็มีอารมณ์ขันเหลือเฟือ  เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนฝูงได้เสมอ  คนดุจริงและไร้อารมณ์ขันที่แท้นั้น  คือจรัญต่างหาก      โก-เด็กหนุ่มหน้าตาพิลึกพืลั่นบอกเชื้อสายจีนเต็มหน้า      บ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านของลิ่มเท่าไหร่    โกเป็นเด็กตั้งใจเรียน  ขยันหมั่นเพียรในการท่องตำรา    แม้ว่าผลการเรียนจะไม่ได้ดีไปกว่าเพื่อนๆในกลุ่มเลยก็ตาม  เหลือง-ซอยตันหลังสนามกีฬาเป็นที่อยู่  เป็นซอยที่ถูกหมายหัวไว้ว่าเป็นซอยแห่งโจรขโมย  มีบ่อนเล็กๆส่งเสียงเงียบเชียบในบ้านไม้ต้นไม้ร่มครึ้ม  เหลืองเดินเข้าออกคอยซื้อข้าวน้ำให้กับขาไพ่    แลกเงินไม่กี่บาทเป็นค่าตอบแทน

แต่ละคนแต่ละที่อยู่ไกลเกินเดินไปถึง    ใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยผู้คน    ตี๋ยืนหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะไปทางไหนดี    มันเหมือนกันไปหมดทุกแพร่งทุกแยก    โรงหนังที่เตี่ยเคยขายหมี่แปรสภาพเป็นซอยเล็กๆ  มีร้านขายของที่ระลึกสรรพสิ่งสองฟากฝั่ง    ตัวโรงหนังถูกทุบทิ้งแล้วสร้างเป็นอะไรสักอย่าง    ก่อนจะทุบทิ้งอีกครั้งเพื่อสร้างลานสเก็ต    ตี๋เดินเข้าไปในลานด้วยความรู้สึกไม่มีที่ไปมากกว่าอื่นใด    ล้อใต้เท้าหมุนวิ้ววิ้วนำเด็กหลายคนในลานให้ไหลลื่นไปอย่างรวดเร็ว    เหมือนมีคนจ้องจับดูอยู่  ตี๋เหลือบเห็นเด็กหนุ่มสองคนจ้องมาตาเขียวปั๊ด    ใจหายวาบ    รีบวิ่งออกจากลานสเก็ตไปแอบอยู่ใต้ร่มมะม่วงใหญ่ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง


เด็กหนุ่มสองคนนั้นวิ่งไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว    ผู้คนแตกตื่นหลีกทางส่งเสียงตกใจเพียงครู่    แล้วก็ดำเนินกิจกรรมของตนต่อไป  มีเด็กหนุ่มยกพวกตีกันบ่อยจนเป็นความเคยชิน    ทำได้เพียงแปรเปลี่ยนความรำคาญนั้นเป็นเสียงด่า    ตราบใดที่ยังไม่มีเสียงมีดกระซวกเนื้อ  หรือเสียงปืนลั่นเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหว    ยังนับได้ว่าเหตุการณ์ปกติดีอยู่    ตี๋แอบหลังต้นมะม่วงจนมิด    พยายามหนีบตัวให้ลีบที่สุด  หายใจเบาที่สุด  หัวใจเต้นตึ้กตั้กแทบจะปริออกมาด้วยความหวาดกลัว    เรื่องมันเกิดขั้นก็เพราะเด็กสาวในตลาดคนนั้น  ตี๋ไม่คาดคิดเลยว่าเพลง สวยจังหูเลย  จะทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่น    ถ้อยคำในเพลงแสนเชยสื่อออกมาอย่างซื่อๆ    เธอกลับถือว่ากำลังสร้างความอับอายให้เธอ  สุ้มเสียงสำเนียงที่เน้นกระแทกให้เหมือน ฉัตรทอง  มงคลทอง  ที่สุด    เธอกลับเห็นเป็นการล้อเธอเหมือนตัวตลก      เธอนำความขุ่นข้องหมองใจครั้งนี้ไปบอกเด็กหนุ่มคนรัก    และคนรักของเธอก็ไหว้วานเพื่อนของเขาให้จัดการอะไรสักอย่างกับตี๋

หลังจากคืนบนเวทีในตลาด    ขณะที่ตี๋ขี่จักรยาน BMX. ชมเมืองอยู่เพียงลำพัง    มีเด็กหนุ่มสองคนตามมากระชากเสื้อจนตกรถ    หมัดและเท้าประเคนเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง  โชคดีที่เพื่อนคนหนึ่งของตี๋ผ่านมา    ตาคารแก้ตี๋ออกจากวงล้อมแล้วยืนจังก้าขวางเอาไว้    โชคดีอีกชั้นที่ตาคารเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่เด็กหนุ่มของเมือง    ถึงความเป็นมวยอันบ้าดีเดือด
มึงรู้จักสู้คนซะมั่ง    ตาคารพูดพร้อมกับตบบ่าตี๋


แล้วตี๋ก็ลืมเรื่องนี้ไป    มีแต่เตี่ยเท่านั้นที่สลดใจกับความขี้ขลาดของลูกชายคนเดียว    เตี่ยไม่ได้ต้องการให้ตี๋เป็นนักเลงเหมือนอย่างน้าชาติ    แต่อยากให้ตี๋เรียนรู้วิธีป้องกันตนเอง  รู้จักการตอบโต้เพื่อแหวกวงล้อมนั่นให้หลุด    คืนนั้นหากตาคารไม่ผ่านมาตี๋จะมีสภาพเช่นไร    การรู้จักหันหน้าเข้าสู้ปัญหาต่างหาก    ที่เตี่ยเชื่อว่าดีกว่าการภาวนาให้ตาคารผ่านมาอย่างบังเอิญทุกครั้ง

ตี๋ไม่ใช่เด็กเกเร    เตี่ยกับแม่สอนสั่งมาให้เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย  รู้จักช่วยเหลือทั้งงานบ้านงานขายหมี่    เสื้อผ้าทุกชิ้นต้องซักเองรีดเอง  แต่วัยของตี๋ต้องการสังคม  ชอบที่จะไปนั่งบ้านเพื่อนพูดคุยสนทนา    จนสองทุ่มจึงจะกลับเข้าบ้าน    บ่อยครั้งที่แม่คาดโทษที่หายไปเลยล่วงเวลา    เตี่ยพูดถึงความน่ากลัวของภัยมืดที่มองไม่เห็นไม่เคยรู้จัก    เมืองที่เปลี่ยนโฉมหน้าฉับพลันเช่นนี้    อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอบนท้องถนน    ไม่ใช่เพียงแค่จำนวนรถยนต์ที่เพิ่มมากมายเท่านั้น    แต่มันยังมีการก้าวคืบของที่แฝงกายอยู่ทุกมุมเมือง    สิ่งเสพติดทะลักเข้ามาหลากหลายประเภท    สถิติรถยนต์รถมอเตอร์ไซค์หายเพิ่มขึ้น  แม้จักรยานเองก็ต้องล็อคให้แน่นหนา  ความหน้ามืดของเมืองกำลังจับตารอคอยโอกาสอยู่ไม่กะพริบ  ข่าวตำรวจจับกุมกลุ่มลักทารกผ่าท้องยัดเฮโรอีนส่งประเทศเพื่อนบ้าน  ยิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับประชาชน

เตี่ยหาไม้หวายยาวสองช่วงแขน    ทบเข้าแล้วมัดด้วยเชือกไนลอนแน่นหนา      หลังจากที่คืนหนึ่งตี๋มาเคาะประตูเรียกแม่ให้เปิดตอนสี่ทุ่ม    ท้องถนนเงียบสนิท    ดวงไฟเสาไฟฟ้าส่องแสงสลัวพอมองเห็นตลาดอ้างว้างวังเวง  หนูส่งเสียงแหลมเล็กอยู่เป็นช่วงๆ    แม่ลุกมาด้วยโทสะกล้า    และยิ่งโทสะเมื่อรู้ว่าจักรยานราคาแพงถูกขโมยไป    เตี่นเดินถือเข็มขัดหนังตามแม่มาติดๆ    ฟาดลงกลางหลังตี๋ไม่นับ    แม่เท้าสะเอวด่าซ้ำเมื่อได้กลิ่นเหล้าโชยหึ่งจากตี๋    ยื้อเข็มขัดจากเตี่ยได้แม่ก็ฟาดลงไปที่น่อง    เจ็บแสบปวดร้อนสุดทน  ตี๋ร้องไห้ยกมือไหว้ขอโทษรับผิดละล่ำละลัก    การกลับบ้านดึกก็มีน้ำหนักพอแล้วที่จะทำให้เตี่ยโกรธ    เตี่ยเสียใจที่คำของเตี่ยไม่ศักดิ์สิทธิ์    ลูกชายคนเดียวของเตี่ยล้างความหวังดีของเตี่ยจนสิ้น    โลกมืดนอกบ้านมันไม่ใช่โลกยามเย็นที่ตี๋เคยออกไปวิ่งเล่น    ไม่ใช่สถานที่ที่จะออกไปขว้างลูกข่าง    หรือตั้งทีมเตะฟุตบอลพลาสติค    มันเป็นโลกของภูตผีปีศาจสารพัดในสายตาแม่    มือที่มองไม่เห็นจุดไฟเผาบ้านทำให้แม่เชื่อเช่นนั้น      แม่ฟาดตี๋ไปร้องไห้ไปจนเหนื่อย    แล้วสองแม่ลูกก็ร้องไห้ร่วมกันหน้าประตูบ้าน    ในคืนที่ตลาดมืดอ้างว้างวังเวง


ก่อนเตี่ยหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน    ตี๋เห็นเตี่ยกัดกรามเช็ดน้ำตาเงียบๆ  ไม้หวายนั้นถูกวางไว้บนโต๊ะหน้าห้องเตี่ย    รสมือของแม่ยังคงฝากรอยแดงปื้นช้ำและตกสะเก็ดหลายแห่งในอีกหลายวันต่อมา    มันส่งผลดีอยู่อย่างต่อสถานการณ์ภายในบ้าน      เตี่ยกับแม่ไม่ค่อยทะเลาะทุ่มเถียงกันในเรื่องจะต้มเป็ดกี่ตัว    หรือจะทำหมี่กี่กิโล    เป็นความสงบสุขที่ติดตามมาหลังพายุร้ายที่ตั้งเค้าทะมึนมาเนิ่นนาน    แล้วโถมเข้าใส่ในคืนแสงไฟสลัวตอนสี่ทุ่ม    ทุกคนรู้สึกผิด    และค่อยๆพิจารณาเท้าความถึงความระส่ำระสายที่เกิดขึ้นในช่วงปีหลังๆ


เมืองยังคงเร่งรีบในการขยายตัวเองออกไป    ถนนสายใหม่ตัดทอดสู่ชานเมือง    บรรจบเข้ากับถนนใหญ่ที่เชื่อมระหว่างจังหวัด      สร้างทางสีดำไปยังชุมชนรอบนอก    สวนผักละแวกโรงเรียนเป็นตึกมหึมาตะหง่านง้ำ    ถัดไปไม่ไกลนักเป็นบ้านจัดสรรสวยงามปรากฏอวดสายตาชาวเมือง    มันเป็นสิ่งใหม่ที่ดูหรูหรา    กลายเป็นความฝันน้อยๆของใครต่อใครที่อยากจะครอบครอง    สวนยางแถวบ้านจรัญถูกแบ่งขาย    ซ่องโสเภณีใกล้บ้านลิ่มกับโกย้ายไปอยู่ตลาดที่เปิดใหม่    มีเด็กเพื่อนของบ่าวหลายคนติดเฮโรอีนงอมแงม  และเหลืองเก็บเงินซื้อจักรยานได้คันหนึ่ง    เมื่อบ่อนเล็กๆนั้นเพิ่มวงไฮโลมาอีกสามวง


เจ้าของบ้านเช่าบอกแม่ว่าต้องการขายบ้านหลังนี้    ในราคาแพงสุดกู่เกินกำลังจะเอื้อมคว้า    การต่อรองไม่เป็นผล    เขายืนยันจะขายในราคาที่เกินกำลังนั้นให้ได้    เตี่ยงัดคำพูดของพ่อของเขาที่เคยบอกว่า    ถ้าซื้อก็ยินดีจะขายให้ในราคาต่ำลงหน่อย    ดูเหมือนเขาจะโกรธจัดที่เตี่ยอ้างคำสัญญาของผู้ชายโบราณด้วยกัน    พ่อของเขาตายไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน    ด้วยความตรอมใจที่เป็นผู้บุกเบิกเมืองมาแต่แรก    มีที่ดินมากมายครอบครองตามใจจะย่ำเอา    แล้วลูกๆก็ช่วยกันผลาญทรัพย์สินชื่อเสียงประดามีลงไปในการพนัน    เกิดคดีความทะเลาะเบาะแว้งแย่งมรดก    เมื่อเดือนที่แล้วนี่เองพี่สาวของเขาถูกยิงตายหน้าตลาด    ข่าวนี้ครึกโครมและทุกสายตาเพ่งไปยังอีกสามพี่น้องที่เหลือ


เขาโกรธที่เตี่ยพูดในเรื่องที่เขาอยากลืม    เขานี่แหละที่ขุดหลุมฝังศพของพ่อเขาย้ายไปที่อื่น    เพื่อขายที่ดินแปลงนั้นในราคาสูงลิบ    คำสาปแช่งก่อนตายเป็นที่รับรู้ทั้งเมือง  ไม่มีใครกล้าคิดจะขอซื้อที่ดินสุสานแห่งนั้น    แม้มันจะเป็นทำเลที่ดีมีอนาคตในอีกไม่นานนักก็ตามที    แต่กับนายทุนชาวกรุงเทพเขาไม่คิดเช่นนั้น    เมื่อมันมีราคามีค่า  เขาก็พร้อมที่จะซื้อเมื่อเชื่อว่ามันจะเป็นแปลงทองคำ!    ผู้ที่ควรจะฉิบหายตามคำสาปแช่ง    ต้องเป็นลูกของเขาเท่านั้น

เขายื่นคำขาดต่อแม่ว่าจะซื้อในราคานี้หรือไม่    ถ้าไม่-ก็ต้องรีบย้ายออกไปภายในสามเดือน    แล้วเขาก็เดินกลับออกไปอย่างฉุนเฉียว    ทิ้งเตี่ยกับแม่อยู่ในความสิ้นไร้หนทาง

เราย้ายไปเช่าบ้านที่ถัดห่างออกไปอีกสามร้อยเมตร


เมื่อเพลงลูกทุ่งกำลังร่วงโรย  ทุกสถานีวิทยุก็พร้อมกันเปิดแขนรับเพลงดิสโก้    ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วทั้งโลก    วิทยุเอเอ็มก็เน้นในละครวิทยุเป็นส่วนใหญ่      ฉัตรทอง  มงคลทอง  ถูกยิงตายคาเวที    เหมือนเป็นการปิดฉากความยิ่งใหญ่ของเพลงลูกทุ่งอย่างแท้จริง    การก่อกำเนิดของ ชาตรี ,แกรนด์เอ็กซ์ ,รอยัล  สไปรท์  กลับเป็นความตื่นตะลึงที่เข้ามาทดแทนอย่างไม่น่าเชื่อ  ตี๋ลุ่มหลงในวงสตริงเหล่านี้จนต้องหันกลับไปถึง  ดิ  อิมพอสสิเบิล    หินก้อนแรกๆที่ปูพื้นให้กับวงดนตรี    หนุ่มจีบสาวด้วยการเล่นกีตาร์ส่งเสียงลอยตามลม    หวังไว้ว่าเพลงอันงดงามนั้นจะลอดล่องเข้าทางหน้าต่างที่สาวเจ้านอน    กระซิบแผ่วๆอ่อนหวานอยู่ใกล้ๆเตียง    กล่อมให้หลับฝันดีถึงเจ้าของนิ้วที่ไล่สเกลไล่คอร์ด

วันที่แสนวิเศษของตี๋มาถึง    เมื่อโปสเตอร์การแสดงดนตรีของแกรนด์  เอ็กซ์  เรียงรายอยู่ตามเสไฟและรั้วสังกะสี    ทุกคนพูดถึงวงดนตรียิ่งใหญ่นี้กันทั่วหน้า    เฝ้ารอคอยวันที่โรงหนังจะเปิดประตูให้เดินถือบัตรเข้าชม    เป็นช่วงปีของแกรนด์ เอ็กซ์ โดยแท้จริง    ไม่มีวงดนตรีใดอีกแล้วที่จะยิ่งใหญ่เสมือนเท่า    หนังสือต่างๆลงเรื่องราวของพวกเขา    บันทึกการแสดงดนตรีทุกๆที่อย่างละเอียด  รูปถ่ายจากนิตยสารถูกตัดมาหุ้มปกสมุด    เดินถืออวดเพื่อนๆอย่างภาคภูมิใจ


โรงหนังเปิดประตู    ฝูงชนเบียดเสียดกันกรูเข้าไป    ที่นั่งเต็มทุกที่เก้าอี้เสริมไม่พอ    มีหลายคนสมัครใจจะยืนชิดของเวที    ต่างเฝ้ารอคอยด้วยความชื่นชม    ตี๋ใจเต้นระทึกมองไปยังเครื่องดนตรีที่วางเรียงราย  แล้วเสียงกรี๊ดก็หวีดขึ้นสุดเสียงเมื่อนักร้องนำเดินออกมาจากหลังเวที    นักดนตรีเข้าประจำที่เรียบร้อย    รอจนเสียงปรบมือซาลง  กีตาร์ถูกสะพายให้กระชับและไมโครโฟนจ่อปาก ต่อหน้าท่าน ณ บัดนี้&คือวงดนตรีแกรนด์ เอ๊กซ์!

แสดงความคิดเห็น

« 3575
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 5 user(s)

User count is 2278434 person(s) and 9097432 hit(s) since 26 เม.ย. 2567 , Total 550 member(s).