..........ความรัก .. ของ .. คนบ้า..........
...
แผ่นยางสังเคราะห์ที่ขอบข้างวิ่นแหว่ง ผิวพื้นหน้าสัมผัสกับพื้นโลกเหลือความหนาไม่ถึงครึ่งของที่มันเคยเป็น ยกย้ายตามจังหวะการก้าวเดินของเท้าดำปึ๊ด ความเข้ากันได้อย่างกลมกลืนระหว่างเครื่องแต่งกาย และผู้สวมใส่ ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน กางเกงเอวต่ำตามศักยภาพของยางยืด เสื้อเชิ๊ตแขนยาวที่ยังเหลือความยาวของแขนเสื้อเพียงข้างเดียว ผมทรงเดทล๊อคเหมือนถอดแบบมาจากหัวของบ๊อบ มาร์เล่ย์ ศิลปินเรกเก้ชื่อกระฉ่อนโลก สีหน้าดูเหมือนไม่แยแสอะไรกับชีวิตนั่นก็ดูไม่ต่างกัน แต่บ๊อบ มาร์เลย์ ก็ยังอาบน้ำอาบท่าบ้างหลังจากเล่นคอนเสิร์ต ให้สัมภาษณ์นิตยสารไทม์ , เมโลดี เมเกอร์ หรือรายการวิทยุบ้าง นั่นดูจะเป็นสองอย่างที่ทำให้บ๊อบ มาร์เล่ย์ แตกต่างจาก
... ยายกล้วย
... ยายกล้วย ... ไม่อาบน้ำ และยายกล้วย ... ไม่พูดกับผู้คน ...
ยายกล้วย แกจะมีชื่อจริงว่าอะไร ไม่มีใครรู้ ใครสักคนหนึ่งแหละที่ตั้งนามเรียกขานนี้ให้แก เพียงเพราะแกชอบดึงใบตองของกอกล้วยที่อยู่ข้างทางมาบังแดดตอนที่แกออกเดินเล่นตอนเช้า อันที่จริงแกจะเดินเล่น หรือเดินหาปรัชญาบนวิถีแห่งตน หรือเดินตามความฝันสีจาง ๆ ที่ยังพอหลงเหลือของแกก็ไม่มีใครรู้อีกนั่นแหละ เหตุผลที่คนอื่นไม่รู้ก็เพราะความในบรรทัดโดด ๆ ข้างบน
... ยายกล้วย ... ไม่อาบน้ำ
ถ้าใครไปอยู่ใต้ลมทุ่ง ตอนที่แกเดินมาตามถนนลาดยางหลังเทคนิคดอนเมือง ต่อให้ยังไม่เห็นตัวแกก็ต้องรู้ว่าแกเดินมาทางนี้ กลิ่นกายของแกจะลอยตามสายลมมาเปิดทางเบื้องหน้าให้มนุษย์ทุกผู้ขยับตัวเองออกจากวิถีนำร่องของแก ถ้ามือข้างหนึ่งข้างใดยังว่าง มนุษย์ผู้นั้นต้องยกมันขึ้นมาปิดจมูกอย่างอัตโนมัติ หากบังเอิญถือของไว้สองมือ คุณจะเห็นมนุษย์ผู้โชคร้าย เดินสวนกับยายกล้วยด้วยอาการเดียวกับคนที่กลั้นอึสุดชีวิตจนหน้าเขียวหน้าเหลือง และระบายลมหายใจออกอย่างสุดปอดเหมือนคนที่เพิ่งโผล่พ้นผิวน้ำ
ถ้ามีใครไปถามแกว่า ไม่เหม็นตัวเองบ้างเหรอ ทำไมไม่อาบน้ำอาบท่าซะบ้าง เสื้อผ้านี่ก็ทั้งขาดทั้งดำ จนเกินสภาพที่จะเอาไปทำผ้าขี้ริ้วเช็ดโต๊ะก๊วยเตี๋ยวซะด้วยซ้ำ ก็คงไม่มีใครได้คำตอบจากแกอีกนั่นแหละ เพราะยายกล้วยไม่พูดกับผู้คน
อย่าว่าแต่คนเลย หมาแห่กันมารุมเห่าแกทั้งซอย แกยังไม่ไล่ด้วยซ้ำ รอบกายของแกดูจะถูกห่อหุ้มด้วยสนามพลังบางประการเหมือนพวกอัศวินเจได ที่แม้แต่หมายังกล้าแค่เห่า แต่ไม่กล้าเข้าใกล้แกในรัศมี 3 เมตร เคยมีหมาตัวหนึ่ง คงอยากพยายามยกระดับตัวเองให้เป็นหัวหน้าจิ๊กโก๋หมา หลังจากฟังเพื่อน ๆ หมาปอดแหกตัวอื่น ๆ ที่กล้าแค่เห่ายายกล้วยยุให้ลองกัดน่องยายกล้วยดูสักที มันเลยฮึดสวมวิญญาณหมาผู้นำ ค่อย ๆ ย่องเข้าไปจากด้านหลังยายกล้วยขณะที่หมาตัวอื่น ๆ สร้างสถานการณ์เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการทั้งเห่าทั้งหอนอยู่รอบตัวแก
เหมือนมีเครื่องบินไม่ปรากฏสัญชาติ บินเข้าไปเหนือเขตห้ามบินของมหานครนิวยอร์คแล้วเรดาห์ของระบบเตือนภัยทางอากาศของแพนตาก้อนทำงาน ยายกล้วยหมุนตัวกลับพร้อมทั้งสวิงเท้าซ้าย วาดวงโค้งเข้าหาไอ้หมาใจถึงทางการลอบกัดตัวนั้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่มันจะทันได้ตั้งตัว
พลั่ก ... !
กระบวนท่าเท้ากวาดธรณีของยายกล้วย พลาดเป้าหมายไปเพียงครึ่งเซนติเมตร เพราะแกเสียการทรงตัวขณะที่ทำการหมุนตัวเตะ ส่งผลให้แกหงายหลังลงไปกระแทกผิวยางแอสฟัลท์ของถนน แต่มันยังคงอานุภาพพอที่จะสร้างความแตกตื่นเสียขวัญให้กับหมาทั้งฝูง ยิ่งไอ้ตัวที่อีแตะฟองน้ำบินเฉียดปากมันไปนั่น เยี่ยวแตกวิ่งไปร้องเอ๋งไปเหมือนโดนยายกล้วยเตะจนกรามหัก
ไม่เคยมีหมาหน้าไหนเข้าใกล้ยายกล้วยอีก เสียงโจษจันถึงพลังอาถรรพ์เหนือธรรมชาติของยายกล้วย แพร่กระจายจากปากหมาซอยหนึ่ง ไปสู่หูหมาอีกซอยหนึ่ง เสียงเล่าลือดังเซ็งแซ่ไปทั่วทุกซอยหลังเทคนิคดอนเมือง ในชั่วข้ามคืนเพ็ญเดือนหก
อย่าว่าแต่หมาเลย กระทั่งผู้คนเองต่างก็สงสัยในความเป็นมาเป็นไปของยายกล้วยไม่มากก็น้อย ตามสำนึกสอดรู้สอดเห็นของแต่ละคน คนบ้าที่เดินท่อม ๆ ไปมาเป็นที่น่าเป็นห่วงของบ้านที่มีบุตรหลาน คนบ้าที่เดินบนถนนลาดยางเป็นที่น่าเป็นห่วงของบ้านที่มีรถเก๋งคันหรู คนบ้าที่นั่งยอง ๆ ฉี่ข้างกำแพงวัดเป็นที่น่าเป็นห่วงของบ้านที่มีผู้เฒ่าเคร่งศีลธรรม คนบ้าที่ชอบมายืนยิ้มน้ำลายไหลย้อยถึงลูกคางเป็นที่น่าเป็นห่วงของบ้านที่ขายก๊วยเตี๋ยว แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่เห็นมีใครหน้าไหนเข้าใกล้ยายกล้วย แล้วไปถามปัญหาที่ค้างคาใจกรรมการชุมชนแถวนั้นซะที ยังคงมีแต่เสียงโจษจันถึงสติที่ไม่เข้าที่เข้าทางตามสายตาของคนอื่นที่มองมายังยายกล้วย แพร่กระจายจากปากคนซอยหนึ่ง ไปสู่หูคนอีกซอยหนึ่ง เสียงเล่าลือดังเซ็งแซ่ไปทั่วทุกซอยหลังเทคนิคดอนเมือง ในชั่วข้ามคืนเพ็ญเดือนหก
ดูเหมือนยายกล้วยจะไม่ได้ให้ความสำคัญถึงมุมมองของคนอื่น มากกว่ามุมมองของตนเอง มุมมองที่ทอดยาวไปตามถนนที่แกเดินผ่าน ใบตองบังแดดเหนือหัวอยู่ในมือข้างหนึ่ง และตุ๊กตาผ้าเก่า ๆ กระดำกระด่างกอดแนบอกในมืออีกข้างหนึ่ง เป็นของเพียงสองสิ่งที่ยายกล้วยยังยึดมั่น ขณะที่ย่างเท้าไปตามถนน
ถ้าใบตองในมือข้างหนึ่ง เป็นสิ่งบ่งบอกให้รู้ว่ายายกล้วยยังรู้ร้อนรู้หนาว ตุ๊กตากระรุ่งกระริ่งตัวนั้นก็เป็นสิ่งเดียว ที่ยังบอกถึงความเป็นคนที่หลงเหลือเพียงเศษเสี้ยวในตัวยายกล้วย ตุ๊กตาตัวนั้นอาจเป็นของขวัญจากคนรักของยายกล้วย อาจเป็นของเล่นชิ้นโปรดของลูกสาวยายกล้วย หรืออาจเป็นเพียงเศษตุ๊กตาที่ถูกทิ้งลงถังขยะหน้าบ้านที่ยายกล้วยเดินผ่าน ความสำคัญของที่มาคงดูไม่มีความหมายเมื่อเทียบกับอาการลูบคลำมันอย่างทะนุถนอมระหว่างการก้าวเดินของยายกล้วย
ใครบางคนเคยบอกว่า คนบ้า คือคนที่สูญเสียทุกอย่างในชีวิต นอกจากเหตุผลของตัวเอง ถ้ามันเป็นเช่นนั้น ยายกล้วยก็คงเป็นคนบ้าที่โชคดีที่สุดในโลก อย่างน้อยในความรักที่ไม่สมประกอบของแก ยังคงมีอะไรอยู่ในอ้อมกอดของแกบ้าง
บางคนที่ผมรู้จัก มีความรักที่เป็นสัญญาณดิจิตอล โอบกอดความว่างเปล่าของความฝัน และร่ำไห้อย่างเดียวดายใต้ผ้าห่มในคืนเพ็ญเดือนหก ...
...
เธอน่าจะมีใบตองสักใบในมือข้างหนึ่ง และตุ๊กตาขาด ๆ อีกสักตัวในมืออีกข้างหนึ่ง
เหมือนที่ยายกล้วยมีนะ ... ผมว่า