short story
เรื่องสั้น
"บ่นสนทนาผ่านมือถือในห้วงยามแห่งความว้าวุ่น"
/สุภัท สุวรรณมณี
บ่นสนทนาผ่านมือถือในห้วงยามแห่งความว้าวุ่น
0165xx294
สวัสดีครับ ผมอยากคุยด้วย กับคุณ คุณนั่นแหละครับ ผมไม่รู้จักคุณหรอก เหมือนคุณที่ไม่รู้จักผม เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ผมอยากจะขอให้คุณอยู่คุยกับผมสักพักได้ไหม ผมกดเบอร์สุ่มๆมาก็แค่อยากจะคุยกับใครสักคนอย่าเพิ่งวางสายนะครับหากคุณมีธุระสำคัญหรือกำลังยุ่งอยู่ละก็ จะสละเวลาสักนิดให้คนขี้เหงาอย่างผมได้ไหมครับ
คุณคงไม่เข้าใจ ผมเป็นใครก็ไม่รู้อยู่ๆก็โทรมา เป็นชายแปลกหน้า ไม่สิ ผมจะเป็นชายแปลกหน้าได้อย่างไรในเมื่อเราสองคนไม่ได้เห็นหน้ากันซะหน่อย อันที่จริงหากคุณจะระแวงผมว่าเป็นไอ้โรคจิตบ้ากามโทรมารบกวนก็ไม่แปลกอะไรหรอกครับ
ผมขอบอกเลยว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมแค่รู้สึกเหงา อยากคุยกับใครสักคน ผมน่าจะโทรหาเพื่อนที่รู้จักกัน ผมลองแล้วครับแต่ไม่มีใครว่างพอจะคุยกันเลย ลองสุ่มโทรไปหาคนที่ไม่รู้จักสองสามคนแล้วด้วย โดนด่ากรอกหูกลับมาทั้งหมด แต่ผมไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ เป็นสิทธิของคนเหล่านั้นที่ไม่ไว้ใจคนด้วยกันในสังคมอันโหดร้ายเช่นนี้ ใจคนสุดหยั่งถึง เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่เรากำลังติดต่อสัมพันธ์ด้วยนั้น จริงๆแล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้กระทั่งเพื่อนที่เราไว้ใจที่สุด บางทีมือขวาสัมผัสกันดีแต่มือซ้ายถือมีดแอบอยู่ด้านหลัง
คุณเคยรู้สึกเหงาบ้างไหม เคยมีอารมณ์อ่อนไหวบ้างหรือเปล่า หากคุณเคยเป็นอย่างนั้นก็คงจะเข้าใจผมในระดับหนึ่ง
บางครั้งเวลาที่ผมเหงาแล้วเฝ้ามองโทรศัพท์ว่าจะมีใครโทรหาผมบ้างไหม แต่แล้วก็ไม่มีใคร ใครๆเขาไม่ว่างพอจะนึกถึงกันเลย แต่ผมไม่ได้เป็นคนประเภทชอบเรียกร้องโหยหาโอดครวญให้คนทั้งประเทศมาเข้าใจหรืออยากให้นายกรัฐมนตรีสละเวลามาแก้ปัญหาของผมหรอกนะครับ
ใช่ครับวิธีการที่ผมทำอยู่นี้คล้ายตัวละครในเรื่องสั้นบทสนทนาทางโทรศัพท์ในค่ำคืนแห่งความว้าเหว่ที่วิทยากร เชียงกูลเขียนไว้ คุณจำเรื่องนี้ได้ด้วย คุณคงเป็นนักอ่านคนนึง ยินดีมากครับที่ได้สนทนากับหนอนหนังสือเช่นคุณ
ชื่อของผมหรือ คุณอย่ารู้เลยครับ ผมไม่เห็นความจำเป็นที่เราจะต้องรู้จักชื่อกันเลย มีตั้งหลายสิ่งหลายอย่างที่เรารู้จักชื่อ จดจำมันได้แม่น แต่เราก็ไม่ได้รู้จักสิ่งนั้นลึกซึ้งมากมายนัก คนเราไม่จำเป็นต้องผูกพันธ์กันด้วยชื่อนี่ครับ
คุณอยากรู้อายุของผม ไม่มีปัญหาครับ ผมอายุ 21 ปี อะไรนะครับ อ๋อ ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย& ที่เดียวกับคุณเหรอครับ บังเอิญจังเลย บางทีคุณกับผมอาจเคยเดินสวนกันมาก่อนแล้วก็ได้
รอผมแป๊บนึงนะครับ จะไปหยิบบุหรี่มาสูบสักมวน รู้สึกว่าผมจะพูดมากเป็นพิเศษ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะครับจะฟังคนอื่นพูดซะมากกว่า หากปิดปากแล้วเปิดหูฟังมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งรู้จักคนพูดมากเท่านั้น
และที่สำคัญ ผมเป็นคนชอบสังเกตคน เลยรู้ว่าแต่ละคนมีลิ้นไก่แตกต่างกัน เวลาฟังคนอื่นพูด ผมจะมองลึกเข้าไปในปากเห็นลิ้นไก่สั่นไปมา บางคนมองได้ลึกถึงคอหอยและลึกถึงหัวใจเลยก็มี แต่ก็บ่อยครั้งนะครับที่ผมต้องหยุดชะงักแค่ริมฝีปากล่าง เพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว
คุณไม่ชอบคนสูบบุหรี่เหรอครับ ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ได้หวังให้คุณมาชอบผมหรอก คุณไม่ต้องกลัว ควันบุหรี่ทำร้ายคุณไม่ได้หรอกครับ ผมสูบบุหรี่ก็แค่อยากให้อายุขัยของผมมันสั้นเข้ามาอีกหน่อยเท่านั้นเอง ปกติคนเรามีอายุขัยเฉลี่ยประมาณเท่าไหร่นะครับ ผมจำไม่ได้ซะที เพิ่งทำข้อสอบไปเมื่อเทอมที่แล้วนี่เอง 60 ใช่ไหมครับ เวลา 60 ปี ผมคิดว่ามันนานมากนะครับ นี่ขนาดชีวิตผมผ่านมาได้ 20 ปี เบื่อจะตายอยู่แล้ว ผมไม่อยากมีชีวิตยืนยาวบนโลกสีน้ำเงินใบนื้นานขนาดนั้นหรอกครับ ฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี นักเขียนรัสเซียยังกล่าวไว้เลยว่า การมีชีวิตอยู่เกินกว่า 40 ปี เป็นเรื่องไม่เหมาะสม,น่าเบื่อและดูยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์ ผมขอมีชีวิตอยู่แค่ 40 ปีก็พอ ผมสูบบุหรี่ให้อายุขัยหายไป 20 ปี นี่ก็ผ่านมาได้ครึ่งชีวิตแล้ว
เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ผมยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรต่อไปดี ผมไม่ได้ประชดชีวิตนะ แต่ถ้าคุณหาว่าผมมองโลกในแง่ร้าย นั่นผมยอมรับเพราะมองอย่างนั้นแล้วจะทำให้เครียด เครียดแล้วจะคิดมาก พอคิดมากแล้วใครไม่รู้บอกว่าจะทำให้แก่เร็ว ผมอยากแก่เร็วๆจะได้ตายเร็วๆไงครับ
พูดถึงเรื่องความตายอีกแล้ว ไม่แน่นะครับ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ สัปดาห์หน้า เดือนต่อไปหรือในวันครบรอบวันเกิดปีหน้า ผมอาจจะตายโดยไม่รู้ตัวสมใจอยากก็ได้-รถตู้คันหนึ่งที่เพิ่งฉุดกระชากลักพาตัวผู้หญิงหน้ามหาวิทยาลัย เหยียบคันเร่งเต็มพิกัด ผมกำลังเดินอยู่ข้างถนนด้วยความสบายอารมณ์ใต้สะพานลอยตรงที่เป็นร่มบังแดด โครม ! เลือดสาดกระเซ็นตายคาที่สมใจอยากดันไม่เดินบนสะพานลอย
พูดถึงสะพานลอย นิสิตนักศึกษาและคนทั่วไปนิยมใช้เป็นร่มบังแดดมากกว่าใช้เดินซะอีกนะครับ แล้วก็มีหลายคนที่เวลาทุกวินาทีมีค่าขึ้นมาตอนอยู่หน้ามหาวิทยาลัย วันก่อนผมเดินอยู่บนสะพานลอยแล้วได้หยุดยืนอยู่ตรงกลางสะพาน เพื่อจะได้ตั้งใจมองผู้หญิงกลุ่มหนึ่งด้านล่าง พวกหล่อนมีด้วยกันห้า คน เดินออกมาจากประตูมหาวิทยาลัย ทุกคนแต่งชุดนิสิต เสื้อขาวรัดรูปโชว์สัดส่วนรูปร่าง กระโปรงสั้นเลยเข่ายาวประมาณสองคืบดั่งตั้งใจเผยให้เห็นเรียวขาอันงดงาม ยั่วใจเสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่ผ่านไปมา ผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งนี่ครับ เห็นผู้หญิงสวยๆเป็นอันต้องหมดแรงเดินทุกที ในเวลานั้นพวนหล่อนคงนึกขึ้นได้ว่ามีธุระสำคัญต้องรีบข้ามถนนไปทำธุระอีกฟาก มองซ้ายมองขวา ไม่มีรถ จึงเร่งฝีเท้าข้ามถนนตรงใต้สะพานลอยที่มีร่มบังแดดเป็นทางยาว พอไปถึงอีกฝั่งของถนน ฉับพลันเวลาก็เดินช้าลง ธุระก็หมดความสำคัญไป หล่อนหัวเราะกันคิกคัก คนหนึ่งหยิบกระจกมาส่องความมันบนใบหน้า อีกคนกำลังคุยโทรศัพท์
ผมเห็นแล้วดึงบุหรี่ขึ้นมาจุดด้วยไฟแช็ค พอติดจึงเขวี้ยงไฟแช็คทิ้งไปบนถนน เสียงระเบิดตูมเพียงเล็กน้อยไม่รุนแรงอะไรหรอกครับแต่เรียกให้สายตาทุกคู่รวมทั้งพวกหล่อนทั้งห้ามาที่จุดเดียวกันกวาดสายตาหาคนมือบอนต้นเหตุ ทุกคนมองมาทางผม ผมพ่นควันบุหรี่โขมงแล้วเดินลงสะพาน คงมีหลายคนที่นึกเกลียดขี้หน้าผมขึ้นมาตะหงิด ไม่ค่อยมีใครประพฤติตนเช่นนี้ให้เห็นบ่อยนัก ช่างเขาเถอะ ผมอยากสูบบุหรี่เพื่อให้ชีวิตผมสั้นลงเท่านั้นเอง
เรื่องค่าโทรศัพท์เหรอครับ ไม่มีปัญหา หากผมกังวลค่าโทรศัพท์ที่โทรเข้ามือถือของคุณละก็ ผมคงไม่ทำอย่างนี้แต่ตอนแรกแล้วละครับ ค่าโทรผมมีเงินจ่าย ไม่ใช่ว่าเป็นลูกคนรวยอะไรหรอก ผมเป็นคนหนึ่งที่กู้ยืมเงินกองทุนเพื่อการศึกษา อันที่จริงผมไม่ได้ขัดสนเงินทองจึงต้องกู้ยืมเงิน ฐานะครอบครัวจัดได้ว่าอยู่ในระดับชนชั้นกลางตามมาตรฐานประเทศไทย แต่ที่ต้องกู้ยืมเงินเพราะผมจะเอาเงินไว้ซื้อหนังสือ คุณรู้ไหมส่วนใหญ่นะผู้ที่ได้กู้ยืมเงินกองทุนแล้วจะกลายเป็นผู้ล่ำซำกันทั้งนั้น เอาเงินที่ได้ไปซื้อมือถือ เสื้อผ้าแพงๆของฟุ่มเฟือยตามอำเภอใจอีกเยอะแยะ แต่ผมไม่ได้เหมารวมหมดนะครับ คงมีอยู่บ้างที่ประพฤติตัวสมกับเป็นผู้กู้ยืมเงินกองทุนเพื่อการศึกษา
ประเทศไทยก็อย่างนี้ มีความคิดดีๆแต่พอตอนปฏิบัติมักทำไม่ได้เรื่องทั้งนั้น
ครับ ผมเอาเงินที่กู้ไว้ซื้อหนังสือมาอ่าน เปล่า! เปล่าครับไม่ใช่หนังสือเรียน เป็นหนังสือวรรณกรรมต่างหากละครับ ผมไม่ชอบอ่านหนังสือเรียนเลยครับ อ่านแล้วมักทำให้ผมอยากออกจากโรงเรียน แต่เพราะมีหนังสือวรรณกรรมที่ทำให้ผมยังอยู่ในโรงเรียนต่อไป
ถ้าหากว่าผมใช้เงินที่พ่อแม่ให้แต่ละเดือนซื้อหนังสือ ไม่พอจ่ายหรอก หนังสือดีๆแต่ละเล่มแพงจะตาย แล้วผู้ใหญ่บางคนยังพูดอยู่บ่อยๆว่า เดี๋ยวนี้นิสิตนักศึกษาไม่อ่านหนังสือกันแล้ว จะให้พวกผมอ่านอะไร จะเอาเงินที่ไหนไปซื้ออ่านเล่าครับ ผมละเบื่อจริงๆ
แต่ถ้ามองอีกด้าน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศไทยมีนิสิตนักศึกษาที่เรียกกันว่าปัญญาชนเป็นแสนๆคน แต่หนังสือวรรณกรรมดีๆพิมพ์เพียงสามพันเล่มขายไม่หมด ไม่รู่ว่าบ้านเมืองนี้จะเดินไปสู่หนใดนะครับ แต่ช่างปะไร ผมมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกแค่ 20 ปี เท่านั้นเอง ว่าแล้วผมขออนุญาตจุดบุหรี่อีกมวนนะครับ
ใช่ครับเป็นเพลง Love will keep us alive ของ The Eagles คุณได้ยินเพลงที่ผมเปิดด้วย เปิดดังไปหรือเปล่า แค่นี้ดีแล้วเหรอครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น เหมือนกันเลย ผมก็ชอบเพลงนี้ แหม คุณนี่มีรสนิยมคล้ายผมเลยนะครับ
ได้ครับผมจะหยุดพูดสักพักหนึ่ง เพื่อให้เราสองคนได้ฟังเพลงนี้ให้จบด้วยกัน ดีครับผมจะได้สูบบุหรี่ไห้หมดมวน เพื่อให้อายุผมเหลือแค่ 20 ปี
&อะไรนะครับ คุณอยากรู้ว่าผมเคยผิดหวังในเรื่องความรักมาบ้างหรือเปล่า ครับผมเคยผิดหวังกับความรักมาก่อน แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงมัน ปล่อยให้เป็นความทรงจำแก่ผมเพียงลำพังได้ไหมครับ แค่ความไม่ลงตัวต่อกันเท่านั้นเอง มีหลายคนที่รักกัน หลงใหลในความดีต่อกัน พอเวลาผ่านไป รักหมดไป ก็เที่ยวประจานด้านเสียของอีกฝ่ายด้วยความสะใจ หากฉุกคิดสักนิดว่ามันเป็นเพียงความไม่ลงตัวต่อกัน เรื่องไร้สาระเหล่านั้นก็คงไม่เกิดขึ้นจริงไหมครับ
ตอนนี้คุณอยู่ที่ชายทะเลหรือครับ มิน่าล่ะ คลื่นถึงดีจัง คุณขำเหรอครับ ขอบคุณที่ขำกับมุขคนปัญญาอ่อน คุณชอบทะเลล่ะสิ ใครๆก็ชอบทะเลนะครับ สำหรับผม บางครั้งก็ชอบ บางทีก็ไม่ชอบ บ้านผมอยู่ใกล้ทะเลนี่ครับ คนเราก็เป็นอย่างนี้แหละ มักมองไม่เห็นความสำคัญของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
ใครหลายคนมักให้นิยามเกี่ยวกับทะเลไปต่างต่างนานานะครับ ยามทะเลคุ้มคลั่งใครๆมักไม่ชอบ หาว่าทะเลเหมือนปีศาจร้ายคอยคร่าชีวิต ยามทะเลสงบเงียบ ใครๆชอบมองดูมัน เล่นกับมันคล้ายๆจะมองหากำลังใจ และมักเอาความเศร้าเสียใจมาทิ้งทะเล
อันที่จริงทะเลก็เป็นอย่างนี้มาเป็นร้อยปีแล้ว คนต่างหากที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แล้วให้นิยามความหมายสิ่งต่างๆเต็มไปหมด
แม้กระทั่งทะเลก็เอามันไปเปรียบเทียบกับชีวิต บางคนเปรียบทะเลเป็นเหมือนชีวิตที่ตัวเองเหมือนเรือลำน้อยลอยอยู่กลางทะเลลึกกำลังหาทางที่จะลอยไปให้ถึงฝั่ง ใครที่พายเรือไม่เก่งหรือไม่เข้าใจวิถีโคจรของดวงดาวที่จะนำพาตนเองไปถึงฝั่งก็คงหลงทางกลางทะเลชีวิต ไม่มีวันไปถึงฝั่งฝันได้ ใครที่ลอยไปถึงฝั่งก็คงจะขึ้นฝั่งไปแล้วไม่หันกลับมามองทะเลอีก ไม่รู้ว่า เรือชีวิตของผมหรือคุณจะลอยไปสู่ฝั่งไหนนะครับ
เสียงอะไรครับ อ๋อแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว งั้นก็ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเราสองคนหมดไปพร้อมกับแบตเตอรี่ ดีเหมือนกันนะครับ หากความสัมพันธ์ของคนเราเป็นดั่งแบตเตอรี่มือถือที่เมื่อหมดลงเมื่อไหร่สามารถชาร์จไฟได้ใหม่อีกหลายครั้ง
เดี๋ยวจะโทรคุยกันต่อเหรอครับ อย่าดีกว่า ให้จบลงเพียงแค่นี้จะเป็นการดีกว่านะครับ หากต่อเติมความสัมพันธ์กันมากกว่านี้ อาจจะต้องเสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่าย ผมรักความรู้สึกมากนะครับ ไม่อยากเสียมันไป คุณก็เช่นกัน รักษาความรู้สึกให้ดีล่ะครับ
ขอบคุณมากที่ฟังผมบ่นได้ตั้งนาน เราสองคนคงได้เดินสวนกันบ้างแหละนะครับในมหาวิ&
(จบการโทร)
01793xx74 สวัสดีครับ อย่าเพิ่งวางสายนะครับ ผมอยากคุยกับคุณ ผมไม่รู้จักคุณเหมือนอย่างที่คุณไม่รู้จักผม แต่ผมอยากขอให้คุณอยู่คุยกับผมสักพักได้ไหมครับ ผมกดเบอร์สุ่มๆมาแค่อยากจะคุยกับใครสักคน หากคุณไม่มีธุระสำคัญหรือกำลังยุ่ง& (ฉันไม่ว่าง ไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม ไปตายซะไป!) (จบการโทร).