สมิหลา..เกือบก่อนราตรีกาล
ชะ..ชะ ละโลมร่าง... ธารคร่ำคราง...คลอครวญไห้..
ทรุดตน..บนผืนทราย... เกียกตะกาย...ตามสายชล
แลไปไกลลิบ..โน่น เหนือฝั่งโพ้น..ทะเลฝน..
ฝนใจ..ใฝ่ฝนตน.. กระเสือกกระสนจนร่างพลี
...............................
................. ........... ..........
เมาเล..เมาคลื่น...ครืน ครืน เกรี้ยว
น้ำพันเกลียวโถมซัดกลบหัตถี
สายสะอื้น..กานท์หวนวจนี
สายชีวี..สายจิต..จริตแจง
บ้างเป็นหมู่..บ้างเป็นคู่..รำพันสุข
แต่เป็นทุกข์...ปลุกระกำ..กล้ำกรรแสง
ตัวฉัน..เคียงข้างเงา..วันเดือดแดง
เซซัดแซง..แรงถลำ..ลำธารา
.................................................... ( ภาค::กลดำเนิน ) ..
กระโจนตนขึ้นรถบัสคันสีเขียว
นั่งคนเดียวก็รู้สึกสะอึกสะอื้น
เพื่อนนั่งข้าง..ที่ไม่พอ..ฉันต้องยืน
ไม่เป็นไร..ฉันยังฝืนกล้ำกลืนทน
บัสคันนี้แล่นเร็ว..ใจแทบขาด
มุ่งสู่หาด..สมิหรา..ณ แหลมสน
รถ..ถึกๆถักๆ พาวกวน
เริ่มตาลาย..ลมบน..จับลมตัว
ด้วยอารมณ์ตื่นเต้นเห็นน้ำฟ้า
พุ่งกายา..กระโดดตูมลุ่มลื่นไหล
แต่เวียนหัว..ตัวเปลี้ย..สุดเสียใจ
ลงไม่ได้..ลมแทบใส่..จะเป็นลม
คงเพราะวันนี้..วันแดงเดือด
เถือกสีเลือด..ทั้งแผ่นน้ำ..กรำแดดฝน
แดดข้างบน..น้ำข้างล่าง...มันปะปน
เลยปวดหัว...เมื่อยตน..ทำอย่างไร
จะกินข้าว..ยังไม่แตะ..สักเม็ดข้าว
ท้องร้องหนาว..ราวกรวดปนปวดไส้
แต่คนมันอยากเล่นน้ำ...อยากสุดใจ
ทนไม่ไหว...โดดลง...ฉันเลย ดำ
ดำทุเรศ..เวทนาน่าสงสาร
สีน้ำตาลกลายเป็นดำคล้ำเคลือบผิว
ดำเป็นปล้อง..ร่องสี..คราบไคลปลิว
เอาเม็ดทรายแตะนิ้วถูทั้งตัว
เพื่อนบอกว่าถูกับทรายกายสะอาด
ถูกจนเนื้อแทบขาดไม่เห็นขาว
ยังคงดำ..ผ่องผุด..ประดุจดาว
อ้าวๆ!กลอนพาไปอีกแล้ว..นะจ๊ะเธอ
( ภาคชมเล :: ฉันท์)
::น้ำตารุ้ง..รดหลั่ง::
หยาดรุ้งระดะจิต
ระสถิตชีวิตเหงา
ตาคมวะวะวาว
สุภคราวหยาดยะริน
สายลมถวิลครวญ
บ่สรวลกษศินต์
คำหวนวจนิน
ประดะรุ้ง..ดวงตะวัน
(( บทที่ 2 ))
พรายพร่าง..พรางพรม..ห่มฟ้า ผิวแผ่ว..ผืนผา..ห่มหนาว
ดึกดื่น..ดารดาษ..เด่นสกาว
ดึกพราว..พริบระยับ..ประดับเดือน
แหงนมอง..จันทร์แจ่ม..แฉล้มฟ้า
ดั่งชีวา..ณ จินต์ฉัน..พลันเสมือน
ทะยานพุ่ง..สูงเด่น..ระดะเตือน
กระโจนร่วง..แลเลือน..ลิบลิบไป
( 23 กุมภาพันธ์ / วันเลี้ยงส่งพี่รหัส )