บันทึกของฉัน....วันที่เธอร้องไห้
.
.
" แกว่างมั้ยวันนี้ ตอนไหนก็ได้ แกออกมาหาชั้นหน่อย "
เสียงของจูนสั่นเครือมาตามคลื่นโทรศัพท์ ...
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่จูนเพื่อนรักของฉันโทรมาร้องไห้
ฉั น นึ ก ถึ ง ภ า พ จู น เ มื่ อ ห้ า ห ก ปี ก่ อ น
แอร์โฮสเตสสาวสวย... ใช้ชีวิตหรูหราตามแบบของเธอ
กระเป๋า รองเท้า ของจูนไม่มีชิ้นไหนที่ไม่ใช่แบรนด์เนม
วันว่างของจูน จะหมดไปกับการเข้าสถานเสริมความงามและชอปปิ้ง
ไม่มีวันไหนที่จูนจะออกนอกบ้านโดยไม่มีเครื่องประดับเพชร
จะชิ้นเล็กชิ้นใหญ่แล้วแต่งาน
เวลาพวกเราไปกินข้าวกัน...จูนจะดูเป็นสาวไฮโซที่สุดในกลุ่มเพื่อนๆ
ตรงข้ามกับสมาชิกกิตติมศักดิ์แห่งพรรคกระยาจกอย่างฉัน
เมื่อฉันไปถึงตามนัด....จูน นั่งรอฉันอยู่แล้ว
จูน รวบผมรวกๆ หน้าตาไม่แต่ง ไม่มีเพชรสักชิ้น
" เฮ้ย...แปลกวุ้ย วันนี้ไฮโซคืนสู่ธรรมชาติหรือยะ " ..ฉันทักจูนตามประสาของฉัน
"...... ... แกพอจะมีเงินให้ชั้นยืมก่อนซักห้าหมื่นมั้ย
ชั้นเดือดร้อนจริงๆ พี่เอกมีเรื่องอีกแล้วแก
........................................................."
พี่เอก สามีของจูน เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งในสายตาของฉัน
วันที่จูนแต่งงาน ฉันรู้สึกยินดีกับจูนจริงๆ...ดีใจที่เพื่อนมีความสุข
พี่เอกเป็นคนไม่เจ้าชู้ ไม่เที่ยวเตร่ ไม่กินเหล้า
คงมีแค่เรื่องการสูบบุหรี่จัดที่จูนบอกว่า ธรรมดาน่ะ พี่เค้าทำงานเครียด
พี่เอกทำงานในสายบันเทิง ตำแหน่งหน้าที่ ฝีมือในการงานไม่เป็นรองใครเลย
ฉันไม่สนิทสนมกับพี่เอกมากมายนัก เพราะช่วงที่จูนคบหากับพี่เอก ฉันกับจูนไม่ค่อยได้เจอกัน
ปีที่แล้ว ฉันไปหาจูนที่บ้าน
บ้านเราอยู่ไกลกันคนละฝั่งเมือง นานๆครั้งถึงจะไปหากันถึงบ้าน
ลูกของจูนวิ่งมากอดทักทายฉัน เด็กผู้หญิงอายุสามขวบหน้าตาบ้องแบ๊ว สวยเหมือนแม่
" สวัสดีค่ะคุงน้า " ....น่าเอ็นดูจริง ฟันก็หลอ พูดก็ไม่ชัด แต่ไหว้สวยนะคะ
พี่เอก นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้าน....หันมาทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม
" ต า ม ส บ า ย น ะ ค รั บ "
" ปล่อยพี่เอกเค้าดูทีวีไปเหอะ..เรามานั่งกินอะไรกันหน้าบ้านดีกว่า "
จูนบอกฉันด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ภาพพี่เอกที่ฉันเห็นคือ
ข้างซ้ายของพี่เอก วางโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์บ้าน
ข้างขวาคือวิทยุเครื่องเล็กๆ มีเสียงเล็ดลอดออกมาพอได้ยินว่าเป็นการคุยกันของคนสองคน
ข้างหน้าคือนิตยสารฟุตบอล หนังสือพิมพ์หน้ากีฬา
และกระดาษโน๊ตที่จูนบอกว่านั่นคือโพยบอล
ที วี กำ ลั ง ถ่ า ย ท อ ด ส ด ฟุ ต บ อ ล นั ด ดั ง
ครั้งนั้น จูนบอกว่า พี่เอกเป็นแบบนี้มาห้าหกเดือนแล้ว
นอนดึก ไปทำงานสาย กลับมาบ้านก็อยู่สภาพนี้แหละ
" คุ ง พ่ อ อ ะ . . อ า ร า ย ก็ .. บ็อง.. บ็อง.. บ็อง.. "
ฉันยังจำแววตาของเจ้าของเสียงใสๆที่พูดประโยคนี้ได้ดี
วันนี้...จูนเล่าเรื่องราวของครอบครัว ในเรื่องที่ฉันไม่แปลกใจนัก
ฉันเคยให้จูนยืมเงินเพราะเหตุผลประมาณนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
ซึ่งจูนนำมาคืนให้ฉันในเวลาไม่นานนัก
" พี่เอกเค้าได้มาเยอะ งวดนี้ "
" เค้าสัญญากับชั้นว่า จะไม่เล่นอีกแล้วหละ "
วันนั้นจูนพูดด้วยสีหน้าสดใส
ต่ า ง จ า ก วั น นี้ ลิ บ ลั บ
ฉันไม่ได้ให้จูนยืมเงินตามจำนวนที่จูนบอก
เพราะฉันมีเรื่องที่ต้องใช้เงินหมุนเวียนอยู่ ไม่มีพอที่จะให้จูนยืม
จูนไม่ได้ยืมฉันคนเดียว จูนตระเวนไปยืมเงินเพื่อนทุกคนเท่าที่จะนึกออก
เ พ ร า ะ ค รั้ ง นี้ .... ไม่ใช่แค่บ้าน หรือรถ ที่จะต้องเสียไป
เ พ ร า ะ ค รั้ ง นี้ .... อาจหมายถึง " ชีวิต " ของสามีที่จูนรัก
ฉันหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์เท่าที่คนจากพรรคกระยาจกอย่างฉันจะพกติดตัวมา
" แกเอาไปเหอะจูน ชั้นมีแค่นี้ละที่พอให้ได้ ไม่ต้องคืนหรอก "
ฉันมองภาพจูน ที่กำลังขึ้นรถแท๊กซี่เพื่อไปหาเพื่อนอีกคนนึง ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
ใ น หั ว ข อ ง ฉั น กำ ลั ง มี เ พ ล ง ๆ ห นึ่ ง บ ร ร เ ล ง
" กี ฬ า... กี ฬ า... เ ป็ น ย า วิ เ ศ ษ ... ฮ้า ไฮ้ .. ฮ้า ไฮ้ "
. . .