น้ำหอมที่พ่อให้
ช่างเงียบเกินบ้านนี้ไม่มีเสียง
จะยินเพียงเสียงยนต์และคนผ่าน
อ่านหนังสือหนังหาอยู่หน้าร้าน
รอลูกค้านานนาน...จะมาคน
ไม่มีคำ "พ่อจ๋า"..."คะขาลูก"
จะแลฟูกริ้วรอยก็พลอยหม่น
กระป๋องแป้งฝุ่นเปรอะฝ้าเลอะปน
ดินสดสีก็ขัดสนคนเหลามัน
กระดานพ่อรอเพียงเจ้าเรียงภาพ
ตะวันอาบแสงอายอุ่นฟายฝัน
ทั้งปราสาทสีทองที่ผ่องพรรณ
เจ้านั่งเขียนพ่อนั่งขันอยู่นั่นแล้ว
น่ะ เครื่องครัวเจ้าวางทิ้งกลางบ้าน
ทั้งถ้วยจาน กระทะ ตะหลิว แก้ว
ดินน้ำมันปั้นหมา ช้าง ม้า แมวย
ก็รอเสียงแจ้วแจ้วจำนรรจา
นิทานที่ตะล่อมกล่อมเจ้านอน
ยามเจ้าหนุนแทนหมอนด้วยท่อนขา
แม้งานพ่อหนักเหนื่อยแสนเมื่อยล้า
กลิ่นเหงื่อพ่อก็หอมกว่าน้ำหอมใด
เป็นน้ำหอมที่ห่มให้เจ้าหอม
มิได้ปลอมแปมปนเอากลใส่
จากเหงื่องานผลิดอกจนพอกไคล
ด้วยเหงื่อนี้นี่ไงให้เจ้าโต
.............................................
พ่อคิดถึงภาพพร่าอนาคต
อาจฝูงมดแฝงแมงสำแดงโอ่
กลัวฝูงมอดกัดไม้
แหละเสาเรือนก็จะโย้จนโยกล้ม
เพียงเพราะพ่อเพียรเกลากลึงเสาเรือน
อนาคตอาจเฟือนจนเรือนล่ม
แม้เสาที่พ่อคลึงจักกลึงกลม
ผีสังคมอาจขย่มจนล่มเรือน
หวังเพียงให้เจ้าคิดถึงน้ำหอม
ที่เหงื่อย้อมแสงยับขยับเขยื้อน
วันข้างหน้าอย่างไร ใครจะเตือน
เถิดรู้คิดเจ้าก็เคลื่อนโดยทิศนั้น
............................................
ก็เพราะเงียบเกินไปในบ้านนี้
ไร้คนเล่นดนตรีเติมสีสัน
พ่อนั่งอยู่หน้าบ้านวันทั้งวัน
ตา, ยายเจ้าอยู่นั่น...สบายดี
ระลึกโดยวันที่ลูกสาวกลับไปเยี่ยมตายาย