คนรักของความรัก 4
อุมาพร : สาวผู้ประดุจดวงดาวแห่งชีวิต
ค่ำดึกดื่นคืนที่ดวงเดือนดับ ครุ่นอยู่กับคืนหนาวอันยาวเยิ่น มีเรื่องราวมากมายให้เผชิญ พร้อมทิศที่ต้องประเมินก่อนเดินทาง
หอบทุกความว้าเหว่เที่ยวเร่ร่อน สุมซุกซ่อนเศร้าโศกที่โลกสร้าง ซึมซับความหดหู่มิรู้จาง ทนอ้างว้างเก็บงำโดยลำพัง
คือฉันที่โลกเห่อย่างเหว่ว้า พะวักหน้าก็หลงหะวงหลัง ระหกระเหินโหยหาละล้าละลัง แสวงหาฟากฝั่ง...หลั่งน้ำตา
โดยฝันหาฟากหวังฝั่งสุดท้าย สุดทางปลายบรรจบเพื่อภพหน้า นาทีนั้น ฉับพลันวันเวลา ดาวจากฟ้าก็ส่องมากระทบใจ
"อุมาพร" ดาวแห่งห้วงอาวรณ์สว่างไสว มิรู้โดยผลิดวงจากห้วงใด จึงมาทอแสงมัยได้ปานนั้น
ทั้งมืดมนหม่นไหม้...ใช่ฉันเจอ ทั้งพร่ำเพ้อ ทั้งตระหนก ทั้งอกพรั่น สู้ต่อต้านทั้งหมดการกดดัน โลกที่ฉันเงียบงัน ฉันงมงาย
ช่างเงียบเหงาราวคลี่ด้วยสีหมอก โลกภายนอกสิ้นงามหมดความหมาย ไม่ห่วงค่านักสู้ลูกผู้ชาย โลกภายในใกล้ตายอยู่ใต้ตรม
และแล้ว... ดวงแก้วแห่งฟ้าทอผ้าห่ม ด้วยใจแห่งรักจึงถักพรม คลุมใจที่รอล่มถล่มดิน
ด้วยแสงแห่งดวงดาวที่พราวฟ้า แสงกลับนำกลิ่นมาบำรุงกลิ่น ปลุกชีวิตชีวีกล่อมชีวิน ให้ชีวีที่ใกล้สิ้นกอปรชีวิต
เป็นแรงผลักให้รู้รักรูจักค่า เป็นแสงส่องศรัทธาประกาศิต ทอความฝันปานว่าเนรมิต จึงความคิดกำหนดความงดงาม
เพราะรักเธอจึงรักสลักกวี ระบายทุกถ้อยทีที่ทุกข์ถาม ด้วยหัวใจใฝ่โยงทุกโมงยาม ฉันจึงก้าวผ่านข้ามความลำเค็ญ
เติบโตบนแผ่นดินกลิ่นอักษร เก็บเศร้าที่ซุกซ่อนเป็นเครื่องเซ่น สังเวยความเจ็บร้าวอันหนาวเย็น ระบายโลกที่เห็นไม่เว้นวัน
โอ้ดวงดาว... จะเอื้อมสาวมือคว้าไม่กล้าฝัน จึงกลั่นความคิดถึงรำพึงรำพัน ฝากใจไปผูกพัน..."อุมาพร"
เธอเปี่ยมล้นความงามนามความรัก ฉันเรียงถ้อยร้อยถักตัวอักษร จนได้พบตัวตนคนเขียนกลอน ส่องสะท้อนความฝันอยู่นั่นแล้ว
ต่อชีวิตให้ฉันมีชีวี ซึ่งเธอมีพลังดั่งดวงแก้ว เป็นแสงดาวส่องพรายเจิดสายแพรว ที่สาดแววสว่างอยู่กลางใจ
ค่ำดึกดื่นคืนที่ดวงเดือนดับ ฉันนับดาววาววับสว่างไสว คอยส่องทิศเส้นทางกว้างและไกล ด้วยดาวชัยเบิกช่องให้มองทาง
สุดท้ายนี้...พี่สาว
ความเจ็บร้าวเศร้าโศกที่โลกสร้าง
ช่างเถอะ...แม้ว่าจะอ้างว้าง
ฉันจะเติมช่องว่างเพื่อสร้างดาว
แด่พี่สาวที่ปั้นแบบให้ข้าพเจ้า ให้รู้จักรักกวี รักความฝัน
แด่คนนี้ที่ฉันรัก...