ข้าแบมืออันเปลือยเปล่า
ข้าแบมืออันเปลือยเปล่า
นั่นคือภาพเมืองร้าง กับซุ้มประตูมหึมา กำแพงฉาบปูนที่ลอกล่อน เหลือแต่อิฐเปลือยเปล่า หนาวเหน็บในสายลม กับหุ่นไล่กาในอาภรณ์งามสง่า และซากเนื้อหนังติดกระดูก ของหญิงชรานางหนึ่ง นั่งคุดคู้ในชุดไว้ทุกข์สีดำ วงหน้าใต้ผ้าคลุมผม รอยยิ้มของนาง เจือไว้ด้วยความเมตตา ซึ่งผุดพรายจากขุมนรก
มองลอด ผ่าน โค้งซุ้มประตูมหึมา อีกครั้ง กลิ่นเขม่าดินปืน ตลบฟุ้งกระจาย ทุกอณูบรรยากาศ ราวกับธูปที่ถูกจุด ในมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เสียงหึ่งฝูงแมลงวัน ราวกับเสียงสวด อ้อนวอน
ด้วยมืออันเปลือยเปล่า
ข้ากอบความสิ้นหวัง
และเป่ามันออกสู่อากาศ
ต้นกุหลาบเปอร์เชียงอกในกายข้า
ดอกสีแดงและหนามของมัน
เสียดแทงทะลุออกมาจากดวงตาข้า
นกพิราปสองตัวคาบกิ่งมะกอก
สุมทำรังบนศีรษะ..ทว่า
ข้าสลัดรังของมันทิ้ง
ริดกิ่งและหนามคมแห่งกุหลาบ
พร้อมเดินจากมา
ด้วยมืออันว่างและเปล่าเปลือย