หายไปนาน แวะมาเยี่ยมฮะ
เอาเรื่องใหม่มาฝากด้วยแหละ แต่มันดูโรคจิตๆไงมะรู้นะฮะ หวังว่าน้าหมี่คงสบายดีนะ แล้ววิ่งขึ้นเขาไปรึเปล่าที่เขาเตือนสึนามิอ่ะ
[\hr] ซาก หากเพียงคุณสามารถเห็นหน้าเต้ คุณก็คงทราบได้ว่าเขากำลังอึดอัดคับข้องใจอย่างหนัก เต้อาจเป็นชายหนุ่มนักกีฬาที่มีฝีเท้ารวดเร็วไม่แพ้ใคร แต่เต้ไม่อาจวิ่งหนีเหตุการณ์ในวันนี้ได้พ้น เต้อาจจะไม่เคยเกรงกลัวใครในเรื่องชกต่อย แต่เต้ก็ไม่อาจตอบโต้เธอได้แม้แต่น้อย
หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้แตะต้องโดนตัวเต้แม้แต่น้อย แต่เต้ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ อันที่จริงแล้ว แม้จะเป็นชายร่างกำยำสักคนก็ยากที่จะจับเต้ให้อยู่นิ่งกับที่หากเต้ไม่ต้องการ แต่หญิงสาวมีพันธนาการที่เหนียวแน่นกว่านั้น เส้นเชือกที่พันธนาการไม่ให้เต้ได้มีโอกาสดิ้นรน เส้นเชือกที่เรียกว่า น้ำตา
เต้พยายามสูดลมหายใจลึกๆ รวบรวมความกล้า ก่อนจะเปล่งเสียงออกไป เตยเป็นอะไรไปครับ? สิ้นเสียงแล้วเต้อยากจะตบศีรษะตัวเองสักที มันช่างเป็นคำพูดที่แสนจะงี่เง่า น้ำตาของเธอหยดแหมะๆลงบนโต๊ะที่อยู่หว่างกลางจนเกิดเป็นแอ่งน้ำตื่นขึ้นมาแล้ว
เต้พยายามทบทวนว่าตัวเองทำอะไรผิด เขาอาจจะลืมวันสำคัญของเธอ ไม่ใช่น่าเธอเกิดมกราโน่น หรือจะเป็นวันครบรอบที่เราคบกัน นั่นก็เดือนธันวานะ หรือเขาคุยกับผู้หญิงคนไหนเพลินไปหน่อย ก็ไม่น่าเป็นไปได้ จะว่าเพราะมารับช้าก็คงไม่ถูกอีก หรือว่าเขาเดินเหยียบมดที่เธอรักสุดหัวใจเข้าให้ ใครจะไปรู้ได้ ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดสินใจถาม พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ? เตยบอกพี่มาทีสิ หญิงสาวยังคงก้มหน้าสะอึกสะอื้นต่อไป ขณะที่เต้กำลังจะจมความสงสัยตาย
อาการร้อนรนเริ่มปรากฏขึ้นทั่วร่างกายเต้ เขาไม่ทราบหรอกว่าได้ทำสิ่งใดพลาดพลั้งลงไป แต่เขาคงทำละ ไม่เช่นนั้นเธอจะร้องห่มร้องไห้ไม่หยุดเช่นนี้ได้อย่างไร เต้รู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวก จะนั่งนิ่งๆก็ไม่ได้ คล้ายคนกำลังจะจมน้ำต้องคอยตะเกียกตะกายตลอดเวลา แต่การตะเกียกตะกายของเต้คือการยิงคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในที่สุดเต้ก็ดิ้นมาจนสุดล้า
พี่ขอโทษนะถ้าพี่ทำอะไรผิดไป พี่ไม่รู้จริง
แล้วโลกก็เงียบลงฉับพลัน เหลือเพียงสายลมพัดแผ่วที่ยังคงเคลื่อนไหว ส่วนเต้นั้นจมนิ่งไปตามกระแสธารแห่งความสงสัยไม่อาจกลับขึ้นมาได้อีกแล้ว
เต้ก้มหน้านิ่งเนิ่นนาน ในสมองเวิ้งว้างว่างเปล่า ชั่วขณะเขารู้สึกคล้ายกำลังอยู่ในความฝันไป
โต๊ะที่กั้นหว่างกลางละลายหายไป เต้กลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ มือเท้ารัดแน่นด้วยสายหนัง ศีรษะครอบด้วยโครงเหล็กที่เชื่อมกับสายไฟ หญิงสาวที่เคยนั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นยืนตระหง่านง้ำอยู่ตรงหน้า น้ำตาหยุดไหลแต่ยังทิ้งคราบบนใบหน้าสวยใสแต่สายตาดูเย็นชา เย็นชาจนเต้กังวล และเหนืออื่นใด ใบมีดยาวเหยียดในมือเธอก็เป็นสัญญาณให้เต้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี พี่เต้คะเธอเรียกหาเบาๆ ครับเต้รับเบาๆ เราเลิกกันเถอะค่ะ เต้เสียววาบที่หน้าอก หญิงสาวปักมีดเข้ากลางดวงใจ ค่อยๆบิดกว้านให้เลือดไหลหลั่งออกมาทีละน้อยพร้อมกับเสียงที่ดังมาเข้าหู เตยว่าเราคงไปกันไม่ได้ เต้ยังคงนั่งนิ่ง ปล่อยให้หญิงสาวลากคมมีดไปที่ลิ้นปี่ เราไม่เคยเข้าใจกันจริงๆเลย เธอบิดข้อมือเล็กน้อยแล้วลากมันลงมายังท้องน้อย เราหรอกตัวเองกันมาตลอดนะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่เราคิดว่าเรารักกัน
แล้วเต้ก็คล้ายได้ยินตัวเองถามไป พี่ทำอะไรผิดครับ ใบมีดถูกดีงออกไปพร้อมกับลำไส้เต้ที่ทะลักมากองข้างนอก เปล่าค่ะพี่ไม่ได้ผิด จริงๆแล้ว....หญิงสาวกล่าวพลางลิ้มรสเลือดของเต้ที่อยู่บนใบมีด ก่อนจะสะบัดมันอย่างรวดเร็วเข้าที่ลำคอ พี่ดีเกินไปด้วยซ้ำเต้รู้สึกเหมือนศีรษะคาดออกจากร่าง เตยไม่ได้ประชดนะคะ พี่เป็นคนดีแขนขวาเขาหลุดหายไป เป็นเตยเองที่ไม่ดีพอแขนซ้ายหายตามไปอย่างรวดเร็ว เตยขอบคุณทุกสิ่งที่พี่ทำให้เท้าขวาถูกบั่นขาด เตยจะไม่มีวันลืมพี่เท้าซ้ายปลิวกระเด็น แต่เราคงไปกันไม่ได้จริงๆ ใบมีดปักฉึกเข้าที่กะโหลก
น่าแปลกที่เต้ยังไม่ยอมตาย ชายหนุ่มสูดหายใจแม้ไม่รู้ว่าปอดอยู่ที่ไหน ลมหายใจสั้นห้วนถูกรวบรวมออกมาเป็นคำพูด ทำไมครับ? เหมือนสาดน้ำมันเข้ากองเพลิง น้ำตาของหญิงสาวที่หยุดไปไหลทะลักราวทำนบแตก ใบมีดในกำมือสะบัดปัดป่ายไปทั่วร่างเขา พี่ไม่เคยเข้าใจเตย 1 แผล พี่ไม่เคยรักเตย 2 แผล พี่ไม่รู้หรอกว่าจริงๆเตยต้องการอะไร 3 แผล พี่เข้าใจแต่ความต้องการของพี่เองเท่านั้นแหละ 4,5,6......แผล แล้วโลกก็เข้าสูความเงียบอีกครั้ง
หากเพียงคุณสามารถเห็นหน้าเต้ในเวลานี้ คุณก็คงทราบว่าความอึดอัดคับข้องใจทั้งหลายของเขาได้หายไปแล้ว อันที่จริง เต้ไม่มีอารมณ์ใดๆติดค้างเหลืออยู่อีกแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่เต้ที่มีชีวิต มันเป็นเพียงกองเลือดเนื้อเลอะเลือนที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นเอง