เธอเอยรู้ไหม. . . ฉันบินมาไกลแค่ไหน
เธอเอยรู้ไหม ฉันบินมาไกลแค่ไหน
ฉันบินข้ามขอบฟ้า มหาสมุทร และเทืออกเขา
โบยบินอย่างล้าอ่อน
เพื่อหลีกหนีไฟร้อน จากที่ที่เคยอยู่
ที่นั่นเปลวไฟโหมกระพือ
แม้ว่าไฟจะไม่ได้ลุกไหม้ถึงรังของฉัน
แต่ฉันก็ไม่อาจทานทนอยู่บนความร้อนรุ่ม
ในป่าที่ใบไม้เขียวชอุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงนั้นได้
ฉันได้ยินเสียงกระซิบจากนกน้อยต่างถิ่น
บอกว่าที่นี่. . .
มีความหนาวเย็นอย่างที่นกน้อยที่บ้านฉันปราถนา
ด้วยเพราะจนปัญญาที่จะดับไฟอันคุกรุ่นที่บ้านได้
ฉันจึงดั้นด้น. . .
เพื่อนๆของฉันจึงดั้นด้น. . .
โบยบินข้ามขอบฟ้า มหาสมุทร และเทือกเขา
โบยบินอย่างล้าอ่อน. . .
เพื่อมุ่งหน้าสู่ความเหน็บหนาวอย่างที่เขาว่า
แรกที่ฉันสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นจากน้ำแข็งขั้วโลกอย่างเธอ
ใจที่เคยร้อนรุ่มแสนชุ่มชื้น
ฉันแสนตื่นตาตื่นใจไปกับความแปลกใหม่ที่ได้สัมผัส
ระเริงรื่นไปกับความเย็นที่ได้รับ
หากแต่ฉันลืมคิดไปว่าฉันไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ตรงนี้
ขนของนกในเขตร้อนที่ปกคลุมอยู่นั้น
บางเบาเสียจนไม่อาจทัดทานไอน้ำแข็งเย็นจัดจากเธอได้เลย
รู้ตัวอีกที. . .
ฉันก็สั่นสะท้านเสียแล้ว
ฉันบินข้ามขอบฟ้า มหาสมุทร และเทือกเขา
โบยบินอย่างล้าอ่อน พวกเราโบยบินอย่างล้าอ่อน
เธอรู้ไหมฉันบินมาไกลแค่ไหน
เพียงเพื่อมาตาย. . .
อยู่ที่โน่นแม้โหดร้าย และอาจต้องตายในสักวัน
แต่คงไม่เร็ววัน. . . อย่างนี้
ในวูบสำนึกสุดท้ายฉันคิดถึงไฟอันรุ่มร้อนของบ้านที่จากมา
ฉั น คิ ด ถึ ง บ้ า น