Finding Forrester / Somewhere over the rainbow
เร็วๆนี้ ผมได้ดูหนังเรื่อง Swing Girls เป็นหนังญี่ปุ่นสนุกๆ เนื้อเรื่องมีว่า เมื่อเด็กผู้หญิงชั้นมัธยมปลายที่เซี้ยวสุดๆ หันมาเอาดีโดยเล่นดนตรีแจ๊ซ อ่านบทวิจารณ์บางแห่ง ว่าผู้กำกับและเขียนบทนั้นมีความถนัดทางด้านดนตรี เขาเอาดนตรีมาใส่ในหนังของเขา ในหนังเรื่องนี้เอาดนตรีแจ๊ซ แบบสวิง/บิ๊กแบนด์มาเป็นตัวเดินเรื่อง
หนังทำให้ผมรู้สึกสนุกเป็นอย่างยิ่ง / และก็ยังได้ฟังเพลง what a wonderful world ของหลุย อาร์มสตรอง และ Love ของแน็ต คิง โคล ซึ่งแม้ว่าจะให้สีสันของหนังนุ่มละมุนลงไป แต่ก็ไปกันได้ดีกับอารมณ์สนุกๆ กลับบ้านผมยังนึกสนุกที่จะเอาแผ่นแจ๊ซบิกแบนด์ซึ่งมีแค่สองสามแผ่นมาฟังต่อ พูดได้ว่าเป็นอารมณ์ที่ค้างมาจากตอนจบของหนังที่การแข่งขันดนตรีนั้น วง SG เล่นบิ๊กแบนด์แบบสนุกสุดๆ
พูดถึงเพลงแจ๊ซ พลอยให้นึกถึงหนังอีกเรื่องหนึ่ง Finding Forrester คิดว่าหลายคนเคยดูแล้วครับ ผมประทับใจหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ หนังเมื่อปี 2000 แต่ผมได้ดูปีที่แล้วนี่เอง เป็นหนังเกี่ยวกับการค้นหาตัวเองของพระเอกผิวหมึกที่อยากเป็นนักเขียน- Jamal (บราวน์) และสปิริตของนักเขียนที่เขียนหนังสือเล่มเดียวแล้วดังแต่ก็หายตัวไปเลย (ณอน คอนเนอรี่)
ในซีกของของ Forrester หนังให้ภาพที่เหงาๆของนักเขียนที่อยู่ในโลกส่วนตัว ซึ่งยังเขียนอยู่แต่กลัวโลกภายนอก ส่วนซีกของ Jamal เอง การเป็นคนผิวดำก็มีปมด้อยเรื่องผิวสี เสน่ห์ของ Finding Forrester คือ การเป็นดราม่าที่ผูกเรื่องได้ชวนติดตาม ทั้งเรื่อง และนำไปสู่ไคลแม๊กซ์ของเรื่อง คือ ฉากที่ Forrester ขี่จักรยานไปมหาวิทยาลัยของ Jamal ไปอ่าน งาน ให้คนฟัง และงานที่อ่านนั้นเป็นงานชิ้นเยี่ยม ซึ่งปรากฏว่าไม่ใช่งานของ Forrester แต่เป็นงานของ Jamal ฉากนี้ถือเป็นไคลแม๊กซ์ที่ผมรู้สึกซึ้งสุดๆ
ตอนจบของหนังเรื่องนี้เศร้าอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็เป็นความจริงของชีวิต เมื่อ Forrester ตายไป และ Jamal ก็เป็นนักเขียนสมใจ ผมรู้สึกว่าเป็นความจริง แต่ก็เศร้า จมอยู่กับความเศร้าบนเก้าอี้ในโรงหนังนั่นแล้ว
ดีที่ว่า เพลง สุดท้าย Somewhere over the rainbow ในท่วงทำนองเรกเก้ ผ่อนคลายให้ความรู้สึกดีขึ้นมากๆ
Somewhere over the rainbow . Blue birds fly.
And the dreams that you dreamed of Dreams really do come true